ตกกลางคืน ระหว่างที่กำลังนอนอยู่บนเตียง อันเสวี่ยถังก็รู้สึกร้อนอบอ้าว นางพลันขมวดคิ้ว ความร้อนเช่นนี้... ช่างไม่ปกติเอาเสียเลย
"ถังถัง?" ท่ามกลางราตรีอันมืดมิด โม่อวิ๋นจิ่งเห็นนางเริ่มเปลื้องอาภรณ์ เขาจึงร้องเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เสียงทุ้มพร่าที่ได้ยินทำให้กระดูกของอันเสวี่ยถังเปลี่ยนเป็นอ่อนปวกเปียก จากนั้นความร้อนชวนกระสับกระส่ายในร่างกายของนางกลับยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
นางบิดร่างไปมาด้วยความไม่สบายเนื้อตัว "อาจิ่ง ข้าร้อน"
โม่อวิ๋นจิ่ง "..."
น้ำเสียงของนางฉายแววกระเง้ากระงอด จากนั้นลูกกระเดือกของโม่อวิ๋นจิ่งก็ขยับเล็กน้อย
อันเสวี่ยถังต้องการหาทางระบายความร้อนรุ่มของตนเองอย่างเร่งด่วน ดังนั้นนางจึงขยับเข้ามาอยู่ใกล้ๆ กับโม่อวิ๋นจิ่ง ทำให้เขาตัวแข็งทื่อ
ก่อนที่โม่อวิ๋นจิ่งจะทันได้ตอบอันใด มือเล็กๆ ของอันเสวี่ยถังก็ลูบไล้ร่างกายของเขาอย่างอยู่ไม่สุข
โม่อวิ๋นจิ่งแววตามืดมน หลังจากนั้นสักครู่เขาก็ยกมือขึ้นสับก้านคอของอันเสวี่ยถัง
อันเสวี่ยถัง "!"
หลังจากอันเสวี่ยถังหมดสติไปแล้ว โม่อวิ๋นจิ่งก็ก้มหน้าพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาไปทางหน้าต่าง "เข้ามา"
อวิ๋นลิ่วอยู่นอกประตู "!"
อวิ๋นลิ่วรู้สึกลังเลไปในชั่วเวลาเพียงไม่กี่เหมี่ยว แต่ในที่สุดเขาก็เปิดประตูแล้วยอมรับผิด "นายท่าน บ่าวขอโทษขอรับ"
"เจ้าเอาสิ่งใดให้นางกิน?"
"นะ... นั่นเป็นยาชนิดหนึ่ง"
ตอนที่โม่อวิ๋นจิ่งเห็นอาการของอันเสวี่ยถัง เขาก็เดาออกแล้ว ทว่ายามนี้เมื่อเขาได้ยินคำสารภาพของอวิ๋นลิ่วกับหูตนเอง สีหน้าของเขาก็ยิ่งคล้ำเครียดขึ้นเรื่อยๆ "อย่าให้มีคราวหน้าอีก"
อวิ๋นลิ่วพลันคุกเข่าลงพลางกล่าวว่า "นายท่าน ได้โปรดตอบตกลงเถิดขอรับ"
ส่วนเรื่องที่เขาให้สัญญา ต่อให้อวิ๋นลิ่วมิได้กล่าวให้แน่ชัด โม่อวิ๋นจิ่งก็รู้ว่าหมายถึงเรื่องเข้าหอกับอันเสวี่ยถัง
โม่อวิ๋นจิ่งมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา "อวิ๋นลิ่ว ถ้ามีคราวหน้าอีก เจ้าก็จงกลับไปเสียเถอะ"
"นายท่าน"
"ออกไป"
น้ำเสียงของโม่อวิ๋นจิ่งฟังดูอิดหนาระอาใจอยู่บ้าง อีกทั้งเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้อวิ๋นลิ่วได้กล่าวสิ่งใดอีก
เขาจะไม่เข้าใจเจตนาดีของอวิ๋นลิ่วได้อย่างไรกัน แต่เขาจะไม่กระทำเรื่องเช่นนี้เป็นอันขาด
เขาโม่อวิ๋นจิ่งยังไม่ตกต่ำจนถึงขั้นบีบบังคับสตรีเพื่อให้กำเนิดบุตรแก่ตนด้วยวิธีพรรค์นี้
ถึงแม้ว่าอวิ๋นลิ่วจะไม่อยากยอมแพ้ แต่ท่าทางของโม่อวิ๋นจิ่งก็ทำให้เขาไม่กล้าพูดสิ่งใดออกมาอีก เนื่องจากเขารู้นิสัยของนายท่านตนเองดี ถ้าเขาพยายามเกลี้ยกล่อมอีกล่ะก็ นายท่านคงจะไล่เขากลับไปจริงๆ แน่
.......
วันรุ่งขึ้น
ตอนที่อันเสวี่ยถังตื่นขึ้นมา นางรู้สึกอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงและต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าเรี่ยวแรงจะกลับคืนมาบ้าง
เมื่อนางตื่นเต็มตาแล้ว นางก็พลันถลึงตามองโม่อวิ๋นจิ่งที่อยู่ข้างกายแล้วกล่าวด้วยท่าทีฉุนเฉียวว่า "บอกข้ามาตามความจริง เมื่อวานนี้เจ้าได้บอกให้อวิ๋นลิ่วไปซื้อขนมหรือไม่?"
โคตรแม่งเอ๊ย ถ้าเขากล้าบอกว่าใช่ล่ะก็ นางจะจากไปให้ดู ช่างน่าเสียดายที่นางยังอยากจะรักษาเขาอยู่เลยแท้ๆ
โม่อวิ๋นจิ่งยิ้มเล็กน้อย "ไม่"
"นับว่าเจ้ายังพอมีมโนธรรมอยู่บ้าง!" อันเสวี่ยถังลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก เมื่อนางลุกขึ้นจากเตียงก็สวมเสื้อคลุมแล้ววิ่งออกไป
อวิ๋นลิ่วเจ้าสารเลวผู้นั้นกล้าวางยาท่านป้าอย่างข้า
"อวิ๋นลิ่ว!" ทันทีที่อันเสวี่ยถังออกมาจากห้อง นางก็แผดเสียงร้องอย่างโกรธจัด
อวิ๋นลิ่วที่กำลังผ่าฟืนอยู่ถึงกับก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็แสร้งทำทีเป็นมองอันเสวี่ยถังด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้าน "พี่สะใภ้ เจ้ากำลังตามหาข้าอยู่หรือ?"
เมื่ออันเสวี่ยถังเห็นเขามีท่าทางเช่นนี้ นางก็ยิ่งโมโหมากขึ้นเรื่อยๆ "อวิ๋นลิ่ว บอกข้ามา เมื่อคืนเจ้าทำอันใดกันแน่?"
"จัดการกับเสือ กินข้าวแล้วก็นอนหลับ"
อันเสวี่ยถัง "!"
ให้ตายสิ เจ้าหมอนี่ยังคิดจะแกล้งโง่อีกหรือ?
"อวิ๋นลิ่ว เจ้ากล้ายอมรับว่าขนมที่เจ้ามอบให้ข้าเมื่อคืนนี้มีปัญหาหรือไม่?"
อวิ๋นลิ่วยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์ "พี่สะใภ้ ถ้าเจ้ายอมปรนนิบัติพี่ใหญ่ของข้าแต่โดยดี ไฉนข้าจะต้องไปยุ่งกับอาหารของเจ้าด้วยเล่า?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ้านอาจิ่งมีหมอเทวดา
ลงต่อไหมคะ...