เพียงแต่ว่า คนพวกนี้ไล่ตามพวกเขามาตลอดทาง ไล่ตามมาตลอดตั้งแต่เป่ยชางจนถึงที่นี่ และทำให้พี่น้องของพวกเขาตายไปสองคน ความแค้นนี้อย่างไรก็ไม่สามารถที่จะไม่ชำระเลย
"พี่อวิ๋นอยากจะทำอย่างไร?" อามู่กะพริบดวงตาคู่โตมองดูเขา ในสายตาเต็มไปด้วยความเชื่อใจและศรัทธา
"พวกเขากล้าไล่ตามเข้ามาในหุบเขาร้อยแมลง เป็นเพราะยอดฝีมือที่มีฉายาว่าขุนพิษคนนั้น เราจะฆ่าแค่คนคนนั้น" อวิ๋นกล่าวแผนการของเขาออกมาเสียงเบา
พวกเขาเดินเข้าไปข้างในอีกสักช่วงหนึ่ง ล่อคนพวกนั้นเข้ามาอีกหน่อย จากนั้นก็ตั้งกองซุ่มล่อขุนพิษคนนั้นออกไป แล้วฆ่าเขาซะ ไม่มีคนคนนี้ ยอดฝีมือหลายร้อยคนที่เหลือนั่นอยู่ในหุบเขาร้อยแมลงก็จะเปรียบเสมือนไม่มีแสงนำทาง ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายขนาดนี้จะต้องเกิดเรื่องแน่นอน
ทำลายล้างทุกคนที่นี่คงเป็นไปไม่ได้ แต่หากสามารถทำลายได้สิบกว่าคนก็ล้วนเป็นกำไรของพวกเขาแล้ว
"พี่ใหญ่แผนการนี้ใช้ได้" ทุกคนฟังคำพูดของเขาแล้ว คิดดูแล้วต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
เพียงแต่ว่าพวกเขาก็จะมีอันตรายด้วย ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นหุบเขาร้อยแมลง ถึงแม้ว่าบนตัวของพวกเขาจะมียาสำหรับไล่แมลงอย่างดีที่ได้มาจากทุ่งหญ้า แต่ว่าหุบเขาแห่งนี้ใหญ่เกินไป ผ่านไปสักพักก็ต้องใช้ยาใหม่เป็นระยะๆ จำนวนของยาที่เก็บเอาไว้ไม่แน่ว่าจะเพียงพอจนถึงออกจากหุบเขา
อวิ๋นมีความกล้าหาญ ยิ่งมีความโหด ทุกครั้งที่เขาทำงานก็จะวางความปลอดภัยของตัวเองไว้ข้างหนึ่ง เพียงเพื่อจะให้บรรลุเป้าหมาย
"ทุกคนต้องระวังกันด้วย" อวิ๋นมองดูพี่น้องพวกนี้ ในสายตามีความรู้สึกผิดแวบผ่านไปเล็กน้อย ถึงอย่างไรก็เป็นเขาที่พาพวกเขาเข้ามาในสถานที่ที่เสี่ยงอันตรายเช่นนี้
"พี่อวิ๋น พวกเราติดตามท่านออกจากทุ่งหญ้า ก็เพราะได้ยินท่านพูดอยู่ตลอดว่าฝ่าบาทห้าวหาญและกล้าแกร่งเพียงใด ก็อยากจะติดตามอยู่ใต้อาณัติของพี่ ก่อนที่จะได้พบกับฝ่าบาท เราจะไม่เป็นอะไรหรอก" เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าวพลางตบไปที่หน้าอก
จู่ๆอามู่กลับกล่าวถามขึ้นมาอย่างลังเล: "ไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะรับเราเอาไว้ไหม?"
พี่อวิ๋นคือจงรักภักดีต่อฝ่าบาทอย่างยิ่งอยู่แล้ว ถึงเวลาหากฝ่าบาทบอกว่าไม่ชอบพวกเขา รับพวกเขาไว้ไม่ได้ เช่นนั้นพี่อวิ๋นจะลำบากใจมากไหม?
ก่อนหน้านี้ไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น แต่พอใกล้ถึงพั่วอวี้แล้ว มากน้อยในใจก็รู้สึกหวาดหวั่นอยู่เล็กน้อย
อวิ๋นกำลังจะพูด จู่ๆหูก็ขยับกะทันหัน รีบลุกขึ้นมาทันที แล้วก็ทำสัญญาณมือ ทุกคนเข้าใจความหมายของเขาในทันที กระจายออกไป ต่างคนต่างหาที่ซ่อนตัวทันที
ฉากต่อมาทำให้พวกเขาต่างก็ต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง
ในสถานที่ที่พวกเขานั่งยองๆเมื่อครู่นี้ จู่ๆพื้นดินก็ขยับเขยื้อนขึ้นมา ต้นหญ้าสีเขียวพวกนั้นแตกออก มีหนอนมากมายมุดออกมาจากพื้นดิน หนึ่งตัวสองตัว สิบตัวร้อยตัว ชั่วครู่เดียวก็มุดออกมามากมาย ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ล้วนเป็นตัวสีน้ำตาลอมเหลืองทั้งนั้น เต็มไปด้วยที่ขนดกและหนา คืบคลานอยู่ตรงนั้น ราวกับผ้าห่มหนอนผืนหนึ่ง
เหมือนกับว่าเพิ่งจะพบว่าที่นี่มีคน ก็เลยพากันมุดออกมากันหมด ราวกับเห็นว่าพวกเขาเป็นอาหาร ถ้าหากเมื่อครู่พวกเขาเคลื่อนไหวช้าไปเล็กน้อย กลัวแต่ว่าหนอนพวกนี้คงจะคลานขึ้นมาเต็มตัวแล้ว
ก่อนหน้านี้พวกเขาก็รู้แล้วว่าในหุบเขาร้อยแมลงแห่งนี้ไม่มีที่ไหนเหมาะสมกับการนั่งลงไป แต่กลับคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะมีหนอนบุ้งจำนวนมากมายขนาดนี้มุดออกมาจากพื้นดิน
เพียงแค่มองดูหนอนบุ้งพวกนี้ พวกเขาก็รู้แล้วว่ามันไม่ใช่หนอนบุ้งธรรมดา สัมผัสโดนเข้ายังไม่รู้ว่าจะมีผลลัพธ์อย่างไรเลย
กำลังคิดอยู่ เด็กหนุ่มคนหนึ่งก็เบิกตากว้าง มือข้างหนึ่งแตะไปที่เอว "ถุงน้ำของข้าวางเอาไว้ตรงนั้นแล้ว"
เมื่อครู่เขากำลังดื่มน้ำอยู่ ก็เลยวางถุงน้ำเอาไว้บนพื้นไปด้วย ยังไม่ทันได้หยิบกลับมา
หนอนบุ้งพวกนั้นก็พบถุงน้ำของเขา ไม่ช้าก็มีหนอนสิบกว่าตัวคลานเข้าไป คลานขึ้นไปบนถุงน้ำที่ทำมาจากหนังวัวอันนั้น หลังจากนั้นก็ได้ยินเพียงเสียงกุกๆๆเบาๆ พวกเขาต่างก็เบิกตากว้างมองดูถุงน้ำใบนั้นถูกเจาะเป็นรูหลายสิบรูในทันทีด้วยความตกตะลึง
หนังวัวที่หยาบกระด้าง พริบตาเดียวก็ถูกเจาะเป็นรูมากมายขนาดนี้แล้ว? แล้วร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อของพวกเขา จะไม่ถูกเจาะเป็นรูได้ง่ายกว่าหรือ
ทุกคนยังอยู่ในความตกใจ อวิ๋นกลับกระซิบกับอามู่ที่อยู่ข้างกายว่า: "พวกเจ้าเดินอ้อมหนอนพวกนี้แล้วเดินไปข้างหน้า จากนั้นก็ทำตามแผนการที่เราวางเอาไว้ก่อนหน้านี้ดักซุ่มเอาไว้ก่อน ข้าไปล่อขุนพิษคนนั้น"
"ทำเช่นนั้นได้อย่างไรกัน!" อามู่ตกใจจนรีบโอบแขนของเขาเอาไว้ทันที "พี่อวิ๋น พี่คนเดียวจะไปเป็นเหยื่อล่อได้อย่างไร มันอันตรายเกินไป!"
"อย่าดื้อ ข้าไม่เป็นไรหรอก รีบไปเถอะ" อวิ๋นพูดพลางดึงแขนออก พุ่งออกไปเงียบๆ
คนพวกนี้ตามติดอยู่ด้านหลังของพวกเขาอย่างเหนียวแน่นตลอด เขาเดินย้อนกลับมา ชั่วครู่เดียวก็เห็นพวกเขาแล้ว ยอดฝีมือห้าร้อยคน ระหว่างทางมานี้ คนฝั่งพวกเขาตายไปสองคน ฝ่ายตรงข้ามตายไปแค่คนเดียวเท่านั้น
อวิ๋นพอจะเดาได้ว่าทำไมเป่ยชางกับตงชิงถึงได้ทำเป็นเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ก็แค่คนสิบกว่าคน ถึงกับทำให้พวกเขาส่งยอดฝีมือห้าร้อยคนมาสกัดกั้นโจมตี นี่เป็นเพราะว่าพวกเขาทำลายการเชื่อมสัมพันธไมตรีผ่านการแต่งงานระหว่างสองแคว้นตงชิงกับเป่ยชาง เป่ยฝูหรงกับตงสือยู่ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน ไม่รู้ว่าเจรจาเงื่อนไขความร่วมมือสำเร็จไปแล้วกี่ข้อ สุดท้ายถูกเขามาไม้นี้ ทุกอย่างเลยถูกหยุดชะงักไป
ตงสือยู่แสร้งทำเป็นคุณชายสุภาพอ่อนโยนมาตลอด ครั้งนี้กลับถูกเขายั่วโมโหสุดขีดแล้ว ดังนั้นก็เลยส่งยอดฝีมือห้าร้อยคนมาสกัดกั้นโจมตีพวกเขา คิดว่าคงอยากจะให้ความเคลื่อนไหวดูใหญ่โตเล็กน้อย เพื่อให้ราชตระกูลเป่ยชางเห็นความจริงใจของเขา
พวกเขาจะต้องสลัดคนพวกนี้ทิ้งในทุ่งป่าเถื่อนของพั่วอวี้แห่งนี้ให้ได้ จะให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ฐานะที่แท้จริงของเขาไม่ได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นจะเป็นการนำปัญหาไปให้ฝ่าบาท เวลานี้พั่วอวี้น่าจะยังไม่สามารถเผชิญหน้ากับตงชิงและเป่ยชางทั้งสองแคว้น โชคดีที่ถึงแม้พวกเขาจะไล่ตามมาตลอดทาง แต่ยังไม่เคยสู้กันซึ่งๆหน้าเลย
สิ่งหนึ่งที่อวิ๋นไม่ได้บอกกับพี่น้องใต้บังคับคือ ถ้าหากพวกเขาถูกอีกฝ่ายเห็นเข้า ก็จะยังไม่กลับตำหนักจิ่วเซียวชั่วคราวก่อน ต้องหาที่ซ่อนในทุ่งป่าเถื่อนของพั่วอวี้แห่งนี้ ฐานะจะได้ไม่ถูกเปิดเผยออกมา
"คนพวกนั้นซ่อนตัวเก่งจริงๆ"
ข้างหน้ามีเสียงพูดคุยดังมา ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในหุบเขาร้อยแมลงก็แยกย้ายกันไป แบ่งออกเป็นกลุ่มๆกวาดล้างโอบล้อมและไล่ตาม อวิ๋นมองออกไปผ่านกิ่งใบที่ซ่อนตัวอยู่ ในจำนวนคนที่กำลังเดินมาไม่มีเงาร่างของขุนพิษอยู่
ถึงแม้ว่าวรยุทธของคนพวกนั้นจะสู้เขาไม่ได้ แต่หากพวกเขาลงมือพร้อมกัน เขาก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ