สรุปเนื้อหา บทที่ 314 กระบี่สังหาร – ใต้ร่มยาใจ โดย ลิ่วเยว่
บท บทที่ 314 กระบี่สังหาร ของ ใต้ร่มยาใจ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ชุดสีชมพูอ่อนของนางบัดนี้ถูกย้อมไปด้วยเลือด ผมสีดำซึ่งกระจายนั้นดูจะมีเลือดติดด้วย จนมันกระจุกอยู่ด้วยกันเป็นช่อๆ
นางดูจะเหน็ดเหนื่อยมาก แต่แรงที่นางกุมกระบี่แทงลงไปนั้นมากนัก ทุกการแทงล้วนแทงทะลุศพ จากนั้นดึงออกมาอย่างเร็ว
มันช่างแปลกประหลาดอย่างที่สุด ทำให้คนที่มาถึงพากันตะลึงงุนงง ณ จังงัง
เมื่อครู่เซียวชงไม่ได้เกิดเรื่อง หากตกใจกับฉากเบื้องหน้านี้ ขาอ่อนยวบทรุดลงพื้น และพอดีไปจับโดนซากศพหนึ่งซึ่งโดนฟันหัวขาดไปครึ่งหนึ่ง เลยตกใจเกือบตาย
"หยงเอ๋อร์?" เซียวหั่วอุทานด้วยเสียงสั่นเทา
สตรีผู้นั้นหันกลับมา มีคนหายใจสะท้านเยือก
สตรีผู้นี้คือคุณหนูห้าเซียว เซียวหยง จุดนี้มิต้องสงสัยละ แต่เซียวหยงที่เดิมอ่อนช้อยงดงาม ตอนนี้กลับดูน่าสะพรึงกลัว ใบหน้านางถูกย้อมไปด้วยเลือดแดงสด และสิ่งที่ทำให้คนหวาดกลัวคือดวงตาของนาง โหลชีจำได้ว่าดวงตาของเซียวหยงเดิมยังสวยกระจ่าง แต่ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นของนางมีตาขาวค่อนข้างมาก ดวงตาดำกลับหดลงเหลือนิดเดียว และยังเป็นสีแดง! เหมือนยัดเม็ดเลือดเข้าไปสองเม็ด
"หยงเอ๋อร์ เหตุใดเจ้ากลายเป็นเยี่ยงนี้ไปได้? รีบวางกระบี่นั่นลง..." เซียวหั่วกลืนน้ำลายเอื๊อก ถึงจะเป็นลูกสาวตน หากเห็นนางในสภาพนี้ก็อดรู้สึกกลัวมากไม่ได้
สายตาทุกคนต่างเบนไปที่กระบี่เล่มนั้นที่นางกุมไว้
เห็นเพียงแวบเดียว คนไม่น้อยรู้สึกว่ามีรังสีเย็นเยือกชนิดหนึ่งออกมาจากกระบี่นั่นปะทะเข้าหน้า บางคนทนไม่ไหวอุทานออกมาด้วยความตกใจ และใช้แขนกั้นไว้ข้างหน้า เอียงคอหลบหลีกมัน
โหลชีเห็นกระบี่นั่น ถึงจะไม่ได้ตกใจ แต่อดใจสะท้านไม่ได้ ด้านหนึ่งของตนซึ่งโหดเหี้ยมโดยที่ตนพยายามกดไว้เริ่มค่อยๆออกมา นางยืดอกตรง สีหน้าเย็นชาเคร่งขรึม สายตาเริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา พริบตาเดียว เสมือนเป็นคนละคน
แต่คนอื่นรอบข้างกลับมองกระบี่นั้นอย่างหวาดกลัว ไม่มีใครสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของนาง นอกจากเฉินซ่าที่หันคอมองนางอย่างรู้สึกได้ เขาอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นยื่นมือมากุมมือนางไว้ และลงแรงบีบหนึ่งที
เขาไม่เคยเห็นโหลชีในสภาพนี้มาก่อน ต่อให้เมื่อก่อนนางจะพูดกับเขาอย่างโหดเหี้ยมว่าถ้าเขามีสัมพันธ์ใดๆกับน่าหลานฮั่วซิน นางจะฆ่าเขา นางก็เพียงแค่เย็นชาและเคร่งขรึมมาก มิเหมือนตอนนี้ที่ดูเย็นมากและยังแฝงแววอำมหิตด้วย
จังหวะนี้เฉินซ่าค้นพบว่าตนยังเข้าใจนางไม่มากพอ แต่ก็รู้ตัวตอนนี้เช่นกันว่า นางยังมีอีกหลายสิ่งที่มีค่าพอให้เขาไปศึกษา
โหลชีเหลือบตาขึ้นมองเขา
นิสัยที่แท้จริงของนางโดนกระบี่นี่กระตุ้นออกมา คิดได้เลยว่าจิตวิญญาณของกระบี่นี่แข็งแกร่งแค่ไหน ดังนั้นมันควบคุมเซียวหยง เซียวหยงโดนมันควบคุมจิตใจ มิใช่นางถือกระบี่และควบคุมมัน
นางเองยังดี เพราะนิสัยนี่เป็นของนางเหมือนกัน นางไม่เคยปฏิเสธนิสัยนี้ของตนเอง ดังนั้นเลยไม่โดนควบคุม
โหลชีเดาว่าพวกที่มีสองนิสัยแอบอยู่คงโดนกระตุ้นจนส่งนิสัยด้านมืดออกมา ส่วนพวกที่ไม่มีก็จะโดนจิตวิญญาณกระบี่ควบคุม พวกตบะน้อยเป็นไปได้อย่างมากจะได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่พวกที่อยู่ที่นี่ตบะไม่น้อยเลยกันเลย
แต่เฉินซ่ากลับไม่มีร่องรอยได้รับผลกระทบใดๆเลย
"ข้ามิเป็นไร" โหลชีส่ายหัวเบาๆ
เฉินซ่าหรี่ตามองนางเล็กน้อย ใจกระตุก โหลชีในยามปกติเฉลียวฉลาดซุกซน ชอบแกล้งยั่วโมโหคน แต่โหลชีในตอนนี้ เขากลับรู้สึกว่ามีราศีสูงส่งบางอย่างที่บรรยายไม่ได้
ผู้คนในที่นั้นที่ตบะน้อยไม่กล้ามองกระบี่นั่นตรงๆอีก ส่วนพวกตบะสูงพอมองดูกระบี่นั่นก็มีผิดปกติอยู่บ้าง
เฉินซ่ากวาดตามองโดยรอบ ส่งเสียงผิวปากออกมาหนึ่งครั้ง เสียงผิวปากใสกระจ่างไปไกล แฝงไอเย็นเล็กน้อย
ปลุกคนทั้งหมดให้ตื่นคืนสติขึ้นฉับพลัน
ยู่ไท่จื่อมองเฉินซ่า พลางถาม "ฝ่าบาทมิได้รับผลกระทบจากกระบี่นี่รึ?"
เมื่อครู่เขายังโดนเลย
เฉินซ่าพูดเสียงเรียบว่า "ไม่มีสิ่งใดสามารถควบคุมข้าได้"
เยว่กับเฉิงสิบคืนสติกลับมา เสริมหนึ่งประโยคในใจพร้อมใจ นอกจากโหลชี
เซียวหยงยกกระบี่ขึ้นอีกครั้ง มันเป็นกระบี่ยาวที่ด้านนอกดูโบราณสีดำเล่มหนึ่ง มีแกะสลักมังกรเหินขึ้นฟ้าที่ด้ามกระบี่ ตัวกระบี่ยาว สีกระบี่ดุจน้ำค้างแข็ง เย็นเยียบและมืดมิด
"ราชันย์กระบี่" นางฟ้าเมิ่งปี้พูดเสียงต่ำ แววตาฉายประกายเร่าร้อนขึ้นมา
"มิเลว มิเลว กระบี่นี้คู่ควรเรียกได้ว่าราชันย์กระบี่จริงๆ" ผู้เฒ่าเคราขาวผู้หนึ่งลูบเคราพลางว่า
ไม่ต้องลองกระบี่ ใครก็ดูออกว่า กระบี่นี้มิธรรมดา
มีคนพูดขึ้นอีกว่า "ต่อให้เป็นราชันย์กระบี่ ก็เป็นกระบี่มารกระมัง? ดูคุณหนูห้าเซียวสิ โดนจิตวิญญาณกระบี่ควบคุม จนกลายเป็นมารแล้วน่ะ"
พอคำนี้ออกไป ทุกคนต่างสะท้านเยือก
เซียวฉิงได้สติกลับมา อดหันมองโหลชีไม่ได้ เพราะสีหน้าเย็นชาของเฉินซ่าเมื่อครู่ โหลชีเลยกดทับนิสัยนั้นลงไป และกลับสู่สภาพปกติอีกครั้ง
ความเร็วของนางเร็วนัก เร็วจนร่างเหลือแค่เงา
ตอนนี้คนอื่นก็พบแล้วว่าวิชาตัวเบาของนางพัฒนาไปไกลมาก รู้ว่านางต้องการจะได้กระบี่ล้ำค่านั่นมาไว้ในครอบครอง กลับยิ่งไม่อยากอ่อนข้อ ตรงกันข้ามกลับมองนางเป็นคู่แข่งคนสำคัญ มีหกเจ็ดคนพุ่งตามไป
ฉับพลัน ลานนี้วุ่นวายไปหมด
โหลชีกับเฉินซ่าถอยไปอีกด้านหนึ่ง ยืนดูพวกเขาแย่งกระบี่กัน และยังคอยวิจารณ์เป็นระยะ
ตอนแรกชายฉกรรจ์คนนั้นจับกระบี่ไว้ได้มั่น เขาเงยหน้าขึ้นหัวเราะร่าว่า "อาวุธวิเศษเป็นของข้า ของข้า! พวกเจ้าใครกล้าเข้ามาแย่ง ข้าจะฆ่าพวกเจ้า!"
วิทยายุทธ์เซียวหยงต่ำมาก และไม่รู้วิชากระบี่อะไร ดังนั้นนางจึงใช้สองมือกุมกระบี่ฟันมั่วไปหมด แต่ชายฉกรรจ์ผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นยอดฝีมือกระบี่ กระบี่ถือมั่นในมือ เขาจึงแทงกระบี่พุ่งไปทางนางฟ้าเมิ่งปี้ที่อยู่ทางซ้ายด้านหน้าทันที
ไม่เพียงนางฟ้าเมิ่งปี้เท่านั้น คนทุกคนในที่นั้นต่างรู้สึกได้ถึงรังสีกระบี่เย็นเยียบพุ่งไปทางนางหนึ่งก้าว ก่อนที่กระบี่จริงจะแทงไปที่นางฟ้าเมิ่งปี้
ร่างนางฟ้าเมิ่งปี้กลับบิดตัวแปลกตานัก นางหลบรังสีกระบี่อย่างรวดเร็ว และหลบกระบี่ที่พุ่งเข้ามานั่นด้วย
เพียงแต่นางมิคิดเลยว่า รังสีกระบี่นั้นถูกนางหลบไปแล้ว รังสีกระบี่ของตัวกระบี่นั้นกลับยังอยู่ ทำให้นางตกใจนัก ปอยผมก็โดนฟันไปเล็กน้อย
"จิ่งเมิ่ง ตอนนี้เจ้าสู้ข้ามิได้แล้วกระมัง? ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะแต่งงานกับข้าหรือไม่?" ชายฉกรรจ์ถามออกปาก นางฟ้าเมิ่งปี้สีหน้าเขินอายจนโกรธ
"ฝันไปเถอะ!" พอนางด่าเสร็จ เหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสีหน้าชายฉกรรจ์นั่นแดงก่ำอย่างประหลาด ดวงตาเป็นเหมือนเซียวหยงเมื่อครู่ ดวงตาแดงสดสองเม็ดในดวงตาขาว
"ชายฉกรรจ์นั่นก็โดนอาวุธวิเศษควบคุมแล้ว" โหลชีพูด "ข้ายังนึกว่าเขาจะมีจิตใจแข็งกล้าสักแค่ไหน ที่แท้ก็คุมกระบี่นั่นไม่อยู่"
"ข้าขอเจ้าแต่งงานมาทุกปี ขอมาหลายครั้งแล้ว เจ้ากลับมิไยดีข้าเลย งั้นก็ไปตายเสียเถอะ!" ชายฉกรรจ์สะบัดกระบี่ กระบี่ส่งเสียงหึ่งหึ่งหึ่งออกมา
"เสียงกระบี่นี้---" เยว่ขมวดคิ้ว "เสียงกระบี่นี้มีอานุภาพโจมตีด้วย"
นั่นไง พวกเขาเห็นหลายคนในลานกุมหัวทรุดลงพื้นอย่างทรมาน ดูเหมือนจะทรมานมาก
โหลชีมองอาวุธวิเศษนั่นสายตาเป็นประกาย "ของดีเยี่ยงนี้ จะให้คนอื่นได้อย่างไร?"
ถึงอาวุธวิเศษนี่จะรังสีอาฆาตแรง จิตวิญญาณกระบี่รุนแรงยิ่งนัก แต่ถ้าสามารถควบคุมมันได้ อานุภาพของมันก็น่าตกใจมากเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ