พอคิดว่าเป็นไปได้ที่โหลฮ่วนเทียนจะเกิดเรื่อง โหลชีไหนเลยจะมีแก่ใจตามหาท่านแม่ทัพตี๋กับท่านอ๋องเฒ่าซวนหยวนนั่นอีก?
เอาเถิด ถึงพวกเขาคนหนึ่งจะเป็นแม่ทัพใหญ่ของราชวงศ์ อีกคนเป็นพระญาติ แต่ในใจนางก็ยังมีแบ่งระดับความสำคัญอยู่ นางไม่ได้มีหัวใจยิ่งใหญ่ขนาดนั้น เทียบกับพี่ชายนางแล้ว คนอื่นก็ต้องเบี่ยงตัวหลบไปไกลเลย
เวลานี้ นกจือจีตัวหนึ่งบินเข้าหาพวกเขาด้วยความเร็วแบบที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ที่ตามติดมาแน่นคือสตรีนางนั้นที่พวกเขาเคยเห็นอยู่ข้างกายเจ้าวังวังศุทธิเซียน
ถึงจะอายุมากแล้ว แต่สตรีนางนี้ให้ความรู้สึกหรูหราสง่างามแก่พวกเขา ราศีไม่ธรรมดาเลย
ก่อนหน้านี้ถึงโหลชีจะลอบสังเกตสตรีผู้นี้ แต่นางก็ไม่มีสมองมากมายไปแบ่งให้คนอื่นแล้ว ดังนั้นเลยแค่มองสองที เดิมนางยังคิดว่าเป็นภรรยาของเจ้าวังศุทธิเซียนเสียอีก
"เสี่ยวชี โชคดีที่ตามหาพวกเจ้าเจอ! เร็ว รีบไปช่วยท่านแม่เจ้า!"
"ช่วยท่านแม่ข้า? เจ้าเป็นใครกัน?"
"เสี่ยวชี ข้าเป็นยายของเจ้า! อย่าพึ่งถามได้หรือไม่? รีบเดินทางก่อน ระหว่างทางข้าค่อยบอกเจ้า!" โหลชีมือกุมหน้าอก หัวใจนางเริ่มรู้สึกทรมานมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับสตรีแก่ที่จู่ๆก็โผล่มาคนนี้ คนที่บอกว่าตนเองเป็นท่านยายนาง นางยังคงสงสัยอยู่
"จีจี!" นกจือจีร้องอย่างร้อนใจ วนรอบตัวสตรีนางนั้นพลางร้องไม่หยุด เหมือนร้อนใจมาก "ข้าไม่อาจออกจากวังศุทธิเซียนไกลเกินไป เวลาข้ามีไม่มาก เสี่ยวชี เจ้ารีบไปช่วยท่านแม่เจ้าเร็ว..."
นางยังพูดไม่ทันจบ โหลชีกับเฉินซ่าก็เห็นผมของนางค่อยๆเป็นสีขาวด้วยความเร็วแบบที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ค่อยๆเป็นสีขาวจากโคนจรดปลาย และผิวพรรณบนหน้าและมือนางก็ค่อยๆแก่ เหี่ยวย่น และมีตีนกาขึ้นเรื่อยๆ...
"ท่าน..."
โหลชีตกใจ พลิกตัวลงจากม้า มารับร่างที่ล้มลงของนางไว้ได้ทัน
"เสี่ยวชี ข้าผิดต่อแม่ของเจ้า...ตอนนั้นข้าอยากพานางเข้าหุบเขาศักดิ์สิทธิ์มนต์เขา ข้าเป็นโรค ได้แต่อยู่ในที่ที่มีอำพันมังกรเติบโตอยู่เท่านั้น เขาศุทธิเซียนมีอำพันมังกร หุบเขาศักดิ์สิทธิ์ก็มีอำพันมังกร แต่ท่านแม่เจ้าจะอยู่กับท่านพ่อเจ้า ดังนั้นข้าเลยโกรธนางมาตลอด แต่ข้าไม่มีหนทางอื่นเลยนี่นา..."
พอเห็นนางเปลี่ยนจากสตรีงดงามกลายเป็นยายเฒ่าที่ผมขาวโพลนหมดหัว โหลชีเม้มปาก ทนไม่ไหวถามออกมาว่า "หาอำพันมังกรเจอก็หายแล้ว?"
"จะง่ายขนาดนั้นได้ยังไง อำพันมังกรมีชีวิต มักเติบโตอยู่ใต้ดิน รากสามารถวิ่งได้ หาไม่เจออยู่แล้ว..." นางหัวเราะขืนๆว่า "สายเลือดมนต์ขาวของเรา ญาติใกล้ชิดจะมีสายสัมพันธ์ถึงกัน หลายปีมานี้ข้าหาตัวท่านแม่เจ้ามาตลอด แต่ทำไมถึงไม่ทุกข์ทรมาน เพราะข้ารู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่วันนี้ข้าพลันรู้สึกได้ว่านางใกล้จะอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว เสี่ยวชี เจ้ารีบไป..."
นางหอบหายใจหลายเฮือก พูดอีกว่า "รอเจ้าช่วยท่านแม่เจ้าได้แล้ว ต้องไปที่หุบเขาศักดิ์สิทธิ์นะ..."
ยังพูดไม่ทันจบ นางก็เป็นลมสลบไป โหลชีกำลังจะป้อนปลาดุกเทพให้นาง ซวนหยวนคงกับเจ้าวังศุทธิเซียนกลับมาถึงอย่างรวดเร็วและสง่างาม พวกเขามาด้วยกัน อาจารย์ปู่ของนางคนนั้นเห็นสถานการณ์เบื้องหน้า เขาสีหน้าเปลี่ยนทันที รีบพุ่งเข้ามา รับนางจากมือโหลชีไป ร่างพลันขยับ ก็หายไปไม่เหลือแม้แต่เงาแล้ว มีแต่เสียงลอยมาตามลมว่า "ข้าจะส่งนางกลับไป"
คำที่ซวนหยวนคงคิดจะพูด ตอนนี้ถึงได้พูดว่า "....นางไม่อาจกินยาอะไรได้"
โหลชีปราดร่างไปเบื้องหน้าเขาราวธนู คว้าคอเสื้อเขาหมับ พูดอย่างดุดันว่า "นักพรตเลว บอกข้ามานะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?"
"ปล่อยมือปล่อยมือ เย็นไว้เย็นไว้" ซวนหยวนคงกลับตบมือนางออก หันไปทางเฉินซ่า "นี่ เจ้าไม่ดูเมียเจ้าหน่อยหรือไง? ไม่เคารพผู้ใหญ่แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน?"
เฉินซ่าเหล่เขาหนึ่งที พูดเสียงอ่อนช้ากับโหลชีว่า "ชีชี ถ้าไงข้าช่วยเจ้าบีบเค้นดีหรือไม่? เจ้าอยากลงทัณฑ์แบบไหนก็แบบนั้น"
"เจ้าเด็กอกตัญญูสองคนนี้นะ..." ซวนหยวนคงปวดใจปวดหัวนัก
โหลชีแค่นเสียงหึ ส่งเสียงหวีดใสกระจ่างออกมา เจ้าขาวรีบบินยอบตัวลงมา นางเหล่มองซวนหยวนคงพลางกระโดดขึ้นไป เฉินซ่ารีบเหาะตามขึ้นไป
"องครักษ์อวิ๋น เฉิงสิบ เรื่องหาคนยกให้พวกเจ้าแล้วนะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ