ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 278

โหลชีอยากให้พวกเขารีบว่าย ว่ายให้เร็ว อย่าหันกลับมาบ่อยนัก เอาแค่ให้ตนเองพยายามไปข้างหน้าอย่างสุดชีวิต รีบหนีสุดชีวิต!

มีเพียงพยายามไปข้างหน้าอย่างสุดชีวิต พวกเขาถึงจะสามารถแย่งชิงเวลาไปเปลี่ยนลมหายใจได้ ไม่อย่างนั้นไม่ว่าใครก็ไม่รอด!

การดำน้ำของพวกเขาไม่ได้ดีอย่างนางกับฝ่าบาท ถ้าเจออันตราย ฝ่าบาทจะช่วยพวกเขา โหลชีก็จะช่วยพวกเขา! เป็นภาระให้พวกเขาแบบนี้ เท่ากับสิ้นเปลืองเวลาของพวกเขาเหมือนกัน!

เยว่กัดฟันกรอด พยายามว่ายไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง แซงหน้าพวกเขาไปและดึงพวกเขาอย่างแรง เป็นเชิงให้พวกเขาตามมา

เขารู้สึกตาร้อนผ่าว จมูกอึดอัดนัก เขาไม่รู้ว่าตนร้องไห้หรือไม่ เยว่ไม่รู้ แต่ในที่สุดเขาก็รู้ถึงคำถามที่หลายวันนี้คับข้องใจมาตลอด นั่นก็คือทำไมเฉิงสิบกับโหลวซิ่นถึงตัดสินใจแน่วแน่จะติดตามโหลชี เวลาสั้นๆแค่ไม่กี่เดือน นิสัยเปลี่ยนตามนาง และยังเชื่อใจนางเพียงนั้น

นี่เป็นเสน่ห์ของโหลชี เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวโหลชีเท่านั้น นางใช้ชีวิตอย่างไร้ข้อกังวลใดๆ อิสระมาก อยู่ในความเป็นจริงมาก! นางสามารถโหดเหี้ยม มีความแค้นต้องชำระกับศัตรู และก็สามารถใจกว้าง ไม่เห็นแก่ตัวและไม่ถือสาอย่างที่สุดกับคนข้างกาย

คนที่ติดตามโหลชีช่างมีความสุขยิ่งนัก! ต่อให้ต้องตายก็ตาม!

โหลชีไม่ชอบเห็นคนข้างกายลังเลไม่เด็ดขาด ลูกน้องของนางมิต้องขวางหน้าพวกเขาทุกยาม ลูกน้องของนางไม่จำเป็นต้องเสียสละเพื่อนาง! ที่นางต้องการคือ ยามอยู่ในสถานการณ์ต่าง ยามพบเจออันตรายต่างๆ ให้เลือกทำสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุด ไม่ว่าจะเป็นนาง หรือพวกเขา ให้อัตราการตายลดต่ำลงที่สุดก็พอ!

หากว่าตอนนี้ให้พวกเยว่สี่คนขวางกั้นหน้าปลากินคนพวกนี้ นางกับเฉินซ่าย่อมมีโอกาสอย่างมากที่จะหนีรอดได้ แต่พวกเขาสี่คนต้องตายแน่! สี่แลกสอง มันคุ้มมากไม่ใช่หรือ!

แต่หากนางกับเฉินซ่าอยู่สกัดกั้น พวกเขาสี่คนย่อมมีโอกาสอย่างมากที่จะรอด! และต่อให้พวกเขาสองคนต้องตาย สองแลกสี่ มันคุ้มค่ามากมิใช่รึ?

ความคิดของโหลชีเป็นเยี่ยงนี้มาตลอด! เพราะนางมองคนพวกนี้เป็นพวกพ้องตน ชีวิตของพวกพ้องตนไม่มีอะไรแตกต่างกับชีวิตนางเอง หากเป็นคนนอก เยี่ยงนั้นนางย่อมต้องพยายามแย่งไปข้างหน้า และถีบขาหลังให้อีกฝ่ายเข้าปากปลากินคนแน่!

เฉินซ่าไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าโหลชีกำลังมาข้างเขา

ในนาทีความเป็นความตายเยี่ยงนี้ ในใจเขายังคงภูมิใจและตื้นตัน เขารู้ว่านางจะเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขา เขารู้ว่า นี่ไม่เพียงต้องการความสามารถ ต้องการความกล้าหาญ และยังต้องการหัวใจดวงหนึ่ง และที่เขาต้องการ คือหัวใจดวงนี้ของนาง!

แต่ถึงจะพอใจกับการกระทำเยี่ยงนี้ของนาง ถึงจะชอบ ชอบมากยิ่งนัก เขากลับหวังให้นางไปกับพวกเขา รีบไป

เขายื่นมือไปจับนาง โหลชีถลึงตาใส่เขา สองคนช่วยกันสกัด ต้องสบายกว่าคนเดียวอยู่แล้ว ถึงจะไม่สามารถสบายได้จริงๆก็ตาม

ความเร็วของปลากินคนตัวมหึมานั่นเร็วมาก มาด้วยความเร็วสูงจนแซงหน้า มันว่ายข้ามพวกปลาเล็ก มุ่งตรงมายังพวกเขาแล้ว

โหลชีเป็นส่วนหลังสีเทาเขียวของมัน ดวงตาสีแดง และยังส่วนท้องสีแดงปนเทา มันอ้าปากกว้าง ฟันแหลมคมบนล่างประหนึ่งอสูรร้าย แต่ละซี่ดูแล้วแหลมคมแข็งแรงยิ่ง

แม่เจ้า ฟันนี่สามารถกัดเอวนางขาดได้เลย! ได้ยินว่าปลากินคนใหญ่ขนาดนี้แม้แต่เหล็กก็กัดขาดได้

โหลชีดึงแส้ปลิดวิญญาณออกมา กดนิ้วลงไป แส้นั่นแปรเปลี่ยนเป็นแส้แข็ง นางชี้ไปที่เจ้าตัวใหญ่นั่น และกดปุ่มที่ซ่อนไว้อีกอัน เห็นเพียงปลายแส้ยิงเข็มยาวออกไปสามเข็ม สามเข็มนั้นพุ่งออกไปหาหัวใหญ่นั่นทันที โหลชีไม่มีเวลาดูว่ายิงถูกไหม นางทำมือเชิงให้เฉินซ่ารีบไป รีบไปเร็ว

ทั้งสองคนหมุนตัวพร้อมกัน และว่ายไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูงสุดในชีวิตพวกเขา

สุดท้ายนางทนไม่ไหวหันไปดู เห็นว่าสองในสามเข็มพลาดเป้าไป มีเข็มหนึ่งปักเข้าไปที่หัวมัน แต่ที่ทำโหลชีกระอักเลือดคือ หัวของปลากินคนตัวมหึมานั่นแข็งกว่าที่นางคาดไว้ บวกกับแรงดันในน้ำ เข็มเลยดูเบาไปในน้ำ ดังนั้นเข็มนั่นปักเข้าที่หัวมัน แต่เข้าแค่นิดเดียว ดูท่าคงได้แค่ผิวหนังชั้นนอกของมัน ทำร้ายอะไรมันไม่ได้เลย!

แม่เจ้า ถ้านางเอาอินทรีทะเลทรายที่โดนปรับปรุงจากยอดฝีมือแล้วนั่นมาลอง! ต่อให้อยู่ในน้ำก็ต้องจัดการมันได้แน่!

แต่ตอนนี้มาคิดเรื่องนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ได้แต่รีบหนีเอาชีวิตรอดอย่างบ้าคลั่งต่อไป!

เฉินซ่าพลันโอบเอวนาง และผลักนางไปข้างหน้าอย่างแรง โหลชีหันกลับไปมอง พอดีเห็นฉากปลากินคนนั่นกัดพลาดไปหนึ่งคำ แต่ห่างจากขานางแค่นิดเดียว! ถ้าไม่มีเฉินซ่าผลัก ขาขวาของนางคงโดนกัดเข้าไปทั้งขาแล้ว

ไล่กวดมาติดขนาดนี้แล้ว! พวกเขาหนีไม่ทันแล้ว

แต่ตอนนี้หน้าอกเริ่มปวด กลั้นหายใจถึงขีดสุดแล้ว! โหลชีดวงตาแดงเรื่อ กลับมีปากหนึ่งแนบเข้ามาหา ลมหายใจคำหนึ่งถ่ายทอดเข้าปากนาง นางผ่อนคลายลง

เฉินซ่าโอบเอวนางไว้ด้วยมือหนึ่ง ปากแนบริมฝีปากนาง และคอยถ่ายทอดลมหายใจให้นางอีกคำหนึ่ง ด้านหนึ่งก็ควักพิชิตวันจากเอวนางออกมา สะบัดแขนไป พิชิตวันตวัดเข้ากับฟันแหลมคมของปลากินคนที่อ้าปากกว้างเตรียมกัดพวกเขาเข้าพอดี

เขาใช้วิทยายุทธ์สิบส่วนเต็ม บวกกับความคมของพิชิตวันที่ฟันเหล็กประหนึ่งฟันโคลน พอฟันลงไปนี่ ถึงกับตัดฟันท่อนบนของเจ้าปลากินคนนั่นไปกว่าครึ่ง!

โหลชีหันไปก็เห็นเลย เกือบอ้าปากกว้างอุทานใส่เขา อานุภาพของเจ้าอาวุธทำลายล้างเฉินกับพิชิตวันนี่ช่างร้ายกาจไร้ใครเทียมจริงๆ!

พอเป็นแบบนี้อานุภาพของเจ้าหัวใหญ่ลดลงไปกว่าครึ่ง! แต่แรงกัดของเจ้าประเภทปลาเสือนี่ร้ายกาจมาก ต่อให้มีฟันแค่ครึ่งเดียว ถ้าโดนกัดเข้า บวกกับแรงกระชากบิดกัดของร่างกายมัน ก็ยังทำให้เราไม่อาจจะประมาทได้!

แถมด้านหลังยังมีฝูงปลากินคนตัวเล็กตามติดไม่ลดละ

ตอนนี้โหลชีเห็นใบหน้าเฉินซ่าบิดเบี้ยว เขากัดฟันแน่น เส้นเลือดที่ขมับปูดโปน เห็นได้ชัดว่าทนถึงขีดสุดแล้ว!

เมื่อครู่เขายังถ่ายทอดลมหายใจให้นางถึงสองครั้ง!

วิชากลั้นหายใจของพวกเขาไม่ต่างกันเท่าไหร่ พอให้นาง เขาก็เริ่มทนไม่ไหวเองแล้ว

ไม่ได้ ไม่ได้ พวกเขาต้องขึ้นสู่ผิวน้ำไปหายใจแล้ว!

ต้องสลัดปลากินคนพวกนี้ภายในสองวินาทีนี้! แต่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย!

โหลชีรู้สึกว่าหน้าอกใกล้ระเบิดแล้ว นางปิดปากแน่น แส้ปลิดวิญญาณสะบัดปลายแหลมคมออกไป นางพุ่งเข้าไปหาเจ้าหัวใหญ่ทั้งคนและแส้ เอาวะ สู้มัน!

เฉินซ่าไม่ทันดูนาง เขานึกถึงวิธีเดียวกันกับนางได้ในตอนนี้เอง เขาจับพิชิตวันแน่น แทบจะลงมือพร้อมกันกับนาง และพุ่งไปที่ช่วงท้องด้านล่างของเจ้าหัวใหญ่

ไม่ใช่เพื่อฆ่ามัน แต่เพื่อให้มันบาดเจ็บ ให้มันเลือดออก!

บางทีตอนนี้มันอาจจะเป็นเจ้าถิ่นในแหล่งน้ำนี้ ปลากินคนตัวเล็กฝูงนั้นไม่กล้าโจมตีมัน แต่ถ้ามันเลือดออก ตามสัญชาตญาณ ปลากินคนตัวเล็กตัวน้อยพวกนั้นที่พอเจอเลือดแล้วจะบ้าคลั่งฮึกเหิมมีหรือจะปล่อยมัน?

มันตัวใหญ่ แต่พวกนั้นจำนวนมาก! ให้พวกมันพวกเดียวกันรุมฆ่ากันเองแล้วกัน

ในหูเริ่มมีเสียงอื้ออึง นี่เป็นปฏิกิริยาที่กลั้นหายใจถึงขีดสุด โหลชีสองตาแดงก่ำ กัดฟันแน่น ใช้พลังทั่วร่างส่งมีดแหลมนั่นปักเข้าไปในท้องเจ้าปลากินคนใหญ่

ในเวลาเดียวกัน พิชิตวันในมือเฉินซ่าก็ปาดได้แผลใหญ่ที่หน้าท้องมัน!

เลือดสดไหลรินในน้ำ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งออกมา

ปลากินคนตัวเล็กฝูงนั้นรีบเร่งเข้ามา โหลชีเห็นถึงความตื่นเต้นของพวกมัน ปากปลาหลายร้อยตัวที่มีฟันแหลมคมเปิดอ้าออก ฉากนั้นทำนางยากจะลืมไปตลอดชาติเลย

มือใหญ่มือหนึ่งจับแขนนาง พลางลากขึ้นสู่ผิวน้ำ

โหลชีหันไปมอง เห็นการฆ่าฟันอย่างบ้าคลั่งนั่น ปลากินคนตัวเล็กตัวน้อยนับร้อยพากันรุมกัดเจ้าตัวใหญ่ เจ้าตัวใหญ่บิดเร้าอย่างบ้าคลั่ง คลื่นน้ำหมุนวน สีเลือดเริ่มเข้มขึ้น เหมือนสงครามอันโหดร้ายเลย

ซ่าซ่า

ในที่สุดทั้งคู่ก็ขึ้นสู่ผิวน้ำ

อากาศอัดเข้าปากและจมูก โหลชีหอบหายใจอย่างละโมบ รับรู้ได้ชัดถึงคำว่ารอดจากความตาย

"ยังไหวไหม?" เสียงแหบพร่าของเฉินซ่าดังขึ้นข้างหู โหลชีเอียงหัวมอง ยกหน้าเขาขึ้นมากัดปากเขาหนึ่งที รอดจากความตาย ร่วมเป็นร่วมตายกันอีกแล้ว เวลาแบบนี้ทำไมนางเห็นเขาหล่อขนาดนี้นะ

"ท่านยังไหวไหม?" นางเลิกคิ้วมองเขา

สายตาเฉินซ่าหลุบลง รู้สึกว่าการท้าทายแบบนี้ของนางช่างน่าสนใจนัก น่าสนใจยิ่ง มองยังไงก็ชอบ! แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่เวลามาสบายใจ ยังไม่รอดพ้นอันตรายเลยนะ มองไปรอบด้าน พวกเขาอยู่ห่างจากใจกลางทะเลสาบมาไม่น้อย สามารถมองเห็นฝั่งได้แล้ว แต่บนผิวน้ำกลับไม่เห็นแม้แต่เงาพวกเยว่

"ไหวไม่ไหว ดูก็รู้แล้ว"

"แข่งกันรึ!"

ทั้งสองคนหอบหายใจคำโตเข้าไป และดำลงน้ำอีกครั้ง สีเลือดด้านล่างเข้มขึ้นเรื่อยๆ ในน้ำยังหมุนวนอยู่ พวกเขาไม่กล้าดูอีก รีบว่ายไปในทิศทางที่หนีพวกมันอย่างรวดเร็ว

ขืนไม่ไปอีก จะรอเจ้าปลากินคนตัวเล็กตัวน้อยพวกนั้นกินปลาใหญ่หมดแล้วค่อยมาไล่ตามพวกเขาอีกรึ?

และเวลาแค่นี้ ปลากินคนตัวมหึมานั่นก็โดนกินจนเหลือแค่กระดูกแล้ว

......

พวกเยว่และเฉิงสิบโผล่พ้นน้ำอีกครั้ง ทั้งสี่คนเหนื่อยจนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งที่สี่ที่พวกเขาขึ้นมาหายใจแล้ว และครั้งนี้พวกเขาพบอะไรบางอย่าง

"ดู อยู่ไม่ไกลจากฝั่งแล้ว" โหลวซิ่นชี้ไปด้านหน้าพลางบอก

นางมัจฉาชุดดำสามคนนั่นหลอกพวกเขาจริงๆด้วย ถ้าอยู่บนบกแล้วค่อยมาลงน้ำที่นี่ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเจอฝูงปลากินคนนั่นเลย และไม่ต้องว่ายน้ำมาไกลขนาดนี้ด้วย เพราะเมื่อครู่พวกเขาพึ่งผ่านตาข่ายเหล็กใต้น้ำ ดูท่าจะเป็นแหล่งน้ำที่ไว้กักขังปลากินคนพวกนั้น

พวกนางล่อพวกเขาไปในถิ่นปลากินคน จะให้พวกเขาตายในปากปลากินคน

"ตอนนี้ดูแนวหินด้านล่างพวกเรา ดูแล้วเป็นทางซับซ้อน หรือว่าจะเป็นทางเข้าของวังบาดาลใต้น้ำนี่?" เฉิงสิบหันหาเยว่

เยว่นิ่งคิดครู่หนึ่ง มองเขา และหันมองโหลวซิ่น "พวกเจ้าไม่เป็นห่วงพระสนมรึ?"

เฉิงสิบกับโหลวซิ่นสายตาหรุบลง แต่กลับส่ายหน้าพร้อมกัน และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "แม่นางต้องปลอดภัยแน่"

"เชื่อใจนางเพียงนี้?"

เฉิงสิบกับโหลวซิ่นพยักหน้า "อีกอย่าง มิใช่มีฝ่าบาทรึ?" แม่นางกับฝ่าบาทร่วมมือกัน พวกเขาไม่เชื่อมั่นแล้วจะเชื่อใคร

"งั้นพวกเรารอพวกเขาอยู่ที่นี่" เยว่บอก ตอนนี้เขากลัวโหลชีจะเกิดเรื่อง แล้วกลับมาไม่ได้อีก

ด้านหน้ามีเสียงน้ำกระฉอกลอยมา

พวกเขาพลันระแวง รีบหันขวับไปมองอย่างรวดเร็ว เห็นมีคนโผล่ขึ้นเหนือน้ำพอดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ