ก่อนที่โหลชีจะหายจากอาการช็อก จู่ๆ ชายเต็มเลือดก็ยืนขึ้นอุ้มนางแล้วยืนขึ้นทันที ออร่าในร่างกายเปลี่ยนไปกะทันหัน "เตรียมที่จะต่อต้านศัตรู"
ทันทีที่พูดจบ องครักษ์หลายคนก็คลายความตกใจทันที ราวกับว่าพวกเขาได้ซ้อมมาแล้วหลายร้อยครั้ง ทั้งสี่ถูกแบ่งมาอยู่ระหว่างข้างหน้าหลังซ้ายขวา ชักกระบี่ออกมา ด้วยลมหายใจนิ่งสงบ
อิงเขย่งปลายเท้าเล็กน้อย ทันใดนั้นก็กระโดดออกมา และหล่นบนต้นไม้หนาแน่นที่อยู่ด้านหลังซึ่งอยู่ไม่ไกล ซ่อนร่างของเขา แต่ในมุมที่โหลชีสามารถมองผ่านช่องว่างระหว่างกิ่งไม้และใบไม้ เห็นแขนขวาเหยียดไปข้างหน้า บนแขนมธนูขนาดเล็กโดยเล็งไปที่ด้านหน้า
ชายอีกคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้าสองก้าว โดยตั้งท่าแนวหน้า คนทั้งหมดเป็นเหมือนดาบและโล่
โหลชีรู้สึกประหลาดใจ ในขณะนี้ นางมองเห็นความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ แต่เป็นศัตรูชนิดใดที่ทำให้พวกเขาเตรียมพร้อมในการต่อสู้เช่นนี้? พวกเขากำลังถูกล่าเหรอ?
"เจ้าตาแดงปรึกษาหารือกันหน่อยดีไหม" โหลชีกระซิบ "ดูสิ ข้าเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่อ่อนแอและไม่มีที่พึ่ง ถ้าเจ้าอุ้มข้าไว้ตลอด สักครู่ถ้าต่อสู้กันข้าคงเป็นภาระอย่างแน่นอน หรือเจ้าวางข้าลงก่อน แล้วให้ข้าซ่อนตัวไว้ก่อนดีไหม?"
ขอเพียงแค่วางนางลง และรอให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน แล้วนางก็สามารถหลบหนีจากความโกลาหลนี้ได้
เจ้าตาแดงก้มมองนาง โดยไม่พูดอะไร
ไม่เห็นด้วยเหรอ พยายามต่อไป
โหลชีต้องการพูดเรื่อยๆ ก็มีเสียงร้องเพลงที่ไร้ตัวตนดังขึ้น
คนที่ร้องเพลงน้ำเสียงฟังไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง เสียงร้องเพลงนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไร โหลชีฟังไม่รู้เรื่อง แต่น้ำเสียงนั้นเหมือนลมเย็นที่เงียบสงบเงียบภายใต้แสงจันทร์ แว่วเข้ามาในหูเบาๆ
และเหมือนมือของหญิงสาว ที่ตักน้ำเย็นๆ ในลำธารอย่างสนุกสนาน หรือเหมือนฝนในเดือนสาม หยดลงมาที่ต้นกล้วยนอกหน้าต่าง และเหมือนอยู่ในม่านฝนมีหญิงสาวอายุสิบหกที่มีบุคลิกอ่อนช้อยเดินมาท่ามกลางหยาดฝนและหมอกควัน ร่มที่ถืออยู่ในมือก็หมุนให้น้ำกระเซ็นออก และรอยยิ้มที่อ่อนโยนของนาง
โหลชีหลงใหลอยู่กับเสียงเพลงที่ไพเราะนี้ ด้วยความสงสัย เพลงที่ไพเราะเช่นนี้ ทำไมเจ้าตาแดง และพรรคพวกของเขาจึงเตรียมพร้อมที่จะต่อต้านศัตรูอย่างระมัดระวัง?
นางหันศีรษะ และมองดูที่มาของเสียงเพลง คิดว่าจะเห็นสาวใช้แสนสวยหามเกี้ยวมาจากทางไกลกลีบดอกไม้หลากสีกระจัดกระจายไปทั่ว หญิงสาวบนเกี้ยวมีผิวสวยงามดั่งหยกขาว ทำให้หลงใหล
แต่เมื่อรวบรวมสติได้ก็เห็นร่างเงาสีดำจำนวนสิบกว่าคนโผล่ขึ้นมาภายใต้แสงจันทร์ที่สว่างไสว ใบหน้านั้นซีดราวกับผี มีขอบตาดำ นัยน์ตาดุร้าย จ้องเขม็งด้วยความโกรธคล้ายเจียงซือ และโบกมือที่ผอมแห้ง เล็บยาวประมาณสิบเซนติเมตร มีความคมมาก ทาเล็บสีแดงเลือดหมู เฉกเช่นบ๊วยเถี่ยวฮวง*(*บ๊วยเถี่ยวฮวง หรือนางมารกระดูกขาว เป็นตัวละครใรเรื่องมังกรหยก)
โหลชีตกใจมาก เกือบจะอดไม่ได้จนต้องกรีดร้องออกมา ใครกันแน่ที่อารมณ์ดีเช่นนี้! ร้องเพลงที่ยอดเยี่ยมและไม่มีตัวตน ได้ส่งกลุ่มเจียงซือสไตล์บ๊วยเถี่ยวฮวงมา!
ต้องทำกันขนาดนั้นเลยเหรอ!
จับแขนนางไว้แน่นขึ้นอีกครั้ง เจ้าตาแดงพูดอย่างเคร่งขรึม "ปิดหู แล้วหลับตา"
"หือ?"โหลชียังตั้งสติไม่ได้จากเสียงร้องของเจียงซือ ใบหน้าเจ้าตาแดงค่อยๆ เบลอ ค่อยๆ เบลอ และกลิ่นคาวเลือดบนร่างกายของเขาแรงขึ้นเรื่อยๆ แววตาของโหลชีค่อยๆ เลือนลาง
ทันใดนั้นก็มีหน้าผีพุ่งเข้ามา ริมฝีปากดำและฟันดำดั่งกริชกำลังจะกัดจมูกของนางอย่างน่ากลัว!
โหลชีตกใจไม่น้อย แต่รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ร่างกายดูเหมือนจะไม่ใช่ของตัวเอง อ๊ะๆๆ ! ปากผีนั่นอ้าซะกว้าง ไม่ใช่จะกัดจมูกนาง แต่จะบริเวณคอของนาง!
"ผ๊วะ !"
เสียงกระบี่กระทบกัน เสียงชัดเจน โหลชีใจสั่นไหว ชั่วขณะแววตาของนางชัดเจน และหน้าผีที่กัดคอของนางก็หายไปทันที!
มันเป็นภาพลวงตา?
จู่ๆ กรงเล็บผีสีขาวก็จิกนางไว้อย่างแรง พร้อมกับแรงลมหนาวที่พัดมา
โหลชีเบิกตากว้าง นี่ไม่ใช่ภาพลวงตา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ