เสียงที่ทุ้มต่ำ โหลชีฟังออกถึงไฟโกรธที่แผดเผาอย่างบ้าคลั่งและเจตนาฆ่าที่รุนแรง
นางด่าเซียวหยงในใจเป็นสิบๆรอบ คุณหนูห้าเซียวแกว่งเท้าหาเสี้ยนเองก็พอแล้ว ทำไมยังจะต้องลากนางเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย?
ผู้หญิงคนหนึ่งหากแกว่งเท้าหาเสี้ยนขึ้นมา ประสิทธิภาพการทำลายล้างไม่เล็กเลยจริงๆ!
"ข้าไปชื่นชมคุณชายเซียวบ่อยครั้งเมื่อไหร่กัน?" นางใช้สองมือกำเป็นหมัดยันไว้บนหน้าอกของเขา ถูกเขารวบเข้าไปในอ้อมแขนแน่น นางหวนนึกถึงวันเวลาที่ทั้งคู่เคยร่วมเรียงเคียงหมอน แต่ว่าหัวใจดวงน้อยยังคงเต้นระรัวเช่นนี้มันเพราะอะไรกัน?
โหลชีรู้สึกได้อย่างสุดซึ้ง ไก่อ่อนเรื่องความรักรับความผิดหวังไม่ไหว
หากนางมีประสบการณ์โชกโชน ความใกล้ชิดเช่นนี้จะต้องมีภูมิต้านทานอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่ตัวนางเองยังไม่อยากมีประสบการณ์โชกโชนทางด้านนี้ มีประสบการณ์โชกโชนในเรื่องของความรักมันแสดงถึงอะไร?
หนึ่งคือชินชา สองก็คือบาดเจ็บสาหัสเป็นแผลไปหมดทั้งตัว
"ไม่มี?" มือเหล็กของเฉินซ่าล็อกเอวของนางแน่น ในใจก็ผ่อนคลายลงไปเล็กน้อย นางบอกว่าไม่มีก็คือไม่มี ข้อนี้เขาเชื่อ เขาเชื่อ
"ไม่มีไม่มี! ไม่มีอย่างแน่นอน!" โหลชีส่ายหน้าจนหัวจะหลุดออกจากบ่า ยังพูดเสริมออกมาคำหนึ่ง: "หลอกท่านเป็นลูกหมา" ถึงแม้นางจะรู้สึกว่าเซียวฉิงคนนี้เป็นคนไม่เลว แต่มันยังไม่ถึงระดับที่จะให้นางชื่นชมบ่อยครั้งหรอก อีกอย่าง นางแต่งเป็นผู้ชายอยู่ ผู้ชายคนหนึ่งไปชื่มผู้ชายอีกคนบ่อยๆ เดี๋ยวคนอื่นก็นึกว่านางเป็นพวกชายรักชายหรอก----
เดี๋ยวก่อนนะ!
โหลชีได้สติกลับมา หันหน้าไปมองทุกคน เฉิงสิบโหลวซิ่นตู้เหวินฮุ่ยและคนอื่นๆต่างก็เข้าใจหลักเหตุผลที่ว่าสิ่งที่ผิดจริยธรรมอย่าไปสนใจกันอย่างชัดเจน ต่างก็เบือนหน้าออกไปกันหมด ต่างพากันถอนต้นหญ้ามันหมายความว่าอย่างไรกัน? จะแกล้งทำเป็นยุ่งก็แกล้งให้มันมีความหมายหน่อยไหม?
ยังมีเจ้าตัวใหญ่หลูอีกคนหนึ่งที่อ้าปากค้างจนสามารถยัดไข่เข้าไปได้หนึ่งฟอง จ้องมองพวกเขาอยู่เช่นนี้ไม่ขยับเขยื้อนเลย
อืม อันนี้ไร้เดียงสา ไร้เดียงสามาก จนสามารถไม่สนได้
ที่ทำให้คนมองข้ามไม่ได้มากที่สุดก็คือเซียววั่งกับเซียวหยง และยังมีลูกน้องของเซียววั่งแปดคนนั่น ที่อยู่ไม่ไกลออกไป
พวกเขาต่างก็มองดูพวกเขาราวกับเห็นผี เหมือนกับว่าถูกคนสกัดจุดเอาไว้ รักษาความตื่นตกใจและความสงสัยบนใบหน้าเอาไว้ตลอด
นางลืมไปว่าตอนนี้ตนเองเป็นคุณชายเจ็ดอยู่
"ยังไม่ปล่อยอีก? ท่านเป็นถึงฝ่าบาท จะทำให้คนนึกว่าท่านเป็นพวกชายรักชายหรือ?" โหลชีถลึงตามองเขาครู่หนึ่ง
"หากผู้ชายหน้าอมชมพูปากแดงเช่นนี้ มีแต่จะทำให้คนสะอิดสะเอียนเท่านั้นแหละ" เฉินซ่าฮึออกมาคำหนึ่ง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยามสายตาของคนพวกนั้น
พวกโง่เง่า ท่าทางเช่นนี้ของนางเหมือนผู้ชายตรงไหนกัน?
บางทีแม้แต่ตัวโหลชีเองก็ไม่ได้สังเกต อยู่ต่อหน้าเฉินซ่านางมักจะเปิดเผยความงามที่อ่อนโยนตามธรรมชาติอย่างควบคุมไม่ได้ บวกกับเดิมทีเฉินซ่าก็มีนางอยู่ในใจอยู่แล้ว จะคอยสังเกตทุกการแสดงออกของนางโดยสัญชาตญาณ ทุกสายตานุ่มนวล ย่อมเห็นนางงดงามอ่อนโยนราวกับผู้หญิงอยู่แล้ว และตอนที่โหลชีสวมชุดผู้ชายอยู่ต่อหน้าคนอื่นนั้นเป็นอิสระไม่ถูกจำกัดอย่างสิ้นเชิง บางครั้งยังดูเงียบขรึมเล็กน้อย สีหน้าท่าทางก็ย่อมไม่สดใสเช่นนี้อยู่แล้ว ดังนั้นคนอื่นมองไม่ออกว่าแท้จริงแล้วนางเป็นผู้หญิงก็ไม่แปลกเลย
การแสดงออกและสายตาของคนคนหนึ่ง แค่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย มันจะมีผลต่อลักษณะท่าทางของคนทั้งคนอย่างมาก
"ท่านว่าข้าน่าสะอิดสะเอียน?" โหลชีจงใจหาเรื่อง
เฉินซ่าหรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาหยุดอยู่บนริมฝีปากแดงของนาง เขาไม่พูดอะไร แต่ความหมายแสดงออกอย่างชัดเจน ข้าหมายความเช่นนี้หรือไม่ สามารถพิสูจน์ด้วยวิธีบางอย่าง
โหลชีพ่ายแพ้
เขากล้าจูบนางต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้จริงๆ เขากล้า แต่นางไม่กล้า
"แหะๆ ข้าล้อเล่น ไปกันเถิดไปกันเถิด หากยังไม่ไปอีก ลูกนิลดำจะถูกคนเด็ดไปแล้ว"
"ถูกคนเด็ดไปก็ไม่เป็นไร แย่งมาก็พอ" ฝ่าบาทผู้ยิ่งใหญ่กล่าวอย่างใจเย็น
ใต้เท้าโหลชีลื่นไถล เกือบจะล้มลงไป
ฝ่าบาทผู้ยิ่งใหญ่ ท่านกล่าวเช่นนี้จะดีหรือ? ตรงนี้ยังมีคนที่เห็นลูกนิลดำเป็นสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเอามาได้อย่างง่ายดายอย่างเห็นได้ชัดอยู่ท่านหนึ่ง
นางชำเลืองมองไปที่ลูกน้องแปดคนนั้นของเซียววั่งโดยไม่ทิ้งร่องรอยครู่หนึ่ง วรยุทธขององครักษ์บ่าวรับใช้ในจวนของเซียววั่งนางรู้ดี มีครึ่งหนึ่งคือหมัดเท้าปักบุปผา ยังมีอีกครึ่งหนึ่งสูสีกับพวกถูเปิน มีไม่กี่คนที่เหนือกว่าเล็กน้อย ครั้งก่อนถูกนางทำลายวรยุทธไปกว่าครึ่ง หากจะกล่าวว่าแปดคนนี้เป็นคนที่เขาว่าจ้างมาใหม่ นาง----
ไม่เชื่อจริงๆ
วรยุทธของแปดคนนี้สูงมาก นางกล้าพูดกระทั่งว่า สูงกว่ากลุ่มคนสองร้อยคนที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่ด้วยซ้ำ แน่นอนว่า วรยุทธสูงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร บางทีเขาอาจจะยอมจ่ายเงินก้อนโตเพื่อจ้างคนพวกนี้ล่ะ?
แต่ว่า ลักษณะท่าทางของแปดคนนี้ผิดปกติ
ต่อหน้าเซียววั่งพวกเขาโอหังมาก ถึงขั้นมีความรู้สึกเหมือนอยู่เหนือมวลชนรางๆด้วยซ้ำ เหมือนเซียววั่งหันกลับมาติดตามพวกเขามากกว่า โดยเฉพาะชายหนุ่มหน้าตาหยาบกระด้างมากที่เป็นผู้นำคนนั้น
คนคนนั้นดูแล้วน่าจะแค่ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด แต่ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าผ่านลมหนาวมาแล้วนับไม่ถ้วน สุขุมมาก ลักษณะท่าทางที่แสดงออกมาแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆมาก
เป็นไปไม่ได้ที่คนพวกนี้จะเป็นคนประเภทที่จะยอมลดสถานะลงมาเป็นองครักษ์ให้กับคนธรรมดาคนหนึ่งเพื่อเงินเพียงเล็กน้อย
เซียววั่งได้สติกลับมา มองโหลชีด้วยสายตาซับซ้อนครู่หนึ่ง คุณชายเจ็ดคนนี้คงไม่ใช่สนมชายของคุณชายที่อยู่ตรงหน้าท่านนี้หรอกนะ?
เขาถึงรู้สึกว่ารูปร่างท่าทางของคุณชายเจ็ดคนนี้ดูงดงามเกินไปหน่อย หากบอกว่าเป็นสนมชายของท่านผู้นี้ เขาเชื่อจริงๆ
"ท่านนี้----" เขาไม่รู้ว่าควรจะเรียกท่านผู้นี้อย่างไร หยุดไปครู่หนึ่งถึงได้กล่าวต่อไป: "คุณชายท่านนี้ อยู่ดีๆท่านก็ทำร้ายน้องสาวของข้าโดยไร้เหตุผลเช่นนี้ ไม่มีความรู้สึกขอโทษสักนิดเลยหรือ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ