ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 248

"ดูคุณชายพูดเข้า ข้าเป็นหมอพเนจร ย่อมไปทุกที่อยู่แล้ว" สตรีนางนั้นคือหมอโจวคนนั้นที่พกวเขาเจอที่โรงเตี๊ยมลั่วหยาง ตอนนั้นนางโดนพ่อบ้านหานเชิญไปจวนหานเพื่อรักษานี่นา ทำไมตอนนี้กลับมาปรากฏตัวที่เมืองนั่วราได้ล่ะ? จะว่าไป นี่ถือเป็นออกนอกแคว้นแล้วนะ

โหลชีจำได้ว่าตอนนั้นหยุนเฟิงเคยบอกไว้ สตรีนางนี้อาศัยอยู่ในภูเขา บางครั้งจะออกมาพักที่เมืองนั่วราประมาณสิบวัน แต่ไม่ได้บอกว่านางมีไปที่อื่นด้วย

จากตงชิงมาเป่ยชางไม่ได้มีเส้นทางเดียว เมืองนั่วราก็ไม่ใช่เมืองชายแดน ดังนั้นการที่มาเจอหมอโจวที่นี่ โหลชีรู้สึกว่ามันดูไม่ชอบมาพากลอยู่

ตอนที่นางไปงานเลี้ยงที่จวนตระกูลหาน หมอโจวนี่น่าจะอยู่ที่จวนนั่น และยังถูกจวนตระกูลหานเชิญออกไป ทำไมถึงไม่เห็นนางในงานเลี้ยงเลย? มันดูผิดปกติอยู่

แต่นางไม่รู้สึกรังสีมาดร้ายจากตัวหมอโจวนี่ เพียงแค่ดูลึกลับเท่านั้นเอง

"งั้นคงไม่รบกวนหมอโจวเดินเล่นแล้วล่ะ" โหลชีพูดพลางเดินอ้อมนางไป แต่หมอโจวกลับขวางนางไว้อีก

"คุณชาย เรามีบุพเพจึงได้พบกัน มิสู้เชิญข้ากินข้าวสักมื้อเถิด" โหลชีกำลังจะพูด เสียงร้องแร่แห่กระเชอดังลอยเข้ามา พอฟังแล้วคุ้นหูพิกล

"หมอโจว หมอโจวท่านรีบไปดูเสี่ยวเป่าหน่อยเถิด!"

ร่างโหลชีกับหมอโจวแข็งค้าง คือตกใจ

ทั้งสองเหลือบตามองไป มีร่างใหญ่ร่างหนึ่งแบกคนไว้บนหลังวิ่งมาด้วยความเร็วจากถนนข้างหน้า ไม่ใช่เจ้าตัวใหญ่หลูที่โรงเตี๊ยมเมืองลั่วหยางตอนนั้นแล้วจะเป็นใครกัน?

พระเจ้า ทำไมเขาถึงตามมาถึงที่นี่ด้วยล่ะ? มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ!

"นี่" โหลชีถามหมอโจวอย่างอึ้งๆ "ห่อที่ท่านให้เขาตอนนั้นคืออะไรกันแน่? ไหนบอกว่ากินอันนั้นไปแล้วเสี่ยวเป่าจะหายดีไง?"

หมอโจวกัดฟันพูดเสียงต่ำว่า "เจ้าโง่หรือไง ข้าพูดอย่างนั้นเจ้าก็เชื่อ? มียาพิเศษอย่างนั้นที่ไหนกัน? ข้ายังไม่เคยเจอเสี่ยวเป่านั่นเลย ตอนนั้นแค่เดาว่าพวกเขาคงยากจนไม่มีเงินซื้อข้าว เลยหิวจนล้มป่วยก็ได้ ดังนั้นเลยให้ผงแป้งห่อหนึ่งให้เขาไปละลายน้ำกิน..."

โหลชี "..."

สรุปนี่คือหมอเก๊

"ตอนนี้ไม่พูดว่าข้ามีโรคร้ายแล้ว?" นางถามอย่างหยอกล้อ

หมอโจวเอียงคอมองสำรวจนาง "ก็ไม่ใช่เพราะกลิ่นยาบนตัวเจ้าแรงหรือไง? ข้านึกว่าเจ้าขี้โรคเสียอีก"

ตอนนั้นโหลชีมักพบยาติดตัวเสมอ รวมถึงพวกเฉิงสิบกับโหลวซิ่นล้วนพกยาติดตัวกันทั้งนั้น

"งั้นจวนตระกูลหานหาเจ้าเรื่องอะไรกันล่ะ?"

"เจ้าคนแซ่หานนั่นมีลูกเขยเป็นคนซีเจียง เขายังไม่เชื่อใจลูกเขยเต็มร้อย ให้ข้าไปดูให้เขาหน่อยว่าเขาโดนคำสาปซีเจียงอะไรหรือเปล่า" หมอโจวบอก "ล้อเล่นน่า ข้ารู้เรื่องคำสาปซีเจียงอะไรเสียที่ไหนกัน ตอนนี้นายท่านที่ไม่ดีของข้าไม่เห็นเคยสอนข้าเลย--"

โหลชีจับประเด็นได้ทันที "เจ้าหมายความว่า เจ้านายเจ้าเป็นคนซีเจียง?"

"เว้ย เจ้าสิเป็นคนซีเจียง เจ้าเป็นคนซีเจียงกันหมดบ้านเลย!"

โหลชี "...งั้นเจ้านายรู้เรื่องคำสาปซีเจียงด้วยรึ?"

ด้านหลัง เจ้าตัวใหญ่หลูแบกคนวิ่งไล่มาทันแล้ว "หมอโจว รีบมาดูเสี่ยวเป่าเร็ว! หมอโจว!"

"เจ้าโง่นี่วิ่งไล่มาถึงนี่!" หมอโจวลากนางหมุนตัววิ่ง พูดอย่างเย่อหยิ่งว่า "นี่ เจ้านายข้าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของใต้หล้าเลยนะ เขามีความรู้เยอะมาก"

"เจ้านายเจ้าเป็นใครกัน?"

"ซวนหยวน...เอ๋ ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วยล่ะ?"

โหลชีกลับคว้าหมับข้อมือนางทันที บีบลากนางไปยังซอยมืดข้างๆ สองตาจับจ้องนางเขม็ง "พูดให้ชัดเจน เจ้านายเจ้าชื่ออะไร?"

นางใจเต้นแรง หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็น--

"คุณชาย เจ้าไม่ต้องดุขนาดนี้กระมัง?" หมอโจวมองนางสีหน้าหวาดกลัว แต่โหลชีจับสังเกตแววตาตกใจระคนสงสัยจากดวงตานางได้

"พูด!"โหลชีคว้าหมับคอหอยนาง และบีบแน่นอย่างไม่ยั้งมือ

หมอโจวหายใจไม่ออกฉับพลัน สีหน้าแดงก่ำ นางสองมือตะกายมือของโหลชี คิดจะแกะมือนางออก แต่ไม่ว่านางจะใช้แรงเท่าไหร่ก็ขยับมือโหลชีออกไม่ได้เลย

"พูด เจ้านายเจ้าเป็นใคร? ตอนนี้อยู่ที่ไหน?" โหลชีเป็นนางห้อยสองมือลงอย่างอ่อนแรง จึงผ่อนปรนแรงที่นิ้วมือเล็กน้อย

"แค่กแค่กแค่กแค่ก!" หมอโจวที่ได้อากาศเข้ามาใหม่สำลักเป็นการใหญ่ ปกปิดความตกใจและสงสัยไม่มิด แต่กลับย้อนถามนาง "เจ้าเป็นใครกัน?"

"ตอนนี้คือข้าถามเจ้า หากเจ้ามิพูด ข้าจะส่งเจ้าไปหายมบาล" โหลชีพูดอย่างเย็นชา

เฉิงสิบกับโหลวซิ่นยืนอยู่ที่ปากซอย หันกลับไปมองหนึ่งที พวกเขาไม่เข้าใจว่าแม่นางของพวกเขาลงมือกับสตรีผู้นี้ทำไม แต่แม่นางทำสิ่งใดย่อมต้องมีเหตุผล พวกเขาจึงทำได้เพียงเฝ้าอยู่ตรงนี้

"บอกเจ้า เจ้าก็ไม่แน่ว่าจะเคยได้ยิน เจ้านายของข้าชื่อซวนหยวนคง" ตอนหมอโจวเอ่ยนามเจ้านาย โหลชีสามารถมองเห็นประกายเศร้าหมองสับสนระคนคิดถึงในดวงตานาง นางน่าจะไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ

นางยิ้มเย็นบอก "ซวนหยวนคงเคยมีสาวใช้คนหนึ่ง แต่ข้าได้ยินมาว่า สาวใช้คนนั้นหน้าตางดงาม มิได้หน้าตาธรรมดาอย่างเจ้าเยี่ยงนี้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ