ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 609

"พี่ชายสาม ข้าคือเสี่ยวฮ่าว ท่านพ่อข้าคือซวนหยวนโซง เขาบอกว่าตอนท่านยังเด็กเขายังเคยอุ้มท่านเลย" ซวนหยวนคงกลับหัวเราะพรืดออกมา "มีอะไรน่าพูดกัน? มีฝีมือตอนนี้ให้เขามาลองอุ้มข้าดูสิ ตอนยังหนุ่มชอบคุยโม้ว่าตนเองเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ สุดท้ายโดนคนจับเป็นรึ? ข้ายังขายขี้หน้าแทนเขาเลย"

โหลชีเหล่เขาหนึ่งที "ตอนแรกเจ้าก็โดนบีบจนต้องพาข้าหนีนะ?"

เมื่อก่อนนางเคยได้ยินนักพรตเลวเล่าเรื่องเกี่ยวกับซวนหยวนโซง ซวนหยวนโซงเคยขึ้นวังศุทธิเซียนไปหาเขาสองครั้ง ตอนนั้นเขาแค่กำลังเริ่มยุทธ์ขั้นพื้นฐาน ยังอ่อนด้อยกว่าเหล่าศิษย์พี่ชายศิษย์พี่หญิงมากนัก สุดท้ายซวนหยวนโซงเห็นเข้าก็พูดว่าเขาทำตระกูลซวนหยวนขายหน้า หัวเราะเยาะเขายกใหญ่

สุดท้ายนักพรตเลวจำได้แม่น ต่อมาเลยขยันพยายามฝึกยุทธ์เสียยิ่งกว่าใครๆ ส่วนหนึ่งเป็นความดีความชอบของซวนหยวนโซงเลยนะ ถึงต่อมาจะเข้าใจว่าซวนหยวนโซงจงใจยั่วยุเขา แต่ซวนหยวนคงยังอดไม่อยู่กระแนะกระแหนไปสองคำ ใครให้เขานิสัยเสียตั้งแต่เกิดล่ะ?

แต่ว่าพอโดนโหลชีย้อนมาแบบนี้ เขาก็เหมือนลูกโป่งที่โดนทำปล่อยลมแตก พลางถลึงตาใส่นาง "นังหนูอกตัญญู ก็ไม่ใช่เพราะต้องดูแลเจ้าหรือไง?"

ซวนหยวนฮ่าวได้ยินบทสนทนาของพวกเขา หันมองโหลชีอย่างตะลึง "เจ้า เจ้าคือองค์หญิงน้อยของพระราขวงศ์ซวนหยวนจริงรึ? หลานสาวของข้า?"

คราวนี้กลายเป็นโหลชีเซ็งแทน "เจ้าอายุเท่าไหร่กัน? เรียกข้าว่าหลานสาว?!"

ซวนหยวนฮ่าวอายุแค่ยี่สิบกว่าเท่านั้น แต่พอเข้าใกล้ก็เห็นผิวพรรณเรียบเนียนของเขา ดูแล้วแค่ยี่สิบต้นๆ เรียกได้ว่ารุ่นราวคราวเดียวกับโหลชี นี่นางต้องเรียกหนุ่มนี้ว่าท่านอารึ?

"ข้าเป็นอาของเจ้าไง! เสี่ยวชีจริงๆรึ?" ในพระราชวงศ์ไม่มีปีไหนที่ไม่มีข่าวคราวของเสี่ยวชี ถึงจะไม่เคยเจอมาก่อน แต่พวกเขาตั้งแต่แก่ยันเด็กล้วนรู้จักองค์หญิงน้อยเสี่ยวชีทั้งนั้น

แน่นอน มีคนเคียดแค้น คิดว่าทั้งหมดนี่คือนางเป็นคนก่อขึ้น คิดเหมือนซวนหยวนจื้อว่านางเป็นนางมาร และก็มีคนรู้สึกว่า เด็กคนหนึ่งจะผิดอะไร? บางทีตอนนั้นนางอาจจะต้องมนต์ร้ายอะไร โดนคนควบคุมก็ได้

สายของซวนหยวนโซงคิดแบบนี้ เขารู้สึกมาตลอดต่อหน้าลูกหลานว่าราชวงศ์ผิดต่อเสี่ยวชี ไม่คุ้มครององค์หญิงน้อยให้ดีก็แย่แล้ว ถือสิทธิ์อะไรเอาความรับผิดชอบไปโยนใส่เด็กคนหนึ่งอีก?

บางทีอาจเพราะได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานาจากซวนหยวนโซงตั้งแต่เด็ก ซวนหยวนฮ่าวเลยปวดใจแทนองค์หญิงน้อยที่ไม่เคยพบหน้าค่าตา ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไงมากนัก พอมาได้เจอนางเลยตื่นเต้นไปหน่อย

ท่านอา....

โหลชีเลือกหันไปอีกด้าน ไม่สนใจเขา "นักพรตเลว ยกให้เจ้าละ จัดการเขาซะ"

ในเมื่อมีการยอมรับของซวนหยวนฮ่าว พวกเขาจะคว้าเอากองทัพนี้ก็ง่ายขึ้นมากละ เพียงแต่สำหรับเรื่องว่าใครจะเป็นแม่ทัพหลักนั้น มีแม่ทัพหลายคนเริ่มถกเถียงขึ้นมา

ซวนหยวนฮ่าวไม่เคยเป็นทหารจริงจัง ครั้งนี้เขาแค่ตามซวนหยวนโซงออกมาหาประสบการณ์เท่านั้น ได้ยศทหารเล็กๆมา พูดอะไรมากไม่ได้ และรองแม่ทัพเตียวนั่นโดนฆ่าไปแล้ว แม่ทัพที่เหลือเลยคิดอยากอาศัยโอกาสนี้เลื่อนตำแหน่ง อีกอย่าง คนพวกนี้บอกว่าเป็นท่านอ๋อง องค์หญิง ราชบุตรเขย พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แค่ท่านอ๋องน้อยยอมรับ พวกเขากลับไม่ได้ยอมรับจากใจจริงเลย

"พวกเราล้วนเห็นด้วยกับการไปช่วยราชวงศ์เฉิน แต่ ไปยังไง ไปช่วยแม่ทัพกับท่านอ๋องเฒ่ายังไง จะสู้ยังไง เรื่องพวกนี้ต้องการแม่ทัพที่มีความสามารถ มีประสบการณ์มานำทัพ ท่านอ๋องน้อย ถึงท่านจะฐานะสูงส่ง แต่ไม่มีประสบการณ์ในการรบทัพจับศึกเลยนะ ส่วนหลายท่านนี้ยิ่งไม่มีกระมัง?"

"ถูกต้อง ฐานะของทั้งหลายท่านก็ต้องการท่านอ๋องเฒ่ากับท่านอ๋องโซงกลับมายืนยัน ต่อให้ฐานะเป็นของจริง ก็ไม่มีทางรับอำนาจทหารได้ง่ายๆ"

ซวนหยวนคงฟังจนรำคาญจัด ตบโต๊ะพลางลุกขึ้น "ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมรับ ก็เอาฝีมือมาตัดสิน! ใครเอาชนะข้า...เขาได้!" เขาเปลี่ยนไปชี้เฉินซ่า พูดเสียงดังว่า "คนนั้นก็มาเป็นแม่ทัพ!"

เฉินซ่าปรายตาเย็นชามองไป

แม่ทัพทุกคนพลันรู้สึกถึงแรงกดดันที่ปะทะหน้า

ชายผู้นี้เหมือนราชบุตรเขยตรงไหนกัน? เห็นได้ชัดว่าเหมือนราชันย์!

โหลชีเริ่มไม่พอใจละ แม่ทัพเหล่านี้ ใครคู่ควรมาสู้กับผู้ชายของนางบ้าง? ขนาดนางยังมองออกเลยว่า พวกเขาไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเฉินซ่าได้เลย นางแค่นเสียงหึ ชี้ไปที่อวิ๋น "พวกเจ้าสู้กับเขา ถ้าสู้ไม่ได้ ก็ให้เขาเป็นแม่ทัพ!"

อวิ๋นก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวทันที

อวิ๋นที่รูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงนั้น ท่าทางสีหน้าไร้อารมณ์ก็เพียงพอให้คนรู้สึกตระหนกสั่นเทา

"สู้ก็สู้ ใครกลัวกันล่ะ? ตอนนั้นหวงซ่างก็เคยเข้าร่วมกองทัพเรามาก่อน หวงซ่างตรัสแล้ว ผู้ที่กลัวเจ็บกลัวแพ้กลัวเสียเลือดนั้นไม่ถือเป็นลูกผู้ชาย! มา ข้าเหล่าหลี่จะสู้กับเจ้าเอง!"

แม่ทัพคนหนึ่งที่รูปร่างสูงใหญ่ยืนขึ้นมา ดูอายุแล้วก็ราวสี่สิบ

โหลชีพลันเม้มปาก "เขายังเคยพูดว่าอะไรอีก?"

"หวงซ่างยังตรัสว่า ถ้ามีเวลาเขาต้องออกไปหากลองขวัญ และสร้างกองทัพนี้ให้กลายเป็นทหารกล้า ทหารกล้าที่องอาจกล้าหาญเหมือนกับกองทหารราชาอสูรเทพของราชวงศ์เฉิน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ