ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 348

โหลชีไม่ให้โอกาสเหล่าขุนนางได้หายใจหายคอ เอ่ยด้วยเสียงเย็นต่อ"เกณฑ์ทหาร เกณฑ์ทหารทำอะไร? ในเมื่ออาศัยฝ่าบาทสู่ขอลูกสาวเขามาก็ไม่มีอะไรแล้ว แล้วยังเบาปัญญาถึงขนาดจ้องสินเดิมเจ้าสาวของคนอื่นอีก! ทหารหมื่นคน? ข้าจะบอกให้! ต้องการสิ่งใดก็ไปทำมันด้วยตนเอง! ต้องการทหาร ก็ไปเกณฑ์ด้วยตนเอง! กล่าวในทางที่น่าฟังหน่อย ใช้เลือดร้อนระดม ใช้วิญญาณทหารควบแน่น กล่าวในทางเรียบง่ายเท็จจริง ใช้เบี้ยเลี้ยงทหารพูด!"

"ทหารหนึ่งหมื่นที่พวกเจ้าจ้องให้คนเขาพามา ดีใจอย่างกับหนูที่ขนขนมชิ้นเล็กมาจากครัวคนอื่นสำเร็จ แล้วยังไม่คิดสักหน่อย ว่าขนมชิ้นน้อยที่ขนมานั้นจะมีพิษหรือไม่! ความใฝ่สูงของเกายู่หู่โผล่ออกมาอยู่นั่นทนโท่แล้ว หากต้องการเข้าสวามิภักดิ์จริง ไยไม่ส่งมอบเมืองมาแล้วขอแค่ฝ่าบาทมอบตำแหน่งดีๆ ให้กับเขาเล่า? เขาสร้างเมือง สร้างกองทัพ โยกย้ายทหารหมื่นนายติดตามลูกสาวที่นำทหารได้แต่งเข้ามา ทหารหมื่นนายนี้จะเชื่อฟังพวกเจ้าหมดหรือ? ใช้ลูกสาวคนหนึ่ง ทหารหมื่นนาย แลกเวลาให้เมืองซงของเขาได้พัฒนา! รอจนเวลาสุกงอม เกาอินอินก็พาทหารหมื่นนายรับจากภายใน แล้วเผด็จศึกเมืองพั่วอวี้ของเจ้าทันที!"

สีหน้าจี้เซิ่งหงขาวซีดขึ้นเรื่อยๆ เหงื่อกาฬไหลพราก เมื่อฟังถึงตรงนี้ ก็อยากแก้ต่างให้ตนเองตามจิตสำนึก"พระสนม นี่ท่านเป็นแค่การคาดเดา..."

โหลชีตอบรับอย่างเปิดเผย"มิผิด! นี่เป็นการคาดเดาของข้า แต่เกายู่หู่เป็นอะไรกับเจ้า? ชาติที่แล้วเขาเป็นผู้มีจิตกุศลใหญ่หลวงกอบกู้โลกหรือ? มิใช่ญาติมิตร ไร้ซึ่งเหตุผล ไม่มีความเข้าใจจากปฏิสัมพันธ์ เจ้าก็เชื่อเขาร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เขาว่าอะไรก็เป็นเช่นนั้น" นางชะงักครู่หนึ่ง"เจ้าโง่หรือ?"

เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ อิงมักรู้สึกทะแม่งๆ และงงงันอยู่บ้าง พยายามคิด แต่ไฟระเบิดโหลชีก็พุ่งตรงมาแล้ว"ใต้เท้าองครักษ์อิง ยังคิดอะไรสุดชีวิตอยู่หรือ? ใช่! มิผิด! คำพูดนี้ก็ถามเจ้าด้วยเช่นกัน! เฟยฮวนว่าอะไรเจ้าก็เชื่อเช่นนั้น ให้นางเข้ามาอยู่ยังแล้วไป ยังปฏิบัติตัวเฉกเช่นอาคันตุกะสำคัญ จู่ๆ นางก็เปลี่ยนคำพูดบอกว่านางชื่อชุ่ยฮัว เจ้าเนี่ย ยังไม่รีบเปิดสมองของเจ้า แล้วสงสัยสักหน่อยว่าเป็นอย่างไรกันแน่ กลับยังคิดจะผลักดันนางให้เป็นพระสนมนายของเจ้า เจ้าโง่หรือ?"

เยว่ลูกจมูก รู้สึกเห็นอกเห็นใจ แต่แล้วเหลือบอิงแวบหนึ่งอย่างเห็นใจไม่ได้ ผิดที่เขา เมื่อคืนยังไม่ทันบอกเขาเรื่องของชุ่ยฮัวผู้นั้น... แต่พระสนมนี่ก็ระเบิดพลังเต็มเหนี่ยวไม่ไว้ไมตรีสักนิด โพล่งออกไปเช่นนี้ฉาดใส่ใบหน้าหนักๆ แม้แต่เขายังรู้สึกเจ็บแสบร้อน

ที่จริงเมื่อวานกลับมาเขาก็พบปัญหาหนึ่ง เหล่าขุนนางที่เลื่อนตำแหน่งใหม่คล้ายว่าจะโงนเงนมิรู้อันใด จะสร้างแคว้นแล้ว ต้องการความมั่งคั่งร่ำรวยอนาคตดุจผ้าไหม อย่างอื่นยังไม่คิด ที่พวกเขาคิดอยากได้ยิ่งกว่าก็คือรักษาความสงบในเวลาให้สืบต่อไป พยายามมีชีวิตอยู่ในความตื่นเต้นที่วิ่งไปทางที่บ้านเมืองสงบรุ่งเรือง

นี่มิดีกว่าการสู้เลือดสาดกระจายทุกวันหรือ?

แต่ฝ่าบาทมิอยากได้ลูกน้องเช่นนี้เป็นกองแน่ ดังนั้นหากพวกเขากอดความคิดและท่าทีเช่นนี้เดินต่อไป เขาก็รู้ล่วงหน้าได้ อนาคตอีกไม่ช้า น่าจะมีคนจำนวนหนึ่งถูกฝ่าบาทฆ่าทิ้งภายใต้ความวาวโรจน์

ขณะนี้ ถูกพระสนมตบหน้าเช่นนี้ อย่างไรเสียก็เป็นดีแน่แท้

แม้เวลานี้พวกเขาต้องเจ็บมากแน่

ไหนเลยแค่เจ็บ เหล่าขุนนานแทบอยากตายแล้ว!

แต่พวกเขาจำต้องยอมรับ คำกล่าวของโหลชีถูกต้อง ความใฝ่สูงของเกายู่หู่เป็นที่ประจักษ์เด่นชัด เหตุใดก่อนหน้านี้พวกเขาจึงมองข้ามไปเสีย?

ขณะนั้น ห้องโถงใหญ่เงียบกริบ ไม่มีผู้ใดกล้าปริปากอีก

ตั้งแต่โหลชีต้องการพูดสักหน่อย เฉินซ่าก็เงียบปากมองนาง สุดท้ายยิ่งฟังก็ยิ่งฮึกเหิม ยิ่งฟังดวงตาก็ยิ่งเป็นประกาย คม คม! เขาชอบเหลือเกิน! ไยจึงชอบขนาดนี้?

เวลานี้เห็นเหล่าขุนนางของเขาถูกสั่งสอนจนไม่ปริปาก เขาไม่ปวดใจ เขาลุกขึ้นมา เคียงข้างโหลชี เอ่ยเสียงหนัก"ข้าจะพูดอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ชาตินี้ข้าจะมีภรรยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือโหลชีที่เวลานี้ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเจ้า ต่อไปใครเอ่ยถึงการแต่งตั้งสนมเลือกสาวงามอีก ลากออกไปประหารทันที อย่าหาว่าข้าไม่ไว้ไมตรี! อีกอย่าง ข้าได้ให้คำสัตย์กวาดล้างแผ่นดินรกร้างพั่วอวี้ ใครมิจำนน ก็ฆ่าล้างมันไปเสีย อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องเกี่ยวดองพวกนั้นกับข้าอีก!"

เขากุมมือโหลชี ให้เหล่าขุนนางได้เห็นสิบนิ้วประสานของพวกเขา แล้วเอ่ยช้าๆ"ในใจข้า หญิงใต้หล้ามิมีผู้ใดเทียบเคียงโหลชี"

โหลชีตะลึง

ฝ่าบาท เค้านี้ไม่ถูก ไม่ถูกๆ!

เฉินซ่ามองนาง"อย่างไร? ไม่เชื่อ?"

โหลชีขณะจ้องก็หยัดตัวตรง"พูดเป็นเล่น ผู้ใดมิจำนน ก็มาสู้กัน!"

อุ๊บ

เยว่กับอิงอดกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ว้าวุ่นอยู่ในสายลม ก็ได้ ความจริงในห้องโถงนี้ไม่มีลม

เฉินซ่าชอบท่าทางยโสของนางเช่นนี้ แทบอยากให้นางเพิ่มระดับมากขึ้นอีกหน่อย"ผู้ใดมิยอมจำนน ก็หาสิ่งที่เหมือนกับของโหลชีออกมาแล้วค่อยมาว่ากัน"

เหล่าขุนนางชะงักงัน ไม่รู้ว่าสิ่งที่เฉินซ่ากล่าวคือสิ่งใด เฉินซ่าบีบมือโหลชี เมื่อนั้นนางถึงรู้ว่าความหมายที่เมื่อคืนเขาบอกให้นางเตรียมสิ่งของให้พร้อมเอาออกมานั้นคืออะไร

นางตะเบ็งเสียงเอ่ย"เอาของออกมา"

ครู่หนึ่ง ด้านนอกก็มีคนเรียงแถวเข้ามา แต่ละคนในมือถือถาดใบใหญ่ ที่เดินตรงหน้าสุดคือเสี่ยวโฉว ถัดมาคือเฉิงสิบ โหลวซิ่น แล้วยังมีพวกถูเปิน เจ้าลิงอีก

พวกเขาเพิ่งเดินเข้ามา หมอเทวดาก็เด้งออกมาจากมุมหนึ่ง"ยา ยา! กลิ่นหอมยา! ถึงกับมีกลิ่นยาที่สดชื่นเช่นนี้ได้!" เขาสูดดมเต็มแรง วิ่งมาอยู่ข้างพวกเฉิงสิบ แทบอดใจไม่ไหวอยากเปิดผ้าด้านบนที่คลุมอยู่

"พระสนม ต้องเป็นยาดีแน่ๆ ใช่ไหม?"

โหลชีเม้มริมฝีปาก

ของเหล่านี้ ย่อมต้องเข้าตำหนักจิ่วเซียว ดังนั้นตอนนี้นางจึงไม่คิดเล็กคิดน้อย หากเฉินซ่าผิดต่อนาง นางต้องทวงคืนทั้งต้นทั้งดอกแน่

"แน่นอน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ