ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 246

สรุปบท บทที่ 246 โหมดหักหน้า: ใต้ร่มยาใจ

อ่านสรุป บทที่ 246 โหมดหักหน้า จาก ใต้ร่มยาใจ โดย ลิ่วเยว่

บทที่ บทที่ 246 โหมดหักหน้า คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ใต้ร่มยาใจ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

"ใช่ นี่คือราชาเถาทองดำ" โหลชีพูดเสียงเรียบ

เซียวฉิงมองราชาเถาทองดำนั่นพลางอุทานด้วยความตกใจว่า "เมื่อก่อนท่านพ่อเคยบอกพวกข้าไว้ เหล็กดำน้ำแข็งพันปีเป็นวัตถุดิบที่ดีที่สุดในการสร้างกระบี่ และถ้าจะสร้างแส้อันดับหนึ่ง ย่อมต้องเป็นราชาเถาทองดำเท่านั้น แต่ยากนักจะหาราชาเถาทองดำได้ ไม่คิดว่า ตอนนี้ข้าจะสามารถเห็นราชาเถาทองดำกับตาตนเองได้!"

เซียวหั่วตื่นเต้นมาก และเปิดดูภาพนั้นอีก พอดูเขาถึงกับสูดลมหายใจยะเยือก และหันมองโหลชีอย่างตะลึง "นี่คือ..."

"นี่เป็นภาพออกแบบแส้ที่ข้าวาดเอง เจ้าบ้านเซียวคิดว่าข้าวาดเป็นอย่างไร?"

ที่นางใช้คือพู่กันถ่านที่เหลาให้แหลม สามารถวาดรายละเอียดส่วนประกอบได้เหมือนจริงมาก ความยาวของแส้ ทุกองค์ประกอบในนั้น ปุ่มกลไกทุกส่วนบนด้ามแส้ ยังวาดออกมาได้ละเอียดถี่ถ้วนชัดเจน

เซียวหั่วเหม่อลอย "มีภาพเช่นนี้ เซียววั่งย่อมสร้างแส้นี้ได้เช่นกัน และสิ่งที่สร้างออกมาย่อมเทียบเคียงได้กับแส้เทพในอันดับอาวุธ"

"อะไรนะ?" เซียวหยงตกใจ

เซียวหั่วพูดต่อว่า "ไม่ ไม่เพียงเซียววั่ง ขอเพียงฝีมือพอตัว จริงจังสักหน่อย ย่อมสร้างแส้นี้ออกมาได้แน่นอน!"

โหลชีพูดต่อว่า "ใช่ ข้าสามารถพูดเช่นนี้ได้ ถ้ามีนักทำอาวุธที่ข้าเลื่อมใส ใช้ราชาเถาทองดำและภาพร่างภาพนี้ก็จะสามารถผลักดันเขาถึงจุดปรมาจารย์ได้เลย" ดังนั้นโลกอนาคตมีพวกคนมีชื่อเสียงที่แค่เล่นหนังเรื่องเดียวหรือร้องเพลงเดียวก็โด่งดังเป็นพลุแตกนั่น ราชาเถาทองดำและภาพร่างภาพนี้ของนางก็สามารถดันให้นักสร้างอาวุธคนหนึ่งโด่งดังได้เลย

"ถ้าข้าให้เซียววั่งสร้างแส้นี้ให้ข้า ต่อให้พวกท่านสามารถสร้างกระบี่เหล็กดำน้ำแข็งนั่นได้ เซียววั่งก็สามารถอาศัยแส้นี้เทียบชั้นกับพวกท่านได้เช่นกัน"

โหลชีพูดเสียงราบเรียบ ส่วนเฉิงสิบกับโหลวซิ่นเหล่มองเซียวหยงด้วยแววหยามหยั่น

แม่นางของพวกเขามิใช่คนที่โดนรังแกแล้วจะยอมอดทนอยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรมาคนที่เคยหาเรื่องนางไม่เคยรอดสักคน ฟ่านฉางจื่อคาดว่าคงโกรธจนกระอักเลือด น่าหลานฮั่วซินตบเขาหนึ่งฉาด นางก็ฆ่าอินทรีของอีกฝ่ายทันที น่าหลานฮั่วซินจะฆ่าพวกเขา นางก็ฆ่าองครักษ์รุ่น'เวิ่น'สี่คนของอีกฝ่ายทันที ไม่ว่ายังไงก็ไม่ให้อีกฝ่ายได้งูยักษ์เย็นสารทฤดูไปแน่นอน ถึงน่าหลานฮั่วซินจะยังไม่ตาย แต่พวกเขาเชื่อว่า ช่วงนี้หัวใจน่าหลานฮั่วซินต้องพังทลายแน่นอน

คุณหนูห้าเซียวหยงดูสถานการณ์ไม่ออก แม่นางของพวกเขากลับไม่ใช่คนที่ยอมอดกลั้นไม่เอาเรื่อง

นี่ไง เริ่มโหมดหักหน้าแล้วไง?

ที่จริงเฉิงสิบกับโหลวซิ่นชอบดูโหลชีหักหน้าคนอื่น ดังนั้นตอนนี้พวกเขาเลยกำลังมองดูสีหน้าเกือบซีดเผือดของเซียวหยงอย่างสนุกสนาน

และตอนโหลชีเริ่มโหมดร้ายขึ้นมาก็ไม่มีทางยอมจบเพียงเพราะใบหน้าซีดเผือดของอีกฝ่ายหรอก นางหันมองเซียวหยง ถามด้วยน้ำเสียงรื่นหูว่า "ถ้าคุณหนูห้ารู้สึกว่าซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกันจะทำให้ท่านยอมรับได้ง่ายกว่า เช่นนั้นก็ย่อมได้ แส้นี้ข้าไม่รบกวนตระกูลเซียวแล้ว ไปหาคนอื่นสร้างให้ก็ย่อมได้ ส่วนเลือดจิ้งจอกม่วง ก็ยังขายได้ ตระกูลเซียวต้องการสามหยดใช่หรือไม่?" นางชะงักไปหน่อยก่อนพูดต่อ "เดิมทีข้าไม่ได้มีจิ้งจอกม่วงไว้เพื่อทำการค้าหาเงินอยู่แล้ว แต่เห็นแก่ที่เมื่อวานท่าทางจริงจังจริงใจของคุณชายใหญ่เซียว แค่ครั้งนี้เท่านั้น คุณชายใหญ่เซียว ด้วยราคาตลาดเมื่อก่อน เลือดจิ้งจอกม่วงราคาเท่าใดรึ?"

เซียวฉิงสีหน้าค่อยๆแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ ถอนหายใจพลางว่า "เลือดจิ้งจอกม่วง... ประเมินราคามิได้"

ไม่เคยมีใครได้ครอบครองจิ้งจอกม่วงมาก่อน จะเอาราคามาจากไหน? คนที่อยากได้เลือดจิ้งจอกม่วงมีมากมาย แต่ไม่เคยมีใครเอาเลือดจิ้งจอกม่วงออกมาขายเลย

ใบหน้าเซียวหยงแดงและก็ขาว ขาวและก็แดง

นางบอกว่า ก็แค่เลือดจิ้งจอกม่วงสามหยดเท่านั้นเอง? แค่สามหยดเองนี่? ไหนเลยจะเทียบเคียงกับอาวุธชิ้นหนึ่งที่ตระกูลเซียวของพวกเขาตั้งอกตั้งใจทำได้!

ตอนนี้อาวุธของอีกฝ่ายไม่ต้องให้ตระกูลเซียวทำให้ แต่พวกเขาไม่แน่ว่าจะสามารถจ่ายราคาเลือดจิ้งจอกม่วงสามหยดนั่นได้!

และพวกเขายังกลัวนางจะเอาราชาเถาทองดำไปให้เซียววั่งสร้างแทนด้วย! ถ้าเป็นอย่างนั้น เซียววั่งก็ยิ่งมีสิทธิ์ในการเทียบชั้นกับพวกเขามากขึ้นไปอีก!

"คุณชายเจ็ด บุตรสาวมิรู้ความ ขอคุณชายเจ็ดโปรดอภัย" ครานี้เซียวหั่วยิ่งโมโหเซียวหยงหนักขึ้น ถลึงตาใส่นางหนักๆหนึ่งที ส่งสัญญาณให้รีบขอโทษโหลชีซะ

โหลชีรู้สึกมาตลอดว่าตนนิสัยไม่เลวเลย อารมณ์ดีพอได้น่ะ แต่ไม่ได้แปลว่านางจะยอมให้คนอื่นพูดจาเหน็บแนมนางอยู่ตลอด ถ้านางยังต้องอยู่ที่ตระกูลเซียวต่อไป นางก็ไม่อยากให้เซียวหยงมาส่งผลกระทบต่อความอยากอาหารของนาง

เซียวหยงกัดฟันกรอด ตอนนี้นางรู้แล้วว่าตนทำให้โหลชีไม่พอใจ นางไม่มีความรู้มากพอ และยังดูถูกโหลชี ทำตระกูลเซียวขายหน้า เดิมคิดอยากจะดึงฐานะของตระกูลเซียวให้สูงขึ้น ตอนนี้กลับทำให้ท่านพ่อและพวกน้องชายนางต้องเคารพนบนอบหนักกว่าเดิม

นางลุกขึ้นมา พูดกับโหลชีด้วยสีหน้าแข็งเกร็งว่า "ขอคุณชายเจ็ดโปรดอภัย เซียวหยงขอตัวก่อน ท่านพ่อท่านแม่ข้าและน้องชายทั้งสองเคารพนบนอบต่อคุณชายเจ็ดมาโดยตลอด ขอคุณชายเจ็ดได้โปรดอย่าโกรธเคืองพวกเขา" พูดไปก็ย่อตัวลงคารวะ พาสาวใช้ของนางออกไปอย่างรีบร้อน

ส่วนคุณหนูหกเห็นนางออกไป ก็ย่อตัวคารวะโหลชี รีบตามออกไป

นางรับปากแล้วหรือไง?!

คนโบราณน่าตายนัก ความบ้าอำนาจน่าตายนัก คนรักอิสระอย่างนางคงไม่มีทางกลายเป็นสนมของเขาแค่เพราะเฉินซ่าประกาศออกมาฝ่ายเดียวหรอกมั้ง?

ต่อมาถามเฉิงสิบกับโหลวซิ่น ทั้งสองกลับตอบพร้อมกัน

"แม่นาง เดิมท่านก็เป็นนางกำนัลของฝ่าบาทใช่หรือไม่เล่า? ถึงจะไม่มีสัญญาขาย แต่ฝ่าบาทเป็นนายท่านของท่าน นายท่านแต่งตั้งนางกำนัลเป็นสนม มิต้องการให้ท่านรับปากอยู่แล้ว ออกราชโองการก็ได้แล้ว ปกติแล้ว หากนางกำนัลได้รับโอกาสเยี่ยงนี้ มีแต่จะซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ไม่มีใครมิดีใจดอก" โหลวซิ่นมองนาง พลางหัวเราะแหะๆว่า "แน่นอน แม่นางมิใช่คนธรรมดา มิใช่คนธรรมดา"

โหลชีรู้สึกว่าโหลวซิ่นพูดจาน่าเตะมาก! นางถลึงตาใส่เขา ก่อนหันไปทางเฉิงสิบ "เฉิงสิบ เจ้าว่ามาสิ"

"ข้าน้อยรู้สึกว่า ถ้าแม่นางไม่เห็นด้วยจะเป็นพระสนม ควรกลับไปตำหนักจิ่วเซียวพูดกับฝ่าบาทให้รู้เรื่อง อย่างน้อยต้องเกลี้ยกล่อมให้ฝ่าบาทกยกเลิกราชโองการแต่งตั้งสนม มิเช่นนั้นต่อไปแม่นางอยากจะกลับสู่ฐานะเดิมของตน มิว่าผู้ใดก็จะถือท่านเป็นพระสนมแห่งพั่วอวี้อยู่ดี"

ดังนั้นนี่เป็นจุดน่าตายของยุคโบราณนี่ล่ะมั้ง? นางอยู่ของนางดีๆ เขาสามารถไม่ถามความเห็นนาง เอ่ยปากยัดฐานะหนึ่งมาให้ ถ้านางไม่ต้องการฐานะนี้ ยังต้องขอยกเลิกเองอีก นี่มันเหมือนกับได้สเตตัสหย่าร้างมาดื้อๆอ่ะ

โหลชีรู้สึกว่าถ้าตอนนี้มีหนวด คงโกรธหนวดกระดิกล่ะ

"แม่นาง ท่านว่าถ้าพวกน่าหลานฮั่วซินและซู่หลิวอวิ๋นเห็นสัญญานี้ของฝ่าบาท จะเป็นบ้าไปเลยดื้อๆไหม?" โหลวซิ่นดูจะตื่นเต้นพลางว่า "อย่าพูดไป สัญญาฉบับนี้ของฝ่าบาท ถ้าทำสตรีสองนางนั้นโกรธจนตายได้ นับว่าคุ้มค่านัก"

ปึ้ก!

โหลชีดีดกะโหลกเขาหนึ่งที

ลมอ่อนๆพัดมา เงาร่างหนึ่งปราดผ่านไป โหลชีเลิกคิ้วมองมุมหนึ่งของสวน "พวกเจ้าอยู่นี่ ข้าไปดูสักหน่อย"

ใครกันที่ล่อนางไปที่มุม?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ