ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 268

เซียวหยงไม่รู้ว่าเวลาผู้หญิงเจอกับผู้ชายสามารถใช้คำว่าตกตะลึงไปจนถึงเทพสวรรค์ได้เช่นกันหรือไม่ แต่สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวตอนนี้คือคำนี้จริงๆ

ตกตะลึงจนถึงเทพสวรรค์

ผู้ชายที่นางเคยเห็นมาตั้งแต่เด็ก เซียววั่งถือว่าสามารถพูดได้ว่าดูดีมีราศีตามกฎเกณฑ์แล้ว น้องชายของนางคนหนึ่งหล่อเหลาคนหนึ่งอบอุ่นมองโลกในแง่ดี ที่ดูดีอีกก็คือยู่ไท่จื่อ นั่นคืองดงามราวกับต้นหยกเล่นลม สง่างามราวกับหยก แล้วยังมีที่เห็นช่วงล่าสุดที่ผ่านมา คุณชายเจ็ดถึงแม้นางจะไม่ชอบ แต่ก็ต้องยอมรับว่า คุณชายเจ็ดดูดีไปอีกแบบหนึ่ง ประณีตหล่อเหลา ยังมีองครักษ์สองคนของเขาก็หล่อเหลาเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไป

แต่ความจริงแล้วทั้งหมดนี้ล้วนไม่ใช่ประเภทที่นางขอบที่สุด

เซียวหรงรู้สึกว่าในที่สุดวันนี้ก็ได้เห็นผู้ชายที่ตนเองชอบที่สุดแล้ว

สูงใหญ่ เงียบขรึม ลักษณะใบหน้าละเอียดหล่อเหลาแต่ไม่อยู่เหนือคนธรรมดาในบางแง่มุม สายตาทั้งคู่ลึกล้ำ แม้แต่ริมฝีปากบางที่เม้มเป็นเส้นก็เย็นชาจนทำให้คนรู้สึกหัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง

ผู้ชายเช่นนี้ไม่เพียงแค่ดูดีเท่านั้น ยังทำให้คนรู้สึกถึงความแข็งแกร่งทรงอำนาจของเขาในแวบแรกที่เห็น! ผู้หญิงบางคนมีสัญชาตญาณความเป็นแม่ จะรักและสงสารผู้ชายที่ดูแล้วทำให้คนรู้สึกเอ็นดูสงสารพวกนั้น แต่ผู้หญิงส่วนมากล้วนแต่มีความสลับซับซ้อนที่กล้าหาญ จะชอบผู้ชายแข็งแกร่งทรงอำนาจที่สามารถทำให้ตนเองรู้สึกเหมือนนกน้อยเกาะอยู่บนไหล่ใครสักคนทำให้ตนเองรู้สึกเทิดทูนบูชามากกว่า

เซียวหยงรู้สึกมาตลอดว่าตนเองฉลาดมาก ไม่เหมือนผู้หญิงโง่เง่าคนอื่นๆ นางรู้สึกว่าตนเองแตกต่างจากผู้หญิงโง่ๆที่แต่งงานตามการจับจู่ที่ตัดสินใจโดยพ่อแม่พวกนั้น นางรู้ว่าตนเองควรต้องการผู้ชายแบบไหน

ในด้านใดด้านหนึ่ง นี่เป็นความคิดที่ก้าวหน้าอย่างหนึ่งจริงๆ หากนางไม่ได้ประเมินตนเองสูงเกินไป

"หยงเอ๋อร์ เจ้าจะไปไหม?" เซียววั่งยืนขึ้นมา มองดูนาง

เขาไม่รีบ ให้คนพวกนั้นไปรนหาที่ตายก่อน รอให้เวลาเกือบจะได้ที่แล้ว เขาค่อยไป คนที่เขาต้องคอยระวังคือคุณชายเจ็ด ตอนนี้ข้างกายของคุณชายเจ็ดมีผู้ชายที่ดูแล้วทำให้คนรู้สึกกดดันมากปรากฏตัวขึ้นมาอีกคนแล้ว ดังนั้นเขาจะรออีกไม่ได้ เขาต้องคว้าเวลานี้เอาไว้ หลังคนพวกนั้น และก่อนหน้าพวกคุณชายเจ็ด

แต่ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจที่ใจอ่อนไปชั่วขณะพาเซียวหยงมาด้วย เขารู้สึกว่าเซียวหยงจะทำให้เขาเสียเรื่อง

"พี่ชาย รออีกสักพักได้ไหม? เมื่อครู่วิ่งจนเหนื่อยเกินไป ตอนนี้ข้ายังไม่หายเหนื่อยเลย" ความจริงแล้วเซียวหยงรู้สึกชอบเซียววั่งเล็กน้อยอยู่ ถึงอย่างไรก็เติบโตมาด้วยกัน เซียววั่งก็แสดงความรู้สึกเสน่ห์หาเช่นนั้นออกมาตลอด เมื่อก่อนสิ่งที่นางเห็นและรับรู้ เซียววั่งถือได้ว่าเก่งกาจมากแล้ว

ตอนนี้ถึงแม้นางจะไม่ชอบ แต่ว่าสามารถจับจุดที่ว่าเขาชอบตนเอง เซียวหยงมีความรู้สึกว่ามีหน้ามีตาอย่างหนึ่ง และบางครั้งยังสามารถหลอกใช้เขาทำอะไรบางอย่างได้ ดังนั้นต่อหน้าเซียววั่งเซียวหยงยังคงรักษาความสนิทสนมแบบตอนที่อยู่ในบ้านเหมือนแต่ก่อนแบบนั้น เพียงแต่ไม่กล้าให้คนในบ้านรู้ บอกว่าน้องสาวออกมาด้วยแต่พลัดหลงกัน ความจริงเป็นข้ออ้างเท่านั้น ตอนนี้น้องสาวโง่เง่าคนนั้นของนางกำลังช่วยนางปกปิดเรื่องที่นางออกมาอยู่ที่บ้านต่างหาก

เซียววั่งกวาดตามองมาทางด้านโหลชีครู่หนึ่ง มองเห็นชายชุดดำที่เงียบขรึมคนนั้นกำลังใช้มือเช็ดสิ่งสกปรกเล็กน้อยที่อยู่ข้างริมฝีปากของคุณชายเจ็ดเข้าพอดี เขาตะลึงงันไปในทันที ทำให้ลืมตอบคำถามของเซียวหยง

เซียวหรงมองตามสายตาของเขาไป กลับเห็นโหลชีปั้นหน้าทะเล้นต่อชายหนุ่มคนนั้นพอดี ในใจของนางมีความรู้สึกแปลกประหลาดผุดขึ้นมาในทันที จากนั้นความโกรธก็ปะทุขึ้นมา

ไอ้คุณชายเจ็ดหน้าด้านไร้ยางอายที่สมควรตายนั่น! เขากล้ายั่วยวนคุณชายท่านนั่น!

เซียวหยงมีความรู้สึกแบบนี้ ความจริงเฉินซ่าก็มีเช่นกัน

นอกจากเฉิงสิบ โหลชีแล้วก็จิ้งจอกม่วงแล้ว คนอื่นๆไม่ได้หิว ดังนั้นกวางน้ำตัวนั้นคนที่กินก็แทบจะมีแค่พวกเขาสองคนกับจิ้งจอกหนึ่งตัวเท่านั้น

เมื่อครู่เยว่เอาแต่เตือนให้โหลชีระวังเรื่องกิริยามารยาท โหลชีกลอกตาใส่เขาครู่หนึ่ง คว้าเนื้อชิ้นใหญ่ขึ้นมาแล้วมากัดลงไปอย่างแรงคำหนึ่ง ยังใช้ปากดึงฉีกคำหนึ่ง ข้างริมฝีปากก็เลยมีขี้เถ้าฝืนจากการย่างเนื้อติดอยู่เล็กน้อย

เฉินซ่านั่งอยู่ตรงข้ามแนวทแยงกับนาง เดิมทีไม่อยากจะสนใจนาง แต่เห็นนางดูเหมือนจะไม่รู้สึกตัว สิ่งสกปรกที่อยู่ข้างริมฝีปากติดอยู่ตรงนั้นตลอด สุดท้ายก็อดที่จะเอื้อมมือออกไปไม่ได้ ใช้ปลายนิ้วเช็ดมันออกให้นาง

โหลชีเงยหน้าก็ทำหน้าทะเล้นใส่เขา "ข้าคิดว่าท่านจะงอนต่อไปเสียอีก กินไหม?"

ปากของนางมีมันติดอยู่เต็มไปหมด มันๆวาวๆ แต่ดวงตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มของนางกลับสดใสมากยิ่งขึ้น เฉินซ่าก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้กำลังยั่วยวนตนเองอยู่ ไม่ได้เจอกันนานขนาดนั้น เขายังไม่ได้จูบนางเลยสักครั้ง

แต่คำพูดของนางก่อนหน้านี้ ความไม่แยแสตอนที่พูดมันยังตราตรึงอยู่ในหัวของเขาอย่างชัดเจน มันทำให้เขารู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา เขายืนขึ้นมาในทันที เดินก้าวใหญ่ไปอีกด้านหนึ่ง ไม่ไปมองนาง ไม่มอง

โหลชีตะลึงงันไปในทันที แม่งเอ้ย ที่แท้ก็ยังงอนอยู่จริงๆ

"กินอิ่มแล้วก็ไปเอาใจนายท่านหน่อย" เยว่ลดเสียงลงมาแล้วพูดกับนาง

"ใต้เท้าองครักษ์เยว่เป็นถึงหนึ่งในสี่องครักษ์ส่วนตัว ทำไมไม่ไปเอาใจล่ะ?" โหลชีกลอกตา

ผู้ชายยุ่งยากน่ารำคาญจริงๆ ผู้ชายที่ดื้อรั้นแล้วยังเผด็จการยิ่งยุ่งยากน่ารำคาญ ผู้ชายที่ดื้อรั้นเผด็จการแล้วก็น่าเบื่อแถมยังขี้หึงยุ่งยากน่ารำคาญที่สุด!

นางเหลือบมองไปยังกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่วิ่งเข้าไปในทุ่งดอกไม้นั่น อาจเป็นเพราะมีบทเรียนจากกลุ่มคนข้างหน้าแล้ว คนกลุ่มนี้ระมัดระวังอย่างมาก ก่อนจะถึงมีคนโรยยา มีคนใช้อาวุธเปิดทาง คนที่ถูกกัดน้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด ข้ามกันไปอย่างรวดเร็วมาก

แต่โหลชีก็ยังรู้สึกว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เพราะอะไรกิ้งก่าที่กลายพันธุ์พวกนั้นถึงได้อยู่บนดอกไม้ขนาดใหญ่เหล่านั้นได้ ในข้อนี้นางก็ยังคิดไม่ออก

เวลานี้ นางเห็นเซียวหยงที่กำลังเดินไปทางเฉินซ่าด้วยท่าทางนิ่มนวลสง่างาม อดที่แตะหน้าผากแล้วถอนหายใจไม่ได้

โอ้ยยย... คุณหนูห้าเซียว เจ้าจะแกว่งเท้าหาเสี้ยนก็รอให้ข้ากินเสร็จก่อนไม่ได้หรือไง?

นางมีลางสังหรณ์ การแกว่งเท้าหาเสี้ยนของคุณหนูห้าเซียว เป็นไปได้อย่างมากว่าจะขัดจังหวะมื้ออาหารของนาง!

"เฉิงสิบ รีบกิน รีบกิน" นางรีบกำชับกับเฉิงสิบคำหนึ่ง จากนั้นก็ไม่มองไปทางไหนอีก หยิบเนื้อย่างขึ้นมากินอย่างตะกละตะกลาม

กิริยามารยาทอะไร ไปตายซะให้หมด เจ้าลองหิวมาสี่ห้าวันแล้วกินไปแค่ผลไม้รสเปรี้ยวฝาดไปไม่กี่ผลเคี้ยวใบม้ารสขมฝาดไปไม่กี่ใบดู!

เซียวหยงเห็นเฉินซ่าเดินผละออกจากโหลชีไปอีกด้านหนึ่ง รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที บอกเสี่ยววั่งว่าให้รอสักครู่ จากนั้นก็เดินไปทางเฉินซ่า

ตอนที่อยู่ห่างจากเขาสิบก้าวนางยังหยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ชะลอความเร็วลงมา ปรับการแสดงออกทางสีหน้าเล็กน้อย และท่วงท่าในการเดิน ถึงได้เดินบิดเอวเล็กไปทางเขา

ในตอนที่ยังอยู่ห่างจากเฉินซ่าห้าหกก้าว เฉินซ่าก็เหลือบมองมาทางนี้ครู่หนึ่งแล้ว สายตาเย็นเฉียบนั่นราวกับปลายธนูแหลมคมที่กำลังชี้มาทางนาง ทำให้นางหยุดฝีเท้าลงมาโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่กล้าเข้าไปใกล้อีก

"ไสหัวไป"

เฉินซ่าพ่นออกมาคำหนึ่งอย่างเย็นชา

ผู้หญิง นอกจากคนที่ทำให้เขามันเขี้ยวอยากจะกัดลงไปแล้วคนนั้น คนที่เหลือคือเขาเห็นแล้วก็อยากใช้ฝ่ามือตบให้ลอยออกไป

เซียวหยงรู้สึกได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงนางก็เตรียมใจมาบ้างเล็กน้อยแล้ว ตอนแรกที่นางเห็นเฉินซ่า ก็รู้สึกว่าน่าจะเป็นคนเลือดเย็นคนหนึ่ง เป็นผู้ชายที่ไม่ได้จะเข้ากับคนอื่นได้ง่ายๆ แต่ว่านางรู้สึกว่าเช่นนี้ถึงจะมีความท้าทาย และยังมีข้อหนึ่ง นางรู้สึกว่า ผู้ชายเช่นนี้เมื่อเกิดความรักขึ้นมาอย่างแท้จริง ถึงจะมีความร้อนแรงจนทำให้ผู้หญิงหลอมละลายได้!

"คุณชายท่านนี้ ข้าน้อยเซียวหยง พ่อข้าคือเซียวหั่วนักทำอาวุธแห่งเมืองนั่วรา"

ลูกสาวของเซียวหั่ว?

เฉินซ่ากวาดตามองโหลชีครู่หนึ่ง เห็นนางกำลังกินเนื้อย่างด้วยความเร็วที่รวดเร็วกว่าเดิม อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ ได้ยินตู้เหวินฮุ่ยพูดแล้ว ก่อนหน้านี้นางพักอยู่ที่ตระกูลเซียว และแส้ปลิดวิญญาณนั่นของนางเซียวหั่วก็เป็นคนสร้างขึ้นมา เช่นนั้นจะมีความเป็นไปได้ไหมที่นางกับลูกสาวของเซียวหั่วจะเข้ากันได้ดี?

เห็นแก่หน้าของนาง

"อืม" เขาตอบกลับเซียวหยงคำหนึ่ง

เซียวหยงดีใจมาก นี่ก็คือการเริ่มต้นที่ดีไม่ใช่หรือ? พ่อของนางถึงแม้จะหัวโบราณไปหน่อย แต่ชื่อเสียงยังมีประโยชน์อยู่มาก!

"สามารถพบกันที่นี่ได้ก็คือวาสนา ไม่ทราบพอจะให้หยงเอ๋อร์รู้ชื่อของคุณชายได้หรือไม่?"

"......"

อยากรู้ชื่อของเขา? หรือนางยังกล้าพอจะเรียกชื่อของเขา! เฉินซ่ามองไปทางนางอย่างเย็นชา ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ชีชีจะเข้ากับผู้หญิงประเภทนี้ได้ลง?

เซียวหยงเห็นเขาไม่ตอบ กัดไปที่ริมฝีปากล่างแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา "คุณชายกับคุณชายเจ็ดเป็นสหายรักใช่ไหม? คุณชายเจ็ดเป็นแขกพักอยู่ที่ตระกูลเซียว น้องชายสองคนของหยงเอ๋อร์ก็ชอบเขามาก----"

"น้องชายของเจ้า? อายุเท่าไหร่แล้ว?"

ชั่วขณะหนึ่งเซียวหยงไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย เขาพูดแล้ว? เสียงของเขาช่างไพเราะน่าฟังมาก ทำให้คนลุ่มหลงจริงๆ ----

เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้เปิดเผยสีหน้าท่าทางหลงใหลหมกมุ่นออกมาในทันที เฉินซ่าแน่ใจแล้ว ชีชีไม่มีทางผูกมิตรกับผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน พวกนางเป็นคนสองประเภทที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

แต่ว่า คำพูดประโยคที่นางพูดเมื่อครู่นี้เขาสน! ใจ! มาก!

เขายินดีเริ่มคุยกับนางแล้ว นี่ทำให้เซียวหยงดีใจมาก รีบกล่าวขึ้นมาในทันที: "น้องชายคนรองของหยงเอ๋อร์เซียวฉิง ปีนี้อายุยี่สิบสองแล้ว ตอนนี้เป็นผู้สืบทอดของท่านพ่อ ฝีมือของเขาก็ดีเลิศมากเช่นกัน ดังนั้น คุณชายเจ็ดก็ชื่นชมเขาอยู่บ่อยครั้ง----"

คำพูดของเซียวหยงยังไม่ทันพูดจบ เห็นเพียงดวงตาของเฉินซ่ามืดลงในทันใด เขามองดูนาง น้ำเสียงเคร่งขรึม: "อ๋อ? คุณชายเจ็ดชื่นชมน้องชายเจ้าอยู่บ่อยครั้ง? คุณชายเซียวดูดีมีราศี?"

"เหอะๆ น้องฉิงกับหยงเอ๋อร์เป็นพี่น้องแม่คนเดียวกัน หน้าตามีความคล้ายคลึงกันอย่างน้อยห้าส่วน คุณชาย ท่านมองดูหยงเอ๋อร์ก็น่าจะสามารถจินตนาการถึงหน้าตาของน้องฉิงได้แล้ว" เซียวหยงพูดไปก็เดินเข้าไปใกล้เขา นางใช้มุมที่คิดเองว่าสวยที่สุด เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย มองดูเฉินซ่าด้วยสายตานุ่มนวลสดใส

วินาทีต่อมา คนทั้งคนของนางลอยขึ้นมา "อ๊ะ!"

ถูเปินเอาเนื้อย่างไม่กี่ชิ้นสุดท้ายที่ย่างเสร็จยื่นไปทางโหลชี โหลชีกำลังจะยื่นมือออกไปรับ จู่ๆก็มีลมพัดมา ตามด้วยเสียงกรีดร้องของเซียวหยง ทันทีที่พวกเขาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นคุณหนูห้าเซียวตกลงมาทางนี้พอดี

โหลชีกับถูเปินตกตะลึงในเวลาเดียวกัน จากนั้นก็กระโดดขึ้นมา ต่างคนต่างก็ถอยออกไปสองก้าว ถูเปินนึกว่าโหลชีรับเนื้อไปแล้ว โหลชีนึกว่าเขาจะถือเอาไว้ต่อไป แต่แล้วทั้งสองก็เก็บมือกลับไปพร้อมกัน เนื้อย่างสองสามไม้นั่นก็หล่นลงไปบนพื้น

ตุบ!

คุณหนูห้าเซียวล้มหน้าคว่ำอย่างแรงไปบนเนื้อย่างสองสามไม้นั่นพอดี

กางแขนกางขานอนคว่ำกับพื้น

ภาพลักษณ์ของคุณหนูห้าเซียว----

ทุกคนจับหน้าผากอย่างพร้อมเพรียงกัน

โหลชีจ้องมอง จ้องมอง เนื้อสองสามไม้นั่นถูกหน้าอกคุณหนูห้าเซียวทับเอาไว้พอดีเลย!

เอาเถิด ลางสังหรณ์ของนางเป็นจริงแล้ว แต่นางเดาตอนจบได้ กลับเดากระบวนการไม่ถูก ใครมันจะไปคิดได้ สุดท้ายเนื้อสองสามไม้นั่นจะถูกป้อนให้กับหน้าอกของคุณหนูห้าเซียว

เซียววั่งรีบก้าวเท้าเดินเข้ามา ประคองเซียวหยงลุกขึ้น นอกจากเขาแล้ว คนมากมายที่อยู่ที่นี่ไม่มีใครเข้ามาประคองนางเลยสักคนเดียว

หลังจากที่เซียวหยงถูกประคองลุกขึ้นมาแล้ว โหลวซิ่นเป็นคนแรกที่อดไม่ไหวพุดออกมาอย่างมีความสุขคำหนึ่ง

หน้าอกของนางเต็มไปด้วยคราบไขมัน มีเศษเนื้อติดอยู่เล็กน้อย ถ้าแค่นี้ก็ช่างมันเถิด ที่แย่ที่สุดคือ ไม้เสียบพวกนั้นเป็นไม้เสียบที่ทำมาจากกิ่งไม้ ตอนนี้มีส่วนที่ถูกนางทับจนหัก มีกิ่งไม้ท่อนเล็กเสียบอยู่บนหน้าอกของนาง อีกฝั่งยังมีเนื้อเสียบอยู่ชิ้นหนึ่ง

เซียวหยงอยากจะตายตอนนี้เลย นางร้องไห้ไม่มีน้ำตา เพียงแค่สั่นเทาไปทั่วทั้งตัว

ผู้ชายคนนั้นคือปีศาจ! จู่ๆเขาก็ใช้ฝ่ามือตบนางลอยกระเด็นออกมาได้อย่างไรกัน? ทำได้อย่างไร?

โหลชีถูกคนบางคนดึงคว้าตัวไป "ได้ยินมาว่าชีชีรู้สึกชื่นชมคุณชายตระกูลเซียวอยู่บ่อยครั้ง หลังจากที่ออกไปแล้ว ข้าจะไปพักที่จวนเซียวกับเจ้าด้วย ทำความรู้จักคุณชายเซียวท่านนั้น เป็นเช่นไร?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ