ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 263

เจ้าตัวใหญ่หลูพึ่งพูดจบ ก็พบว่าทุกคนพากันถอยห่างเขาไปหมด ไอเย็นเยือกพัดมาใส่เขา เขากอดอกแน่น ถามอย่างโง่เขลาว่า "เหตุใดจู่ๆก็หนาวขึ้นมาล่ะ?"

โหลชีกอดแขนเขาสองข้างไว้แน่นก่อนที่เฉินซ่าจะลงมือ "นี่นี่ เขาแค่ไร้เดียงสา ไร้เดียงสา!"

เขาคิดจะลงมือกับเจ้าตัวใหญ่หลู! จักรพรรดิทั้งคน เหตุใดใจแคบเพียงนี้?!

เฉินซ่าแค่นเสียงเย็น "โลกนี้ไร้บุรุษไร้เดียงสา"

โหลชีสะอึก อยากจะยกนิ้วโป้งให้เขาจริงๆเลย พูดถูกต้อง! คนที่ไม่ไร้เดียงสาที่สุดก็ท่านนี่แหละ! ความห่วงใยและความหวังดีของคนที่สมองเซ่อซ่าแสดงกับนาง ยังคิดเอียงไปอีก

"เขาจะติดตามเจ้าด้วย?" เฉินซ่าปรายตามองเจ้าตัวใหญ่หลู จากนั้นพูดต่อ "แขนขาใหญ่เกินไป กินไม่น้อยแน่ ตำหนักจิ่วเซียวไม่เลี้ยงคนไร้ประโยชน์" ที่สำคัญที่สุดยังอยากแบกสตรีของเขา

โหลชีโกรธทันที "ข้าจะให้ท่านเลี้ยงหรือไง? คนของข้า ข้าเลี้ยงเองได้"

"คนของเจ้า? เจ้าเลี้ยงเอง?" เฉินซ่าพูดเสียงขรึม "แล้วเจ้าเป็นคนของใคร?"

นางมิได้เป็นคนของเขาตลอดมารึ? นางเป็นคนของเขา คนของนางก็ต้องให้เขาเลี้ยง แค่เปลี่ยนวิธีพูดนิดหน่อย ตอนนี้นางกลับมาค้านเขา?

โหลชีโกรธแทบหัวเราะ "เฉินซ่า ข้าจะเน้นย้ำกับท่านอีกครั้ง ข้าเป็นอิสระ ไม่ใช่ของของใคร"

"เจ้าเป็นสนมของข้า ประกาศออกใต้หล้าแล้วด้วย" เขาพูดอย่างเย็นชา

"สนม? ท่านว่าใช่ก็ใช่หรือไง? งั้นขอถามฝ่าบาทหน่อย จักรพรรดินีของท่านเล่า? จะแต่งตั้งจักรพรรดินีเมื่อใดกันล่ะ?" น้ำเสียงของโหลชีเย็นลงมา

เฉินซ่าย้อนถามกลับ "เจ้าอยากให้แต่งตั้งจักรพรรดินีเมื่อใด?"

เรื่องนี้มาถามนาง? นางยังต้องคิดเรื่องแต่งตั้งจักรพรรดินีแทนเขาหรือไง? ต้องช่วยเขาเลือกจักรพรรดินีให้ด้วยงั้นหรอ? นางโกรธแทบเต้นอีกครั้ง ทนไม่ไหวยื่นมือออกไปดึงหูเขา

โหลวซิ่นดวงตาแทบถลน ยืนงงเป็นไก่ตาแตก เสี่ยวโฉวสีหน้าเลื่อมใสระคนตื่นเต้น พวกถูเปินอ้าปากค้างแทบกรามหล่น

ใครมาบอกพวกเขาที นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ทั้งสองคนนี่กำลังทะเลาะกันใช่หรือไม่? ใช่ไหม? เมื่อครู่ยังดีๆกันอยู่มิใช่รึ? เมื่อครู่พวกเขายังเห็นคุณชายตนแสดงท่าทีสาวน้อยที่ยากจะได้เห็น ยังไม่ทันเคยชินกับท่าทีสาวน้อยนั่น นางก็แปรเปลี่ยนเป็นสาวดุเด็ดเผ็ดร้อน?

อีกอย่าง ต่อให้จะทะเลาะกัน มีผู้ใดเขาทะเลาะกันแบบนี้? คุณชาย ท่านยังอยู่บนหลังฝ่าบาทนะ!

โหลชีไม่สนใจอย่างอื่น คำพูดที่อัดอั้นมานานทนเก็บไว้ไม่ไหวอีกต่อไป "นับจากนี้ พั่วอวี้มีข้าเป็นสนมคนเดียวงั้นรึ? ท่านเล่นเกมตัวอักษรได้ดีมาก! คนแซ่เฉิน มีสนมคนเดียว จากนั้นมีจักรพรรดินีหนึ่งคน รวมถึงนางบำเรอนับไม่ถ้วนใช่ไหม? คิดว่าข้าโง่มากหรือไง!"

เฉินซ่า "..."

"ไม่เคยปรึกษากับข้า ก็ประกาศออกใต้หล้า เกิดต่อไปข้าเจอชายที่พึงใจ ต้องการจะแต่งงานจะทำเยี่ยงใด?"

"เจ้ายังอยากจะมีชายอื่น?"

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาโกรธจนแทบกระอักเลือด หน้าอกเหมือนถูกเปิดออก จากนั้นก็ยัดขยะเข้ามายกใหญ่ สุมอกจนหน้าเขาดำมืด

เฉินซ่าพูดลอดไรฟันว่า "ใครบอกเจ้าว่าจะยังมีจักรพรรดินีและนางบำเรอนับไม่ถ้วนกัน? เจ้าบอกข้าสิว่า ใครบอกเจ้า?"

"ไม่อย่างนั้นท่านไม่แต่งตั้งจักรพรรดินี? ข้าจะบอกท่านนะ ท่านสามารถแต่งตั้งจักรพรรดินีได้ ข้าก็มองชายอื่นได้เช่นกัน" โหลชีเชิดจมูกเย้ยหยัน แต่ยังพอจะไว้หน้าเขาอยู่บ้าง นางแนบเข้าใกล้หูเขา มือดึงหูเขาไว้ กระซิบด้วยเสียงที่ได้ยินแค่สองคนว่า "อีกอย่าง ท่านเป็นชายพรหมจรรย์หรือไม่เล่า? ข้าจะบอกท่านให้ เคยไปหอนางโลม เคยมีสาวใช้ต้นห้อง เคยหลับนอนกับนางบำเรอนางเต้นรำใดๆ ข้าไม่ต้องการทั้งสิ้น!"

ความโกรธเฉินซ่าพุ่งขึ้นถึงเหนือหัว เขาอยากจับสตรีนางนี้ลงมา แยกสมองนางออกดูว่า มีอะไรอยู่ในนั้นกันแน่! ชายพรหมจรรย์ก็พูดออกมาได้ น่าตายนัก

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะแหวกสมองนางออกดู ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาแต่ไกล แค่เสียงฝีเท้าเขาก็ฟังออกว่า คนที่มาดูท่าทีดุร้าย น่าจะค้นพบซากศพของพ่อลูกหัวหน้าเผ่าแห่งเผ่ามนุษย์ผีแล้ว

เฉินซ่าสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมตนเองต้องมาพูดเรื่องเหลวไหลแบบนี้กับนางในสถานที่และเวลาเช่นนี้

โหลชีเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้า ขยับตัวยุกยิกบนหลังเขา "วางข้าลง"

เฉินซ่าใช้สองมือยกไหล่นางให้สูงขึ้นอีก ไม่สนใจนางสักนิด แบกนางไว้พลางหันบอกพวกโหลวซิ่นว่า "ไป"

โหลชีตบบ่าเขา "ท่านวางข้าลง!"

"หากยังก่อเรื่องอีก ข้าจะหักคอเจ้า" เฉินซ่าพูดเสียงเย็น ยังคิดจะมองชายอื่น ขอเพียงนางมองคนหนึ่งเขาก็ฆ่าคนหนึ่ง มองสองคน เขาก็ฆ่าสองคน

ใครก่อเรื่องอะไรกับเขา? ศัตรูอยู่ต่อหน้า โหลชีมีหรือจะทะเลาะกับเขาต่อไป วางเรื่องทะเลาะของทั้งคู่ไว้ก่อน นางยิ้มแหยบอก "ตอนนี้พวกเขาอาจจะไปไม่ได้แล้ว" เฉินซ่ามองไม่ออก แต่นางมองออกว่า พวกโหลวซิ่นโดนกู่เข้าให้แล้ว รวมถึงเสี่ยวโฉวเองก็ด้วย

ไม่อย่างนั้นเผ่ามนุษย์ผีมีหรือจะยอมปล่อยพวกเขาไว้โดยไม่วางเวรยามเฝ้า

นั่นไง โหลวซิ่นก้มหน้าเล็กน้อยบอก "แม่นาง ฝ่าบาท พวกเราโดนกู่กันหมดแล้ว"

กู่ กู่อีกแล้ว!

เฉินซ่าพอได้ยินกู่ก็มีสีหน้าเกลียดชังอย่างรุนแรง

"ปล่อยข้าลง ข้าจะดูหน่อย" โหลชีตบบ่าเขาเบาๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ