ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 365

แต่เมื่อนางเห็นอย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวน้ำเน่านั้นคือซือเอ๋อร์ แววตาของนางก็ดำมืดไปชั่วขณะหนึ่ง

เดิมทีถูเปินมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า เมื่อก่อนเขาเคยเป็นขอทานหรือไม่ก็โจรภูเขา เขาไม่มีเงินแม้แต่จะไปหอคณิกา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนชอบผู้ชายแบบนี้ แต่อาจจะเป็นเพราะทุกวันนี้เห็นจูซื่อที่มีรอยแผลเป็นเต็มใบหน้าน่าสะอิดสะเอียน ทั้งยังมีกลิ่นตัวที่ทำให้คนหายใจไม่ออก ซือเอ๋อร์จึงมองไปที่ถูเปินแล้วคิดว่าเขาค่อนข้างดูดี อีกอย่างบนตัวเขามีกลิ่นสบู่อยู่จางๆ

ซือเอ๋อร์ประทับใจจนแทบจะร้องไห้เมื่อนางได้กลิ่นดังกล่าว ดังนั้นนี่คือสถานการณ์ในตอนนี้ แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบ ในทางกลับกันหัวใจของนางก็เต้นแรง หลังจากนั้นนางก็เขินอาย

ถูเปินเป็นชายคนหนึ่งที่ไม่เคยแตะต้องสตรีมาก่อน ตอนนี้เนื้ออ่อนอยู่ในอ้อมแขนและริมฝีปากนุ่มๆ ทับกับปาก เขาลังเลที่จะผลักออกไป

เฉิงสิบเองก็อายเกินกว่าที่จะไปดึงออกมา เมื่อหันหลังไปก็เห็นว่าแม่นางกำลังเฝ้าดูด้วยความสนใจ และไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ดังนั้นเขาจึงควบคุมม้าอย่างเงียบๆแล้วเดินหน้าต่อไป รถม้าไม่ได้หยุด ดังนั้นมันจึงพาซือเอ๋อร์ออกจากถนนสายยาวนี้

โหลชีเท้าคางของนางมองดูทั้งสองคนแล้วถอนหายใจ"ข้าว่าหากพวกเจ้ามีน้ำเน่ามากกว่านี้อีกหน่อย จะรดเจียงซือตายเป็นร้อยตัวอยู่แล้ว พวกเจ้าก็ควรจะคำนึงถึงความรู้สึกของคนโสดที่อยู่รอบๆตัวด้วยสิ"

ทุกคนไม่เข้าใจว่านางหมายถึงอะไร แต่เสียงของนางก็เพียงพอที่จะทำให้ถูเปินและซือเอ๋อร์ตกใจ ถูเปินเหยียดมือลุกขึ้นนั่ง ซือเอ๋อร์กรีดร้องด้วยความตกใจ และเพียงเท่านั้น เขาจึงรู้ว่าเขายังอยู่บนรถ การผลักนี้ไม่สามารถผลักนางลงได้ และต้องไม่ให้ล้อทับนาง เขาจึงเอื้อมมือไปจับนางทันที อีกครั้ง แต่เขารับนางไว้ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง

คราวนี้ใบหน้าของซือเอ๋อร์แดงราวกับเลือดไหล แต่นางก็รู้สึกว่าถูเปินทำเพราะหวังดีกับนางและเพื่อช่วยนาง และในใจของนางก็รู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย

โหลชีลูบหน้าผาก

ความรักนะ ความรัก ความรักกำลังเบ่งบาน นางไม่ใช่คนโง่ นางจะมองไม่ออกได้อย่างไร

แต่คู่นี้พัฒนารวดเร็วเกินไป แม้แต่นางก็รู้สึกตามจังหวะไม่ทันเล็กน้อย

ถ้าหากถูเปินหวั่นไหวกับนางจริงๆ นางจะไปเตือนเขาจริงๆว่าซือเอ๋อร์ไม่บริสุทธิ์แล้ว นางมาจากยุคปัจจุบันจึงมิได้ดูแคลน แต่ผู้ชายที่นี่ไม่มีจิตใจออมชอมให้ผู้หญิงขนาดนั้น อีกอย่าง จะเก็บชีวิตนางได้หรือไม่ ยังต้องดูการแสดงออกถัดจากนี้

อิ้นเหยาเฟิงมองอย่างสงสัยและใบหน้าของนางก็แดงเล็กน้อย แต่เมื่อนางมองไปที่โหลชีก็พบว่าสีหน้าของนางเป็นปกติ นางจึงอดไม่ได้ที่จะถามเบาๆว่า "ฝ่าบาทปฏิบัติกับพระสนมเช่นนี้หรือไม่?"

โหลชีเกือบล้ม นี่มันคำถามอะไร? อิ้นเหยาเฟิงนี่โง่จริงๆหรือแกล้งโง่กันแน่?

ทันใดนั้นนางก็กลัดกลุ้มขึ้นมา ทำไมคนที่ล้อมรอบตัวนางถึงได้ไม่น่าไว้วางใจทั้งนั้นเลย? ก็ยังเป็นเฉิงสิบของพวกเราที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าเขาจะเงียบขรึมอยู่เสมอ แต่เขาก็น่าไว้วางใจจริงๆ

เมื่อคิดอย่างนี้ นางก็ได้ยินเฉิงสิบพูดกับถูเปินว่า "ถูเปิน เจ้ารอจนไม่มีคนค่อยกอดได้ไหม?"

ไอ้เชี่ย ใครสอนเรื่องแย่ๆให้เฉิงสิบที่หล่อเท่ของนาง

ถ้าหากโหลวซิ่นได้ยินเสียงในใจนาง เขาต้องกระโดดแล้วพูดออกมาว่า "แม่นาง ใกล้หมึกเป็นดำ!"

โหลชีไม่มีทางยอมรับแน่ๆว่านางก็คือหมึกสีดำชิ้นนั้น

"ซือเอ๋อร์ คารวะพระสนมขอพระสนมได้โปรดช่วยซือเอ๋อร์ด้วย!" ซือเอ๋อร์ถูกพวกเขาขัดจังหวะ นางจึงรู้สึกตัว เมื่อเห็นโหลชี นางก็รีบคุกเข่าลงบนพื้นรถ แล้วเขกศีรษะไม่หยุด

"พูดมาทำไมข้าต้องช่วยเจ้า?" โหลชีเอนหลังแล้วเหลือบมองไปด้านข้างของนาง

ซือเอ๋อร์กัดริมฝีปากล่างของนาง น้ำตานางก็ไหลออกมาทันทีอย่างรีบร้อน ถูเปินหันมาเหลือบมองนาง ราวกับว่าหัวใจของเขาถูกดึงออกมา

โหลชีกลับพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า "เจ้ามาแสดงละครว่าต้องร้องไห้อย่างไรให้น่าเวทนา?ขอโทษด้วย ข้าไม่สนใจเรื่องนี้"

ซือเอ๋อร์ชะงัก นางไม่ได้แสดงละครนะ นางรู้สึกเศร้าและอนาถใจจริงๆ! แต่เมื่อเห็นว่าโหลชีไม่ได้โกหก นางทำได้เพียงสะอื้นและเช็ดน้ำตาด้วยแขนเสื้อ บังคับให้ตัวเองบีบน้ำตากลับไป

"ในตอนนั้นซือเอ๋อร์ได้ยินสิ่งที่พระชายารองซ่งพูดกับคุณหนู"

โหลชีเลิกคิ้วขึ้น เป็นอย่างที่คาดไว้

"นั่งลงเถิด กลับไปค่อยว่ากัน"

นางไม่ลืมว่ามีซู่ฉงโจวที่มีที่มาไม่ชัดเจนอยู่ข้างหลัง นางมีลางสังหรณ์ว่าสิ่งที่พระชายารองซ่งขอร้องเฉินซ่า หรือพูดอีกอย่าง เหตุผลที่นางขอให้ผูยู่เหอมากับพวกนางนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ไม่อย่างนั้น ผูยู่เหอผูหยูเหอต้องเอามาเป็นเงื่อนไขไปนานแล้ว เพื่อแลกกับความสงบสุขของนางแต่ถึงแม้ว่านางจะถูกไล่ออกมาและเข้าไปพัวพันกับคนอย่างจูซื่อ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เรื่องนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่

นี่เป็นเหตุผลที่เฉินซ่าส่งคนมาจ้องพวกนางตลอดเวลา ไม่ต้องการให้พวกนางตาย แต่ปล่อยให้ จูซื่อกดขี่และเข้าไปพัวพันกับพวกนางเช่นนั้น

เมื่อจนตรอก พวกนางต้องมีหนึ่งคนที่พูดแน่

แต่ผูยู่เหอก็รนหาที่ตายจริงๆ เพิ่งไม่กี่วันก็บีบจนสาวใช้ข้างกายตัวเองขายนางแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ผลที่เฉินซ่าต้องการพอดีหรือ? ผู้ชายคนนั้น อาจชั่วร้าย โหดเหี้ยมอำมหิตในสายตาคนมากมาย ไม่มีความเห็นใจ อย่างเรื่องของผูยู่เหอนายบ่าว เขาไร้น้ำใจเพียงพอ

พระชายารองซ่งทำสัญญากับพวกเขาแล้ว แต่เขาสัญญาว่าจะพาคนมาเพียงครึ่งเดียว ไม่ได้รับปากว่าเมื่อพวกนางทำผิดจะยอมผ่อนผันให้ ต้องให้พวกเขาอยู่ในตำหนักจิ่วเซียวต่อไป อีกอย่างยังพาจูซื่อออกมาอีก บังคับให้พวกนางจนตรอก

ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีความรู้สึกกับเขา บางทีนางอาจจะดูถูกความโหดเหี้ยมของเขา

แน่นอน นางก็รู้ว่าตัวเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร

ซู่ฉงโจวได้ยินเสียงรถม้าเงียบลง และมีแสงบางอย่างแวบเข้ามาในดวงตา

ตำหนักหลายแห่งในตำหนักจิ่วเซียวก้มีป้ายแขวนใหม่ ตอนนี้ก็ดูคล้ายกับพระราชวังของพระราชวงศ์ตงชิงและแคว้นอื่นๆในหลายๆด้าน เช่น มีห้องทรงพระอักษร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ