เด็กคนนั้นดูแล้วอายุแค่สิบปี ดูผอมโซมาก ใบหน้าซีดเผือดมีแววเขียวเทา ขอบตาดำคล้ำรอบดวงตาคู่นั้น ริมฝีปากยังเป็นสีดำอีก
เขาหลับตาแน่น ดูราวกับว่าไม่มีลมหายใจแล้ว ราวกับคนตาย
เสี่ยวโฉวยังอดตกใจไม่ได้ "เด็กนี่ยังมีชีวิตอยู่รึ?"
"ยังมีชีวิตอยู่" โหลชีรับคำเสียงขรึม หยิบเข็มยาวออกจากสายรัดเอว แทงเข็มไปที่สามปลายนิ้วมือของมือขวาตน มีเลือดสดไหลออกจากปลายนิ้วมือทันที
"พยุงเขาไว้"
"อ้ออ้อ ได้" เสี่ยวโฉวรีบเข้ามาพยุงเด็กนั่นไว้ เจ้าตัวใหญ่หลูยืนนิ่ง ไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ ถึงเขาจะมองไม่เห็นโหลชี แต่เสียงตะคอกของนางเมื่อครู่ทำให้เขาเชื่องนางอย่างไม่มีเหตุผล
โหลชีรีบวาดยันต์อย่างรวดเร็ว นิ้วสามนิ้วหงิกงออยู่ด้วยกัน เลือดสดสามหยดกลายเป็นหนึ่งหยดไปที่นิ้วชี้ นางเอาเลือดหยดนั้นแตะที่หน้าผากเด็ก เข็มยาวในมือฝังลงไปในตำแหน่งหัวใจของเด็กเข้าในเวลาเดียวกัน
เสี่ยวโฉวอุทานด้วยความตกใจ เบิกตากว้าง นี่นี่นี่ เข็มนี่แทงลงไปที่หัวใจเอาดื้อๆ จะไม่ตายหรอ? แต่โหลชีลงมือไวมาก นางยับยั้งไว้ไม่ทัน แต่ตกใจยังไม่ทันหายดี โหลชีก็ดึงเข็มออกแล้ว เข็มยาวที่แทงเจ้าร่างเด็กไปกว่าครึ่งมีเลือดออกมาด้วย แต่เลือดนั้นกลับเป็นสีดำ เลือดสีดำพุ่งออกมาตามทิศทางที่นางดึงเข็มออก หล่นตามปลายเข็ม กลายเป็นหยดเลือดสีดำที่ปลายเข็ม แต่กลับไม่ยอมหยดลงสักที
สีหน้าของเด็กเริ่มฟื้นฟูเป็นปกติขึ้นทันตาเห็นหลังจากที่โหลชีแตะนิ้วนั้น โหลชีหยิบขวดยาเล็กออกมา และใส่เข็มที่มีเลือดสีดำนั่นเข้าไป ปิดฝาให้แน่น และยัดกลับเข้าช่องลับของสายรัดเอวด้านนอก
การกระทำทั้งหมดของนางเฉียบคมรวดเร็ว เสร็จในคราวเดียว ไม่มีลังเลยึกยักแม้แต่น้อย เสี่ยวโฉวที่กำลังพยุงเด็กไว้กำลังจ้องมองนางอย่างตะลึง "เจ้า เจ้าเป็นอะไรกับนายท่านกันแน่?" ณ วินาทีนั้นนางเห็นเงาของนายท่านในตัวโหลชี การกระทำชัดเจนนั่น บวกกับสีหน้าเชื่อมั่นในตัวเอง ถึงทั้งสองคนจะไม่คล้ายคลึงกันเลย แต่ความรู้สึกที่นางจับได้มันเหมือนกัน
โหลชีเหล่นางหนึ่งทีไม่ตอบ และยื่นมือไปตบที่หน้าอกเด็กนั่นอีกครั้ง จากนั้นก็ถอยห่างอย่างรวดเร็ว
"พรืด!"
เด็กนั่นจู่ๆก็ลุกขึ้นนั่งและกระอักเลือดออกมา
เจ้าตัวใหญ่หลูดีใจมาก "เสี่ยวเป่า! เสี่ยวเป่าเจ้าฟื้นแล้วรึ?"
เด็กที่ชื่อเสี่ยวเป่านั่นค่อยๆลืมตาช้าๆ คนแรกที่เห็นคือโหลชีที่ยืนอยู่เบื้องซ้ายของเขา เขาเหลือบตามอง และจับจ้องที่ใบหน้านางพอดี เสี่ยวเป่ารู้สึกว่า นี่คือคนที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา นางกำลังยิ้มน้อยๆให้เขาพลางบอก "อย่ากลัว ไม่เป็นไรแล้ว"
เสี่ยวเป่าพลันตาแดงเรื่อฉับพลัน ลื่นไถลลงจากหลังเจ้าตัวใหญ่หลูลงมา มาคุกเข่าลงตรงหน้าโหลชีอย่างถูกต้อง สองมือประสานกันบนพื้น และโขกศีรษะให้นางสามครั้งอย่างถูกต้องตามรูปแบบ
"ขอคุณชายโปรดช่วยเขาด้วย"
รอยยิ้มของโหลชีค่อยๆเก็บกลับมา
นี่ต้องไม่ใช่เด็กธรรมดาที่ขอทานเร่ร่อนอยู่ด้านนอกตั้งแต่เล็กแน่ เขารู้ว่าตนเองเป็นอะไร และยังรู้ว่าตอนนี้ยังไม่หายดีด้วย
เขาหลอกเจ้าตัวใหญ่หลู บอกกับเจ้าตัวใหญ่หลูว่าตนเองฝันเห็นผีทุกวัน ดังนั้นเลยเจ็บป่วยอย่างนี้ บางทีคงเพราะรู้สึกว่า ถ้าพูดความจริงออกไปเจ้าตัวใหญ่หลูก็ไม่เข้าใจ หรือไม่อาจจะไม่กล้าพูด กลัวคนพบเห็น
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม นี่เป็นเด็กที่เข้าใจเรื่องดีจนทำให้คนปวดใจ ถึงเจ้าตัวใหญ่หลูจะดื้อรั้นหัวแข็ง แต่คนแบบนี้ หากเจ้าอยากให้เขาดีกับเจ้ามากและไม่จากเจ้าไปไหน นอกจากจะเคยทำเขาซาบซึ้งใจแล้ว อาจจะเคยให้ความช่วยเหลือหรือคอยอยู่เคียงข้างเขามาก่อน
ข้างกายคนจิตใจไร้เดียงสามักไม่ค่อยเป็นคนเลว นอกเสียจากว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรก
"ลุกขึ้น" โหลชีไม่ได้เข้าไปช่วยพยุงเขาขึ้นมาเพราะรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร นางยังคงยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าออกเย็นชาเล็กน้อย
เด็กคนนั้นลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง ร่างโอนเอนเล็กน้อย โหลชีดูออกว่าขาเขาสั่นเทาเล็กน้อย น่าจะไม่เป็นไรชั่วคราว คงจะหิว สลบไสลไปสามวันไม่ตื่นเลย เจ้าตัวใหญ่หลูต้องคิดหาทางป้อนอาหารเขาไม่ออกแน่
เจ้าตัวใหญ่หลูมองเขาด้วยสีหน้าเหลื่อเชื่อ "เสี่ยวเป่า เจ้าหายแล้วนี่!"
เด็กคนนั้นยืนนิ่งแล้ว เหลือบตาขึ้นมองเขา "พี่ต้าลี่ บอกกี่ครั้งแล้วว่าข้าไม่ได้ชื่อเสี่ยวเป่า ข้าชื่อเจียวเทียนเป่า"
"เรียกเสี่ยวเป่าจำง่ายกว่า" เจ้าตัวใหญ่หลูยิ้มร่าบอก
โหลชีหันถามเสี่ยวโฉว "เจ้าพักที่ไหน?"
"โรงเตี๊ยมด้านหน้านั่น" เสี่ยวโฉวยังคงมองนางอย่างหลงใหลระคนรอคอย
"ไป"
โหลชีรู้สึกว่ามันต้องเป็นบุพเพวาสนาบางอย่าง เสี่ยวโฉวพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมที่พวกเขาพักก่อนหน้านี้
"คุณชาย ท่านมาแล้วรึ?" เถ้าแก่จำโหลชีได้แม่นนัก เพราะนางไม่เพียงมีเรื่องกับตระกูลเซียวเล็ก ตอนนี้ยังพำนักอยู่ที่ตระกูลเซียวเดิม อีก มันทำให้เขารู้สึกว่าโหลชีต้องเป็นบุคคลไม่ธรรมดาแน่ แต่ทำไมโหลชีถึงมาอยู่กับคนพวกนี้ได้ล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ