ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 608

"ราชินี? มีความหมายอะไรล่ะ?" โหลชีเหล่ตามองเขา

"ในยุคปัจจุบันเจ้าไม่ใช่ราชินีรึ? แต่อันนั้นเจ้าไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ทุกวันมีแต่รบราฆ่าฟัน ยังต้องออกไปทำภารกิจหาเงิน พวกเรากลับมาที่นี่เป็นราชินีจริงๆเลยเป็นไง?" ซวนหยวนคงกะพริบตาให้นาง เป็นท่าทีคุณอาแปลกๆอย่างเต็มตัว "อย่างเช่น บัลลังก์มังกร จัดงานคัดเลือกพระสวามี หามาสักร้อยแปดสิบคน ถึงเวลานั้นเจ้าเปิดป้ายคัดเลือกรายวัน คนหนึ่งนวดไหล่ให้ อีกคนนวดขาให้ คนหนึ่งนวดเอว อีกคนก็ป้อนองุ่นให้..."

พูดยังไม่ทันจบ เฉินซ่าก็ยื่นมือเข้ามาโอบโหลชีเข้าอ้อมกอด ถลึงตาใส่ซวนหยวนคงอย่างดุดัน "มีข้าอยู่ นางจะยังมองชายใดอีก?"

ซวนหยวนคงกลับเหลือบตามองบนพลางว่า "ไม่ต้องมั่นใจในตัวเองขนาดนี้ได้ไหมไอ้หนู! โลกนี้บุรุษมีหลายร้อยหลายพันแบบ แบบเจ้าน่ะอย่างมากเรียกว่าแบบเย็นชาดุร้าย ยังมีแบบอื่นอีกนะ?" ระหว่างพูด เขากวาดตามองรอบด้าน เริ่มชี้บอกทีละคน "คนนั่น หล่อเหลาสดใส คนนั่น หล่อเท่องอาจ คนนั่น หนุ่มน้อยหล่อสดใส เอ๋ พอดูอย่างนี้แล้ว ชีชีคนรอบตัวเจ้าไม่เลวเลยนะ ถ้าไงลองพิจารณารับพวกเขาไว้ก่อนเลยละกัน!"

พวกเฉิงสิบ อวิ๋น โหลวซิ่นเหงื่อแตกซิก รีบถอยหลังวิ่งหนีทันที

ต้องหนีไปให้ไกลหน่อย ไม่งั้นอันตรายมาก!

สายตาเฉินซ่าเพ่งมองไปยังแผ่นหลังพวกเขาราวกับธนูแหลม

เจ้าพวกน่าตายพวกนี้!

โหลชีตบแขนเขาเบาๆอย่างหน่ายใจ มองค้อนซวนหยวนคง "นักพรตเลว เจ้าอย่ายั่วเขาอีกเลย อีกอย่าง ข้าไม่ได้อยากเป็นราชินีอะไร"

"ในใจข้า เจ้าคือราชินี" เฉินซ่ากุมมือนาง "แผ่นดินนี้หากเจ้าอยากได้ ข้าจะสู้มาให้เจ้า"

ซวนหยวนคงกลับสายตาแวบวาบ "พ่อหนุ่ม พูดน่ะมันง่าย รอจนเจ้ารบได้ใต้หล้ามาจริงๆ สาวงามมากมายในใต้หล้านี้รอให้เจ้าคัดเลือด ถึงตอนนั้นเจ้ากับชีชีก็ผ่านช่วงเวลารักใคร่สนิทสนมไปแล้ว เจ้ายังจะยืนกรานมีนางแค่คนเดียว ไม่หลงใหลไปกับสาวงามนางอื่นรึ? หากเจ้าทำไม่ได้ สู้ข้าให้ชีชีของเราเป็นราชินีดีกว่า แต่ว่า หากเจ้ายินดี จะให้เจ้าเป็นพระสวามีก็ย่อมได้"

เฉินซ่าโกรธจัด "เจ้าจะรู้ว่าข้าทำไม่ได้ได้ยังไง? ทางที่ดีเจ้าพยายามอยู่ให้ยืนหน่อย อย่าได้อยู่ไม่ถึงมองไม่เห็นวันนั้นที่ข้ารักใคร่ชีชีจนแก่เฒ๋า"

"เจ้าแช่งข้าให้ตายเร็วรึ?"

"ไม่รู้จักวุ่นวายมากทำให้แก่เร็วรึ?"

"ข้าไม่ควรวุ่นวายรึ?"

"นี่คือภรรยาของข้า ทุกอย่างของนางข้าเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ต้องให้เจ้ามาวุ่นวาย" โหลชีมือกุมขมับอย่างเหนื่อยใจ สวรรค์ ทะเลาะกันอีกแล้ว สองคนนี้จะทะเลาะกันทั้งชาติหรือไง?

....

จุดตั้งค่ายชั่วคราวของกองทัพซวนหยวน

ชายหนุ่มหน้าตาสง่างามในชุดสีฟ้าน้ำทะเลผู้หนึ่งกำลังก้าวเท้ายาวเดินมาถึงกระโจมแม่ทัพใหญ่

แน่นอน ตอนนี้แม่ทัพใหญ่โดนจับตัวแล้ว ในนี้มีแค่รองแม่ทัพ

ด้านนอกกระโจมมีทหารสองนายรักษาการณ์อยู่ พอเห็นเขาเดินมาก็รีบคารวะ "ท่านอ๋องน้อย"

"อืม รองแม่ทัพเตียวอยู่หรือไม่?"

"ขอรับ"

ชายหนุ่มสีหน้าไม่พอใจ แค่นเสียงหึว่า "ท่านแม่ทัพตี๋กับเสด็จพ่อของข้าหายสาบสูญไปอย่างน่าประหลาด ในกองทัพต้องมีหนอนบ่อนไส้แน่ เขากลับไม่มีความคิดจะทำอะไรเลย หรือว่าไม่คิดจะตามหาช่วยเสด็จพ่อของข้ากับท่านแม่ทัพตี๋แล้วรึ?"

ระหว่างพูดเขาเปิดม่านเดินเข้าไป แต่พอเข้าไปเขาก็ต้องตกตะลึง มองดูบุรุษที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธาน ขมวดคิ้วถามว่า "เจ้าเป็นใคร?"

ชายผู้นั้นมองมา เลิกคิ้วถามว่า "นี่คือซวนหยวนฮ่าว ลูกชายสุดที่รักที่ซวนหยวนโซงประคองไว้ในมือกลัวละลายรึ?"

รองแม่ทัพในกองทัพกลับยืนข้างกายชายผู้นี้ ตอบอย่างเคารพนบนอบยิ่งว่า "ใช่ขอรับ"

"รองแม่ทัพเตียว เขาเป็นใคร? พวกเจ้าหมายความว่ายังไงกัน?"

คนที่ไม่รู้จักมานั่งอยู่บนเก้าอี้แม่ทัพอย่างเอิกเกริก มันใช่หรือ?

รองแม่ทัพเตียวยิ้มบอก "ท่านอ๋องน้อย นี่คือไท่จื่อของราชวงศ์ซวนหยวนเราไง"

ซวนหยวนฮ่าวเบิกตากว้าง ท่าทางตกใจหนักหนา ชี้ไปยังชายผู้นั้นค้าง ผ่านไปอยู่นานถึงหาเสียงตนเองเจอ "เจ้าบอกว่าเขาคือ...ไท่จื่อ?"

ล้อเล่นอะไรกัน!

คนผู้นี้จะเป็นไท่จื่อไปได้ยังไง! ไท่จื่อของราชวงศ์ซวนหยวนหายสาบสูญไปนานแล้ว หวงซ่างฮองเฮาก็หายสาบสูญไปด้วย นี่จู่ๆก็โผล่มาคนหนึ่งบอกว่าตนเองเป็นไท่จื่อ?

"ถูกต้อง ข้ากับเสด็จแม่กว่าจะกลับมายังราชวงศ์ได้ไม่ง่ายเลย พอกลับมาพวกเจ้าก็ออกจากเมืองแล้ว เลยไม่ทันได้เจอกัน บัดนี้เสด็จแม่กลับวังไปว่าราชการ จะขาดการสนับสนุนของกองทัพไปไม่ได้ ดังนั้นข้าเลยเร่งรีบเดินทางทั้งวันทั้งคืนมาส่งราชโองการด้วยตัวเอง"

ซวนหยวนฮ่าวรู้สึกว่าตนเองเหมือนได้ยินเรื่องแปลกประหลาด ฮองเฮาว่าราชการเอง? "ความหมายของเจ้าคือ พวกเจ้ายึดครองราชวงศ์แล้ว? ฮองเฮาจากไหนกัน! ไท่จื่อที่ไหนกัน! เจ้าชื่อว่ากระไร?"

"ข้าซวนหยวนเส่าอี๋ ท่านพ่อต้องเป็นซวนหยวนจ้านอยู่แล้ว เสด็จแม่ชื่อหยุนโยว ทำไมจะมิใช่ฮองเฮาของแคว้นเล่า?"

"ซวนหยวนเส่าอี๋?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ