เผ่ามนุษย์ผีมิได้อยู่อย่างยากลำบากรึ? มิใช่เครียดเรื่องการสืบพันธุ์จนผมหงอกรึ? ถ้าเช่นนั้นไปตายเสียเถิด!
"ไปตายกันซะเถอะ" โหลชีพูดคำนี้ออกมา ออร่าทั่วร่างนางก็เกิดการเปลี่ยนแปลง หลังจากรู้ว่าพวกเขาเป็นเผ่ามนุษย์ผี นางก็เข้าใจแล้วว่าคืนนั้นเสี่ยวเป่าทำอะไรกับทารกนั่น
นักพรตเลวบอก เผ่ามนุษย์ผีคิดค้นวิธีทำร้ายคนอย่างร้ายกาจออกมามากมาย ใช้กู่ผีควบคุมเด็ก จากนั้นใช้เด็กนี่ตามหาทารกธาตุหยิน ป้อนเลือดกู่ให้กับทารก ประทับตราไว้ในตัวทารกเพื่อควบคุมทารกน้อย รอจนเขาอายุราวสิบขวบ ก็จะกลายเป็นหุ่นเชิดให้กับเผ่ามนุษย์ผี พอโตไปก็จะเป็นหุ่นเชิดให้พวกเขา เป็นเสมือนทาสที่จงรักภักดีที่สุด
เพราะความพิเศษของพวกเขา ทำให้มีหลายเรื่องที่ต้องการให้ทาสไปทำแทน แต่พวกเขาก็เชื่อใจได้แค่ทาสที่เลี้ยงตั้งแต่เด็กแบบนี้
และพอเด็กเหล่านี้เติบโตขึ้น พวกที่ไม่ได้โดนเรียกกลับเข้าเผ่ามนุษย์ผี ก็จะแต่งงานมีลูกได้ตามปกติ เพียงแต่ในตัวพวกเขามีเลือดกู่กับธาตุหยินที่เผ่ามนุษย์ผีจงใจหลงเหลือไว้ให้ ลูกของพวกเขาก็จะเป็น ร่างกายธาตุหยินเย็น ถึงเวลาก็ดำเนินรอยตามพวกเขาอยู่ดี
ดังนั้นวิธีนี้จะให้ร้ายคนไปหลายชั่วคน หรือจะพูดอีกทีคือ ทุกชั่วคน จะมีคนกลายเป็นทาสของเผ่ามนุษย์ผี
ร่างกายคนชนิดนี้โดนเลือดกู่ทำร้ายตั้งแต่เป็นทารก จะอายุสั้น ปกติไม่มีทางอยู่รอดเกินสี่สิบปี
เพียงแต่ปกติเผ่ามนุษย์ผีทำเรื่องพวกนี้อย่างหลบซ่อน บวกกับเด็กที่โดนใส่กู่ผีไว้จะมีความสามารถทำให้คนหลับใหลได้ ดังนั้นตอนทำเรื่องพวกนี้จึงมิมีผู้ใดพบเห็น
ดังนั้นจึงมีคนน้อยมากที่รู้เรื่องนี้
"อาศัยแค่พวกเจ้าสามคน? จะทำลายเผ่าเรา? ฮะฮะฮะ! น่าขำยิ่งนัก!" ยายเฒ่าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สะบัดผ้าคลุมใหญ่พลางว่า "พูดจาคุยโวก็ไม่กลัวลมตัดลิ้นเจ้าขาด! ฆ่าพวกมันซะ"
"ขอรับ! ฮูหยิน!"
ชายเผ่ามนุษย์ผีนับร้อยคนพร้อมใจกันพุ่งเข้าหาทั้งสามคน
หางตาโหลชีเห็นหน้าอกพวกเขามีความเคลื่อนไหวเป็นระยะ รีบบอกโหลวซิ่นทันทีว่า "ระวังหนอนกู่ในอ้อมอกพวกเขา!"
โหลวซิ่นรับคำเสียงดังว่า "ข้าน้อยเข้าใจขอรับ!" เขาจับพิชิตวันมั่น ส่งแรงที่ขา พุ่งเข้าไปในหมู่มนุษย์ผี "มาเลยเจ้าพวกคนมิใช่ผีมิเชิง ข้าจะส่งพวกเจ้าขึ้นสวรรค์เอง!"
โหลชีหัวเราะร่า "ดี เจ้าฆ่าสิบคน หลังจากออกไปข้าจะเลี้ยงเหล้าเจ้า!"
โหลวซิ่นที่เดิมมีความฮึกเหิมสะดุดเกือบล้ม สีหน้าเศร้าหมอง "ขอร้องแม่นางอย่าให้ร้ายข้าเลย!"
ฝ่าบาทยังอยู่เลยนะ ถ้าเขากล้าตามแม่นางไปดื่มเหล้าจริงๆ ฝ่าบาทจะไม่ถลกหนังเขารึ? เมื่อครู่ตอนพึ่งเจอกัน สายตาที่ฝ่าบาทมองเขามีแววอำมหิตแล้ว
บทสนทนาของนายบ่าวสองคนทำเอาหน้ายายเฒ่าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ "จะถึงที่ตายยังกล้าโอหังอีก!"
"ยายแม่มดเฒ่า ใครจะถึงที่ตาย เดี๋ยวก็จะรู้แล้ว!" โหลชีผลันตัวเข้าไปในหมู่มนุษย์ผี ข้อมือสะบัด แส้ปลิดวิญญาณกลายเป็นแส้แข็ง ปลายแหลมออก ตัวแส้มีเข็มแหลมนับพันออกมา นางสะบัดแส้ออกไป ประกายเงาดำแวบผ่าน ทำเอามนุษย์ผีหลายคนพากันมองตาค้าง ลืมป้องกันไปเลย
"รีบถอย!" ยายเฒ่าร้องเสียงดังอย่างร้อนใจ
โหลชีแค่นเสียงหึ "สายไปแล้ว"
แส้ที่ส่งออกไปฟาดผ่านสามคนพร้อมกัน คนแรกโดนปลายแหลมคมปาดคอหอยขาด คนที่สองคอโดนเข็มแหลมเหล่านั้นลากดึงจนคอเอียง ไปชนกับอีกคนข้างเขา ยังไม่รอพวกเขาได้สติกลับมา แส้แข็งนั่นก็แปรเป็นแส้อ่อน เสียงชิ้วดังขึ้น แส้ตวัดรัดคอคนสองคนพร้อมกันอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นพันแน่น ทั้งสองคนโดนรัดไว้ด้วยกัน คอโดนเข็มแหลมทิ่มแทงจนเป็นรูเลือดหลายสิบรู
แส้เดียวตายสาม
เฉินซ่าชมเชย "แส้ดี"
"ของของข้าย่อมดีที่สุดอยู่แล้ว" โหลชีภูมิใจ เย่อหยิ่งละ
พอเห็นท่าทีลำพองขนของนาง เฉินซ่าแถมอีกคำ "เบิกตาดูให้ดี สามีเจ้าก็ดีที่สุดเช่นกัน"
โหลชีตามรอยโหลวซิ่น เกือบล้มคะมำเหมือนกัน แส้ที่สองเลยไม่แม่น เดิมจะปาดคอของคนนั้น ดันไปปาดจมูกเขาแทน
เฉินซ่าพลันอารมณ์ดีขึ้น สองมือสะบัดออก ห้านิ้วของมือพร้อมใจกันคว้าหมับที่คอหอยของสองคน และเกิดเสียงพลั่กขึ้นสองเสียงพร้อมกัน พริบตาเดียวเขาหักคอคนสองคนไปพร้อมกัน จากนั้นสะบัดพวกเขาออกไป แยกกันไปกระแทกอีกสี่ห้าคนล้มลง คนที่ล้มทับก็ไปทับคนอื่นอีกสองคน เกิดช่องว่างข้างตัวเขาขึ้นมา
เจ้าอาวุธทำลายล้างเอ๊ยเจ้าอาวุธทำลายล้าง!
ใบหน้ายายเฒ่าเกิดแววหวาดกลัวขึ้นมา
โหลวซิ่นเห็นเจ้านายสองคนร้ายกาจเพียงนี้ ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ตะคอกเสียงดังพุ่งไปหามนุษย์ผี
"ค่ายกู่!" ยายเฒ่าร้องขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ