ชายหญิงสองคนนั้นติดตามอยู่ข้างกายของเขา ทันทีที่เขามอง ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาเล็กน้อย "ยังไม่เข้ามาประคองข้าอีก? พวกเจ้าเป็นคนตายหรือ?"
แต่เมื่อพูดจบการแสดงออกทางสีหน้าของเขาเองกลับโศกเศร้าเล็กน้อย คนตาย ก็เป็นคนตายอยู่แล้วไม่ใช่หรือ? แล้วพวกเขาต่างอะไรไปจากคนที่ตายไปแล้วล่ะ?
ของปลอมสุดท้ายก็เป็นของปลอม จะเป็นจริงไปได้อย่างไรล่ะ พวกเขามีใบหน้าเช่นนี้ แต่กลับไม่มีการแสดงออกทางสีหน้าอะไรเลยแม้แต่น้อย ไม่มีชีวิตชีวาเลยแม้แต่น้อย เขาต้องการมองดูสองคนนี้ยิ้มให้กับเขา หรือแม้กระทั่งระเบิดอารมณ์ใส่เขาก็ยังได้!
เฮ่อเหลียนหมิงนึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นอย่างตกอยู่ในภวังค์
ในเวลานั้นเขายังเด็ก ติดตามเสด็จพ่อไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของไท่ซ่างหวงซวนหยวน ตอนนั้นซวนหยวนกับราชตระกูลเฉินยังรุ่งโรจน์ ใต้หล้าร่วมแสดงความยินดี เขาเห็นซวนหยวนจ้าน เห็นไท่จื่อเฟยราชตระกูลเฉิน คนแรกแข็งแกร่งทรงพลัง หล่อเหลาพลิ้วไหว เฉกเช่นแสงแดดในฤดูร้อน สาดส่องเข้ามาในโลกที่เดิมทีอ่อนโยนของเขา คนหลังงดงามอ่อนโยน เหมือนกับเสด็จแม่ในฝันของเขา
เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นับแต่นั้นก็วางสองคนนี้เอาไว้ในใจ เขาอยากอยู่กับสองคนนี้ทุกวัน แต่ว่าคนหนึ่งอยู่ที่ซวนหยวน อีกคนอยู่ที่ราชตระกูลเฉิน และเขาก็อยู่ที่เฮ่อเหลียน
เขาเกลียดหยุนโยวกับไท่จื่อราชวงศ์เฉินขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ เขารู้สึกว่า ซวนหยวนจ้านควรจะเป็นคู่กับไท่จื่อเฟยถึงจะถูก! ทางที่ดีที่สุด ก็อยู่ด้วยกันกับเขาด้วย
ต่อมาไท่จื่อของทั้งสองแคว้นขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ ฮ่องเต้ซวนหยวนกับฮ่องเต้เฉิน ตอนนั้นราชนิกุลของราชวงศ์เฮ่อเหลียนก็กำลังอยู่ในช่วงโกลาหล แต่เขาก็ยังปลีกตัวไปแสดงความยินดีกับทั้งสองฝั่ง
ในเวลานั้นเขาเจอกับหยุนฉ่าย และเจอกับพี่สาวบุญธรรมที่ฮ่องเฮาเฉินยอมรับคนนั้น พี่สาวบุญธรรมที่ใช้แซ่เดียวกับนาง กู่ชิวหลาน
เขาคิดหาวิธีสารพัดล่อลวงสองคนนี้ แต่ว่า ใจของหยุนฉ่ายไม่ได้อยู่ที่เขาเลย ผู้หญิงที่ชั่วร้ายคนนั้นก็แค่รู้สึกเหงาไปชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ตอนที่กอดเขาเอาไว้ปากก็ยังคงเอ่ยชื่อของซวนหยวนจ้านอยู่เลย! แต่ว่า เพราะในใจของเขาก็มีซวนหยวนจ้านเช่นกัน กับนางแล้วเขาก็ค่อนข้างใจกว้างอยู่ไม่น้อย เพราะนี่ทำให้เขารู้สึกว่ามีความลับร่วมกัน หลงรักคนคนเดียวกัน หยุนฉ่ายต้องการจะทรมานหยุนโยว ส่วนมากเขาก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือเช่นกัน
แต่ว่ากู่ชิวหลานผู้หญิงคนนั้นกลับหลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำอย่างสิ้นเชิง ยังคิดจะเป็นฮองเฮาของเฮ่อเหลียน! นางก็ไม่ลองคิดดูเลย อย่างนางก็คู่ควร!
เฮ่อเหลียนหมิงจ้องมองหญิงสาวที่งดงามไร้ที่ติที่ประคองตนเองเอาไว้คนนั้น อดที่จะด่าออกมาคำหนึ่งไม่ได้: "ท่าทางเหมือนคนตายเช่นนี้ของเจ้าทำให้ใครดูกัน? ข้าจะบอกกับเจ้า สามารถอยู่ได้ด้วยใบหน้าของนางก็ถือว่าเป็นบุญของเจ้าแล้ว! นังแพศยา!" พูดไป เขาก็ยื่นมือไปลูบใบหน้าของนางด้วยสายตาที่โศกเศร้า กล่าวขึ้นมาอย่างอ่อนโยนและเศร้าเสียใจ: "พี่จิ้งขอโทษด้วย ข้าไม่ได้ด่าว่าท่านนะ ข้าไม่ได้ว่าท่านดูเหมือนคนตายนะ พี่จิ้งท่านงดงามเช่นนี้......"
พูดไป เขาจับใบหน้านั้นเอาไว้ ยื่นริมฝีปากเข้าไปใกล้อย่างลุ่มหลง ประทับลงไปริมฝีปากของกู่ชิวหลาน
ถ้าหากไม่ใช่เพราะกู่ชิวหลานยืนกรานว่าช่วยเหลือเขามามากมายขนาดนี้ จะเป็นฮองเฮาของเฮ่อเหลียนให้ได้ เขาก็คงไม่ทำให้นางมีหน้าตาของกู่จิ้งเอ๋อร์หรอก
เฉินซ่าเดิมทีก็สมควรต้องตายอย่างทุกข์ทรมานอยู่แล้ว ถึงแม้เขาจะเป็นลูกของพี่จิ้ง แต่ว่าใครใช้เขาทำให้พี่จิ้งได้รับความทุกข์ทรมานเกือบตายตอนที่ให้กำเนิดเขาล่ะ? ดังนั้นเขาต้องได้รับความทุกข์ทรมานเป็นร้อยเท้าพันเท่า!
เพียงแต่ว่าตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าเพราะความริษยา เกลียดชังกู่จิ้งเอ๋อร์และฮ่องเต้เฉิน ดังนั้นกู่ชิวหลานจึงอยากฆ่าเฉินซ่าให้ตาย
เรื่องราวต่อจากนั้น ฝ่าบาทเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ก็มาถึงจุดที่เขาไม่สามารถควบคุมเอาไว้ได้แล้ว
แล้วเฮ่อเหลียนหมิงมองไปทางผู้ชายที่มีใบหน้าของซวนหยวนจ้าน ที่กำลังประคองตนเองอีก ซุกศีษระเข้าไปในอ้อมแขนของเขา มือทั้งสองข้างโอบเอวของเขาเอาไว้ กล่าวออกมาอย่างไร้แรงกำลังเล็กน้อย: "น้องจ้าน ข้าควรจะทำอย่างไรดี? เดิมทีเสี่ยวชีควรจะเป็นลูกสาวของเจ้ากับพี่จิ้ง ข้าหวังมาตลอดว่าพวกเจ้าจะให้กำเนิดลูกสาวที่น่ารักและงดงามคนหนึ่ง ข้าจะปฏิบัติต่อนางราวกับของล้ำค่า แต่ว่านางกลับไปอยู่กับเฉินซ่าไอ้หมอนั่นได้......นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง......"
"ข้าจะพานางกลับมา! น้องจ้าน พี่จิ้ง พวกเจ้าวางใจได้ ถึงแม้ฝ่าบาทจะครอบครองร่างกายของนาง นั่นก็ยังถือว่าเป็นของนางใช่ไหม? นางจะกลายเป็นผู้ปกครองในใต้หล้าแห่งนี้! ใต้หล้านี้ล้วนเป็นของนางแล้ว พวกเจ้าก็จะดีใจด้วยเช่นกันใช่ไหม? ฝ่าบาทจะไม่ฆ่านางหรอก ฝ่าบาทต้องการแค่ร่างกายของนางเท่านั้น ถึงอย่างไรนางก็ถูกสอนจนเสียคนไปแล้ว ไม่สู้เอาร่างกายให้ฝ่าบาทใช้ดีกว่าใช่ไหม? น้องจ้าน พี่จิ้ง ตอนนี้ต้องอาศัยพวกเจ้าแล้ว"
เขากล่าวอย่างสะเปะสะปะเล็กน้อย เดินออกไปข้างนอกด้วยการจูงมือเอาไว้ข้างคน
ด้านหลังของพวกเขา เหนือตำหนักใหญ่นั้น ค่ายกลขนาดใหญ่วนเวียนปกคลุมส่วนบนสุดของตำหนักเอาไว้ ราวกับกลุ่มเมฆขนาดใหญ่
ในค่ายทหารนอกเมือง ตงสือยู่มองไปที่รองแม่ทัพหลงที่ถูกมัดเอาไว้บนเสาไม้ในพื้นที่โล่งกว้างด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ
"รองแม่ทัพหลง ข้าเชื่อว่าก่อนที่จะเข้าไปในเมืองหลวงเจ้ายังไม่มีใจที่ไม่ซื่อสัตย์ เพราะอะไร?"
เพราะอะไรหลังจากที่เข้าไปในเมืองหลวงเฮ่อเหลียนรอบหนึ่ง ก็เปลี่ยนไปเลย?
โหลชีเห็นแวบแรกก็มองความผิดปกติของเขาออกแล้ว นั่นเป็นเพียงเพราะว่าเขาปกปิดสายตาได้ไม่ดี แต่ว่าในความจริง เขากลับไม่ได้ถูกพิษไม่ได้ถูกกู่ หรือวิชามนต์อะไรทำนองนั้นเลย อีกอย่าง บนร่างกายของเขาไม่มีอาการบาดเจ็บทั้งภายในภายนอกเลยแม้แต่น้อย แสดงว่าเขาไม่ถูดข่มขู่ให้ทรยศด้วยแรงจากภายนอก
นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมโหลชีไม่ได้ฆ่าเขาในทันที นางต้องการจะรู้ให้ชัดเจน ข้างในนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อีกฝ่ายใช้วิธีอะไร ถึงสามารถชักนำคนให้ทรยศได้ง่ายดายเช่นนี้ได้ เดิมทีนางจะใช้วิธีสะกดจิต แต่ได้ยินว่าองครักษ์อิงพาคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ ก่อนหน้านี้เขาพาคนไปไล่ตามลัทธิสิ้นโลกีย์ไป ตอนนี้กลับมาถึงบริเวณนี้ได้ หรือว่าคนของลัทธิสิ้นโลกีย์มาที่ราชวงศ์เฮ่อเหลียน? ดังนั้นนางจึงพาคนออกไปรับก่อน
"ไท่จื่อ ท่านรู้หรือเปล่าว่าอะไรคือสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุด?" รองแม่ทัพหลงก็ยังคงมีไมตรีจิตที่ดีต่อตงสือยู่อยู่ เห็นเขาเดินเข้ามา สายตารองแม่ทัพหลงเผยความบ้าคลั่ง "ไม่ใช่การมีเงินมีอำนาจ และไม่ใช่การมีภรรยาสนมมากมาย! เฉกเช่นไท่จื่อท่านเช่นนี้ ถึงแม้ในอนาคตขึ้นครองราชย์เป็นราชาแห่งแผ่นดิน พูดอย่างผิดครรลองครองธรรมคำหนึ่ง เช่นนั้นก็ต้องแก่และตายไปเช่นกัน!"
ตงสือยู่ขมวดคิ้วมองดูเขา "เจ้ากำลังพูดอะไรอยู่? มนุษย์เดิมทีก็ยากที่จะหลีกหนีพ้นสัจธรรมของชีวิต ต้องเกิดแก่เจ็บตายอยู่แล้ว"
"ไม่ ไม่ต้อง!" รองแม่ทัพหลงกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น: "ไท่จื่อ ท่านฟังที่ข้าน้อยพูด บนโลกนี้ยังมีหนทางแห่งความเป็นอมตะอยู่! ขอเพียงพวกเราล้วนยอมจำนนต่อฝ่าบาท ช่วยฝ่าบาทรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ต่อไปพวกเราก็จะได้รับวิชาลับแห่งความเป็นอมตะ! ความมั่งคั่งที่สั่งสมมาตลอดชีวิต สาวงาม สุราชั้นเลิศ ล้วนไม่ต้องให้ผู้อื่น เราสามารถเพลิดเพลินกับมันไปตลอด!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ