ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 594

สำหรับซวนหยวนจื้อ โหลชีไม่ได้คาดหวังอะไรมากแล้ว ถึงแม้เขาจะมีความชอบธรรมที่ยิ่งใหญ่อยู่ในใจ ยึดประชาชนเป็นหลัก ยึดใต้หล้าเป็นหลัก ยินดีเสียสละอัตตา ตามหลักแล้วมันควรจะเป็นความถูกต้อง แต่กับนางอย่างไรก็ไม่ใช่คนเส้นทางเดียวกัน เพราะตามความเห็นของนาง ปกป้องบ้านเกิดพิทักษ์แผ่นดิน บ้านมาก่อนแผ่นดิน ไม่ต้องมาคุยเรื่องความชอบธรรมอันยิ่งใหญ่อะไรกับนาง หากว่าหลานสาวของนางถูกด่าว่าเป็นปีศาจ ตราบใดที่ไม่ทำร้ายคนในครอบครัว เช่นนั้นถึงแม้จะไม่สามารถปกป้องเอาไว้ ตนเองก็จะไม่ทำร้ายเด็ดขาด

ยิ่งไปกว่านั้น ในใจไร้ความรักเล็กๆ ความรักที่ยิ่งใหญ่จะสามารถยิ่งใหญ่ไปได้ถึงไหน?

แต่สำหรับปู่ของเฉินซ่า ไท่ซ่างหวงของราชวงศ์เฉิน นางยินดีจะเชื่อว่าเขารักครอบครัวและรักลูกหลาน เพราะหลังจากลูกชายลูกสะใภ้และหลานชายหายสาบสูญไป เขาแบกราชวงศ์เฉินเอาไว้เพียงลำพังอย่างสุดกำลัง แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้นกลับส่งกองราชาอสูรเทพห้าหมื่นนายออกไปตามหาเฉินซ่า ถ้าหากในใจมีแต่แคว้นมีเพียงใต้หล้า เขาน่าจะเก็บกองราชาอสูรเทพเอาไว้เพื่อช่วยรักษาความมั่นคงในใต้หล้าถึงจะถูก ต้องรู้ว่า ในเวลานั้น มีกองราชาอสูรเทพหมื่นนายนั่น สำหรับเขาแล้วถือว่าเป็นแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน

ดูจากข้อนี้ โหลชีรู้สึกนับถือปู่ของเฉินซ่าอย่างมาก ถึงแม้เฉินซ่าจะไม่เคยพูดมาก่อน แต่นางเชื่อว่าเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ดังนั้นทันทีที่ได้ยินโม่เวิ่นพูดถึงเรื่องนี้ เขาถึงได้มีปฏิกิริยานี้

โหลชีตบไปที่ไหล่ของเฉินซ่าเบาๆ ให้เขาไม่ต้องเป็นกังวลมาก

"ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาถามอย่างละเอียด หลังจากออกไปจากที่นี่แล้ว ขอให้จอมยุทธโม่ช่วยเล่าเรื่องในราชวงศ์เฉินให้เราฟังโดยละเอียดด้วยเถอะ บอกท่านตามตรง พวกเราก็เป็นคนของราชวงศ์เฉินเช่นกัน เพียงแต่ต้องจากบ้านเกิดไปตอนเด็กๆด้วยเหตุผลบางอย่างเท่านั้น"

สามีภรรยาโม่เวิ่นได้ยินคำพูดของโหลชีก็ถอนหายใจโล่งอกออกมาเฮือกใหญ่ โชคดีโชคดี ไม่ใช่ศัตรูก็ดีแล้ว!

"หมายความว่า เรายังเป็นคนแคว้นเดียวกันด้วย" ฮูหยินโม่ก็แสดงความสนิทและใกล้ชิดของนางออกมาอย่างทันท่วงที

โหลชีพยักหน้า มองไปทางท่านมี่

ท่านมี่ยิ้มเจื่อน "คุณชายเจ็ดไม่จำเป็นต้องคอยระวังข้า ถึงแม้ข้าจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่อย่างน้อยก็รู้จักหลักการและพื้นฐานความถูกผิด"

"อย่างท่านยังต้องคอยระวังหรือ ข้าแค่กำลังดูว่าต้องฆ่าอีกคนหนึ่งหรือเปล่าเท่านั้น" โหลชียักไหล่อย่างตรงไปตรงมามาก

ท่านมี่: "......"

ขอพื้นที่ให้กับปมในใจของยอดฝีมือเฒ่าอย่างเขาด้วยเถอะ!

สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือเดินอย่างไร เดินกลับไป? ระหว่างทางที่เดินมาไม่เคยเห็นว่ามีทางอื่นมาก่อนเลย เดินหน้า? หรือจะต้องกระโดดลงไปจริงๆ ล่อให้หมอกดำเพิ่มขึ้นมาอีก?

ชั่วขณะหนึ่งทุกคนล้วนไม่มีจนหนทางทั้งนั้น หมอกดำยังคงโอบล้อมอยู่ข้างกายของพวกเขา ไม่ได้เข้าใกล้ และไม่ได้กระจายออกไป ท่านมี่มองดูจิ้งจอกที่อยู่ในอ้อมแขนของเฉิงสิบ อยากจะพูดแต่ก็หยุดเอาไว้

โหลชีไม่รอให้เขาเปิดปากก็กล่าวว่า: "พวกนี้ไม่ใช่หมอกดำ แต่เป็นแมลงบินชนิดหนึ่ง พูดขึ้นมาแล้วก็ยังใกล้เคียงกับยุงกร่อนกระดูก ซ่า จำยุงกร่อนกระดูกได้ไหม?"

เฉินซ่าพยักหน้า

ตอนนั้นโหลชีเพิ่งถูกเขาพากลับไปที่ตำหนักจิ่วเซียว มีคนลอบโจมตีตอนกลางคืน สิ่งที่ใช้ก็คือยุงกร่อนกระดูก "เจ้าจิ้งจอกน้อยสามารถต่อกรได้หรือไม่?" เมื่อครู่นี้เขาเห็นจิ้งจอกน้อยเผยกระบวนท่านั้นออกมา

โหลชีส่ายหน้า "วู๊วูเพียงแค่ข่มขู่ให้กลัวครู่เดียวเท่านั้น จะขับไล่จริงๆเป็นไปไม่ได้ และการทำเช่นนี้จะสิ้นเปลืองพลังของวู๊วู" ไม่เห็นว่าสีหน้าท่าทางของมันในตอนนี้ไม่สู้ดีหรือ?

"หาทางก่อน มีทางมันก็ง่ายแล้ว" เฉินซ่ากวาดมองดูแมลงบินดำพวกนั้นครู่หนึ่ง ถึงแม้ว่าแมลงบินพวกนี้จะแปลกประหลาดมาก กำลังภายในก็กวาดไม่ออก แต่เพียงแค่มีทาง หาโอกาสสลัดมันทิ้งก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ทุกคนมองไปรอบๆ สุดท้ายสายตาหยุดลงที่ยอดเขาที่อยู่ตรงข้ามอย่างพร้อมเพรียงกัน ลงไปคือไม่ได้อยู่แล้ว ได้แต่ไปที่ยอดเขาที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้นแล้ว บางทีอาจจะมีทางให้เดิน

แต่ว่าระยะห่างระหว่างสองยอดเขานี้ไกลเกินไป ไม่ว่าวิชาตัวเบาจะดีขนาดไหนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกระโดดบินข้ามไปได้

อิ้นเหยาเฟิงกล่าวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ "ถ้าหากเจ้าขาวอยู่ที่นี่ก็ดีสิ"

ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาของโหลชีก็เปล่งประกายขึ้นมา

"คิดออกแล้ว" ทุกคนมองไปทางนางทันที

เฉินซ่าเลิกคิ้ว กล่าวออกมาช้าๆ: "ควบนก?"

นี่มันช่างใจตรงกันจริงๆแค่สะกิดก็เข้าใจเลย!โหลชีอดที่จะอยากกอดแขนของเขาเอาไว้แล้วเข้าไปจูบไม่ได้ แต่เมื่อนึกถึงว่าตอนนี้ตนเองยังอยู่ในชุดผู้ชาย เลยได้แต่อดทนเอาไว้

สามีภรรยาโม่เวิ่นกับท่านมี่มองดูพวกเขาอย่างตะลึงงัน ควบนก หมายความว่าอย่างไร? คงไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิดใช่ไหม?

ในความเป็นจริง ก็เป็นอย่างที่พวกเขาคิดจริงๆ!

โหลชีล้อมมือเอาไว้ข้างริมฝีปาก ส่งเสียงร้องของอินทรีออกมาสองสามเสียง

"ทำไมคุณชายเจ็ดถึงสามารถส่งเสียงร้องของอินทรีที่คล้ายของจริงมากเช่นนี้ได้?" ฮูหยินโม่ตกตะลึงจนตาค้าง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ