พึ่งพูดจบ เสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น ยอดฝีมือหลายคนที่เฝ้าระวังหน้าประตูวังก็โดนระเบิดจนลอยกระเด็น ราษฎรปิดประตูหน้าต่างแน่น หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน พลางภาวนาขอให้พวกตนปลอดภัย
รบกันแล้ว รบกันแล้ว
ถึงจะสถานการณ์ผันผวนไม่แน่นอนมาหลายปีขนาดนี้ แต่เมืองหลวงซวนหยวนที่ยังคงเฝ้ายืนหยัดอยู่นี้ ในวันที่อากาศเริ่มหนาวเย็นนี้ ในที่สุดก็รบกันแล้ว
เสียงระเบิดสั่นสะเทือนหูทำให้เด็กทารกร้องไห้จ้า
ซวนหยวนจื้อโดนขวางไว้ด้านนอกกลุ่มทหาร เขาแหกปากร้องเสียงดังว่า "เจ้าคนไม่จงรักไม่ภักดีอกตัญญู! ซวนหยวนฮ่วนเทียน! นี่เป็นราชวงศ์ซวนหยวน เป็นเมืองหลวงของเราเอง นี่เป็นราษฎรของเรา! เจ้าทนทำใจให้ไฟสงครามคืบคลานมาที่นี่ได้ยังไง? เจ้าฟังเสียงสตรีและเด็กร้องไห้สิ! เจ้าฟังดู..."
โหลฮ่วนเทียนนั่งอยู่บนม้างาม หันไปมองเขาหนึ่งครั้ง พลันยิ้มเย็น
"เจ้าจงรัก? เจ้าภักดี? นี่ล้วนเป็นประชาชนของเจ้า คนในนั้นเป็นประชาชนของเจ้าด้วย?" เขาชี้ไปที่พระราชวัง "ข้ารู้แต่ว่า การปกปักรักษาบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องความเมตตาชั่วครู่! ไม่ฆ่าล้างศัตรูที่นี่ ชีวิตประชาชนของเจ้าก็จะตกอยู่ในเงื้อมมือสตรีผู้นั้น! ทำร้ายราษฎรเหล่านี้ไป พรุ่งนี้ข้าจะมาปลอบโยนและทดแทน! เวลานี้เจ้ายังได้ยินเสียงร้องไห้ของสตรีและเด็ก ตอนนั้นทำไมเจ้าไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของท่านแม่ข้าและเสี่ยวชีเล่า? พวกนางไม่ใช่สตรีและเด็กรึ?"
หุบปากซะเถอะ แบบนี้มีแต่จะทำให้เขารู้สึกยิ่งขยะแขยงมากขึ้น!
เขาโบกมือ พวกโหลวซิ่นได้คุมตัวโหลเหล่าไท่จวินที่ถลึงตามองเขาด้วยความโกรธอยู่บนรถม้าด้านหลัง การที่ซวนหยวนจื้อด่าโหลฮ่วนเทียนว่าอกตัญญู เป็นเพราะเพื่อควบคุมเขา โหลฮ่วนเทียนถึงกับออกคำสั่งให้คนจับตัวโหลวเหล่าไท่จวินตอนเขาไม่รู้ตัวเอาไว้
แต่สำหรับโหลฮ่วนเทียนแล้ว กลับเป็นแค่คำพูดเดียวว่า "เจ้าห่วงใยภรรยาเจ้ารึ? งั้นเจ้ารู้หรือไม่ตอนนั้นพ่อข้าก็ต้องห่วงใยภรรยาและลูกสาวเขามากยิ่ง! เจ้ากลับละทิ้งลูกเมินเฉยหลานเพื่อใต้หล้า ข้าไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ข้าแค่อยากปกป้องน้องสาวข้า ช่วยขจัดขวากหนามแทนนาง ต่อให้เพียงเพื่อล้างแค้นให้นางเท่านั้น!"
ต่อให้โหลเหล่าไท่จวิน หลายปีมานี้เคยห่วงใยเป็นห่วงอะไรเขาบ้างล่ะ? อีกอย่าง ก็แค่ทำไปอย่างนั้นเท่านั้นเองเขาไม่ได้จะฆ่านางจริงๆสักหน่อย
ซวนหยวนจื้อเป็นห่วงเป็นใยนาง ยังไม่ยอมให้เขาเป็นห่วงเป็นใยน้องสาวตนเอง? เหอะ ตอนนั้นไม่ใช่ละทิ้งนางแถมยังส่งนางออกไปรึ? ตอนนี้ก็ให้เจ้าเจ็บปวดใจดูบ้าง!
น่าสงสารไท่ซ่างหวงแห่งราชวงศ์ซวนหยวนโดนเขาทำให้โกรธจนเป็นลมไปเลย
แต่เวลานี้ใครเลยจะสนใจเขา กองทัพต้าเซิ่งนำพาระเบิดไประเบิดประตูวังหลวง กองทหารรักษาวังไหนเลยจะต้านทานกองทัพนี้ได้? แค่ครึ่งชั่วยามก็โดนบุกแตก
โหลฮ่วนเทียนควบม้าเข้าไป เข้าประตูหน้าวังหลวง ประตูที่สอง ความทรงจำตอนเด็กก็ผุดขึ้นมา เขาเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาก่อนจริงๆ ตำหนักและสวนดอกไม้ต่างๆในวังหลวงนี้งดงามหรูหรา ดอกไม้ใบหญ้านานาพรรณ กลิ่นหอมยิ่งนัก
แต่ยิ่งเห็นเขาก็ยิ่งโกรธ เดิมทีเขาและเสี่ยวชีควรจะได้เติบโตที่นี่ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแยกจากกัน จะเป็นพี่ชายน้องสาวที่ดีที่สุดในโลก มีเสด็จพ่อเสด็จแม่ มีความรักความผูกพันรายล้อม แต่ทั้งหมดนี้ถูกทำลายหมดแล้ว!
เสี่ยวชีต้องผ่านมรสุมทุกข์ยากมากมายตั้งแต่ยังเด็ก เสด็จพ่อไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย เขากับเสี่ยวชีต้องแยกจากกันเป็นระยะเวลานานขนาดนั้น
คนเบื้องหลังที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ หากเขาจับได้ ต้องจับมันสับเป็นหมื่นๆชิ้นแน่!
ด้านนอกตำหนักสาม เขาพลันได้ยินเสียงร้องโหยหวน เสียงสตรี! โหลฮ่วนเทียนใจกระตุกแรง เสียงนั้นมันเสียงท่านแม่เขาชัดๆ!
ถึงจะรู้ว่าอาจจะเป็นกับดัก แต่ลูกน้องของเขาหาตัวหยุนโยวไม่เจอเลย เป็นไปได้ว่านางจะอยู่ที่นี่จริงๆ! และเสียงนั้นที่เขาได้ยินก็เป็นเสียงหยุนโยวเสด็จแม่ของเขาจริงๆ
"นายน้อยโหล ระวังเป็นกับดัก" องครักษ์ลับที่ตามมาด้านหลังรั้งเขาไว้
"แยกกันไปตามหา ข้าจะหาทางเข้าไป!" เขาเหมือนคิดขึ้นมาได้ว่า มีกำแพงวังด้านหนึ่ง เพราะสภาพภูมิศาสตร์ ค่อนข้างหลบเร้น สามารถลอบเข้าไปได้
และเวลานี้เอง ในสวนดอกไม้มีสตรีนางหนึ่งอุ้มแมวน้อยตัวหนึ่งไว้ มือลูบคลำแมวน้อยไปพลาง และมองดูสตรีที่นางเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าไปด้วย นางพูดแผ่วเบาว่า "ท่านพี่หญิง ท่านได้ยินเสียงเจ้าโง่ด้านนอกนั่นไหม? เขาจะเข้ามาช่วยท่านแหน่ะ ข้าไม่ต้องทำอะไรเลย ขอเพียงหลบซ่อนตัว ให้เขามาเห็นท่าน ให้เขาพุ่งเข้ามาแตะตัวท่าน ฮะฮะฮะ บาดแผลบนตัวท่านต้องทำให้เขาชอบใจแน่"
"อุ๊อุ๊อุ๊!"
สตรีที่โดนนางเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าอยู่ในชุดผ้าโปร่งขาวราวหิมะ นางดิ้นรนพยายามจะลุกขึ้นอย่างรุนแรง แต่ก็ไร้ผล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ