แส้สะบัดไปแส้แล้วแส้เล่านั่นประหนึ่งกำลังฟาดลงบนตัวและใจของยายเฒ่า พูดเรื่องเลี้ยงกู่ คนพวกนี้มีหรือจะมีพรสวรรค์อะไร พวกเขามิใช่คนหนานเจียง นางเองก็มิมีเวลามากมายมาสอนพวกเขาทีละคน พูดตรงๆคือ หนอนพวกนี้แทบจะเป็นนางเลี้ยงทั้งหมด นางเลี้ยงเอง!
พวกเขาจะรู้หรือไม่ว่า จะเลี้ยงหนอนกู่ที่มีฤทธิ์โจมตีรุนแรงหลายร้อยตัวเช่นนี้ต้องใช้เวลาและพลังมากมายแค่ไหน? กลับมาโดนฆ่าเอาแบบนี้!
ยายเฒ่าสั่นเทาไปทั้งตัว พ่นคำโกรธเกรี้ยวลอดไรฟันออกมาว่า "ข้าจะให้พวกเจ้าตาย พวกเจ้าต้องตาย!"
"เหมือนเจ้าจะพูดคำนี้หลายครั้งแล้วนะ ยายแม่มดเฒ่า ตอนนี้ข้าต่างหากจะให้เจ้าตาย!" โหลชีพูดยังไม่ทันจบ เฉินซ่าก็ซัดฝ่ามือไปทางยายเฒ่าแล้ว
โหลชีรีบร้องบอก "อย่าตบหัวนางแหลกละเอียดล่ะ!"
เดิมเฉินซ่าคิดจะตบหัวนางแหลกละเอียดจริงๆ พอได้ยินคำพูดนี้ของนางจึงเปลี่ยนทิศทาง เปลี่ยนฝ่ามือเป็นคมมีด ฟาดฟันด้วยกำลังภายในเข้าไป
มีเลือดกระฉูดออกมาจากตัวยายเฒ่า นางก้มลงมองบาดแผลที่หน้าท้องตนอย่างไม่เชื่อสายตา "เจ้า เจ้าสามารถควบพลังเป็นคมมีดได้---"
กำลังภายในล้ำลึกสามารถดีดนิ้วส่งพลังออกมา แต่ฝ่ามือแปลงเป็นมีด จากนั้นสามารถฟันได้แหลมคมดุจมีด กำลังภายในสามารถฟันผ่านอากาศด้วยความคมดุจมีดจนเกิดบาดแผลได้ เยี่ยงนี้มิเพียงแค่กำลังภายในล้ำลึก ยังต้องมีความสามารถในการควบคุมกำลังภายในด้วย!
เฉินซ่าอายุแค่ยี่สิบกว่าปี กลับมีฝีมือถึงเพียงนี้! อัจฉริยะวิทยายุทธ์เยี่ยงนี้หากพูดออกไปย่อมตกตะลึงกันทั่วทั้งใต้หล้าแน่! แต่ใต้หล้ากลับรู้เพียงแค่เขามีวิทยายุทธ์สูงส่งเท่านั้น แต่กลับมิรู้เลยว่าจะสูงส่งถึงเพียงนี้! ใต้หล้าล้วนรู้ดีว่าเทพธิดาแห่งเขาเวิ่นเทียนเป็นอัจฉริยะวิทยายุทธ์ แต่ถ้าเทียบกับเฉินซ่าแล้ว นางยังจะเป็นอัจฉริยะอะไรได้!
ในตอนนี้ยายเฒ่าเสียใจนัก นางเสียใจยิ่งนัก นางเองก็กลัว เบื้องหน้า บุรุษในเผ่าเกือบร้อยคนที่นางพามาล้วนตายสิ้น และแทบจะตายอย่างอเนจอนาถด้วย ส่วนมากถูกหักคอทันที และบางส่วนโดนซัดฝ่ามือจนหัวใจแหลกสลาย บางส่วนยิ่งโดนกระชากแขนหลุดมาทั้งข้าง
เผ่ามนุษย์ผีของพวกเขาเดิมก็คนเหลือน้อยเต็มที บัดนี้ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ในเผ่าล้วนตายสิ้นที่นี่ สามีและลูกชายนางต่างตายแล้ว เมื่อครู่นางยังคิดว่าตนต้องชนะได้แน่ แต่ตอนนี้นางพบว่านางอาจจะต้องตายได้ ดังนั้นนางจึงเริ่มกลัว ถึงนางจะอายุมากแล้ว แต่นางก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ ยังอยากอยู่ต่อ
นางคุกเข่าลงกับพื้นทันที คร่ำครวญร้องเสียงดังว่า "นายท่านท่านนี้!" แม่นางโหล! พวกท่านได้โปรดใจกว้าง อภัยให้ข้าด้วยเถิด ข้ามิกล้าอีกแล้ว! ทั้งหมดนี่เป็นความต้องการของเทพธิดาแห่งเขาเวิ่นเทียน นางสั่งคนให้มาสั่งพวกข้า พวกข้าติดค้างน้ำใจเขาเวิ่นเทียนครั้งหนึ่ง ข้าไร้หนทาง! อภัยให้ข้าเถิด ข้าคำนับพวกท่านแล้ว!"
เดิมเฉินซ่าคิดเข้าไปซัดฝ่ามือนางให้ตายไปเสียรู้แล้วรู้รอด พอได้ยินคำนี้ เขาชะงักลงฉับพลัน ย้อนถามว่า "เจ้าว่ากระไรนะ?"
ถึงโหลชีจะรู้เรื่องอยู่ก่อนแล้ว แต่ตอนนี้มาได้ยินฮูหยินหัวหน้าเผ่าพูดออกจากปาก ความโกรธที่กดทับไว้ในใจนางก็ปะทุออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิด กดทับยังไงก็ไม่อยู่
เพราะนางไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน ไม่มีความแค้นต่อกันแท้ๆ กลับคิดให้ร้ายนางอย่างชั่วร้ายมาก และยังกัดไม่ปล่อย ไม่ยอมสิ้นสุด ทำแผนการชั่วร้ายเจ้าเล่ห์มากขึ้นเรื่อยๆครั้งแล้วครั้งเล่า
นางเดินเข้ามา ยื่นมือผลักเฉินซ่าอย่างแรง จนเขาแทบหัวคะมำ
"ไม่ต้องให้นางเล่า ข้าจะบอกท่านให้ จักรพรรดินีในอนาคตของท่านคนนั้นแหละ นางต้องการชีวิตข้า! นางหาคนเผ่ามนุษย์ผี ให้พวกเขาจับข้ามาเป็นนางบำเรอให้ผู้ชายทั้งเผ่า สืบพันธุ์ให้พวกเขา! จากนั้นก็ทรมานข้าจนกว่าจะตาย! ฝ่าบาทที่รัก ท่านพอใจรึไม่?"
นางพูดจบอย่างเย็นชา ร้องขึ้นเสียงดังว่า "โหลวซิ่น เอาพิชิตวันให้ข้า!"
โหลวซิ่นรีบเข้ามา ยื่นพิชิตวันให้ด้วยสองมือ
เขาไม่รู้ว่าโหลชีคิดจะทำอะไร แต่หลังจากได้ยินคำพูดของโหลชี เขาโพล่งด่ารัวๆว่า "น่าหลานฮั่วซิน นังแพศยานั่น! กล้าลงมือหวังฆ่าแม่นางตั้งแต่ที่หุบเทพมารแล้ว ไม่คิดว่าพอออกมายังต้องการชีวิตแม่นางอีก! ฝ่าบาท ท่านยังคิดจะแต่งตั้งนังแพศยานั่นเป็นจักรพรรดินีอีกหรือไม่?"
โหลชีโบกมือห้ามมิให้โหลวซิ่นพูดต่อไป และหันไปทางเฉินซ่าด้วยสีหน้าเย็นชาพลางว่า "จะบอกท่านให้ ไม่เพียงท่านเท่านั้นที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย บางครั้งข้าเองก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เช่นกัน อีกอย่างข้าชอบระบายอารมณ์ใส่คนอื่น ชอบประหารเก้าชั่วโคตร ใครมีเรื่องกับข้า ทุกคนที่เป็นสหายเขาจะถูกบันทึกชื่อเข้าบัญชีดำข้าทันที ท่านรู้ไหมว่าแปลว่าอะไร? ก่อนท่านจะแต่งงาน เราจะยังเป็นสหายกัน ถ้าท่านเกี่ยวดองกับน่าหลานฮั่วซินเมื่อใด ไม่ว่าจะให้นางเป็นจักรพรรดินีเป็นนางสนมหรือเป็นนางบำเรอ หรือต่อให้เป็นสหายเป็นน้องสาวเป็นศิษย์พี่หญิงเป็นสหายที่รู้ใจอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะอย่างไหน"
นางชะงักไป ก่อนพูดต่อด้วยเสียงดังฟังชัดว่า "เช่นนั้นพวกเราจะเป็นศัตรูที่ไม่ตายไม่เลิกรากัน! ข้าไม่รังเกียจจะบอกท่านว่า ข้าต้องเอาชีวิตน่าหลานฮั่วซินแน่!ถ้าท่านแต่งงานกับนาง เช่นนั้นข้าก็จะเอาชีวิตท่านเช่นกัน"
น่าหลานฮั่วซินจุดไฟโกรธนางอย่างสิ้นเชิง นางไม่เคยบอกมาก่อนเลยว่าตนเป็นคนดี ปกตินางยิ้มทะเล้น ยิ้มร่าด่ากราด บางครั้งเหมือนจะบ้าๆ บอๆ ดูเหมือนไม่มีหัวจิตหัวใจ บางครั้งยังจงใจแสร้งทำตัวเป็นลูกแกะน่าสงสาร แต่มันไม่แปลว่านางเป็นลูกแกะจริงๆ
เมื่อถึงเวลาต้องร้าย นางก็ร้ายได้ยิ่งกว่าใครทั้งนั้น
สองตาของเฉินซ่าเป็นประกายวาวโรจน์ด้วยความโกรธบ้าคลั่งอย่างไร้ที่สิ้นสุด เขาจับจ้องมองเข้าไปในดวงตาโหลชี พูดเสียงเศร้าหมองว่า "เจ้าจะเอาชีวิตข้า?"
ถึงจะรู้ว่าไม่มีทางเกิดเหตุการณ์อย่างที่นางพูดแน่ แต่เมื่อได้ยินนางพูดจากปากนางเองว่าต้องการชีวิตเขา หัวใจเขารู้สึกราวกับถูกพิชิตวันแหวกออกไปจริงๆ เลือดสดไหลริน เจ็บปวดจนแทบหายใจไม่ออก ในตอนนี้เขาลืมคำพูดอื่นไปแล้ว ในสมองเอาแต่ครุ่นคิดประโยคนี้
ข้าเองก็จะเอาชีวิตท่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ