บทที่ 1285 โง่เขลาเกินกว่าจะเยียวยา
เถียหูจื่อคิดว่าตนเองได้ยินผิดไป แต่เมื่อมองดูสีหน้าของชายหนุ่มตรงหน้า ก็ไม่เหมือนกำลังพูดโกหก
เพื่อให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เถียหูจื่อจึงคว้าข้อมือของฉินเฟิงไว้ แล้วอุทานด้วยความตกใจ
“น้องชาย เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่?!”
“ทหารองครักษ์ค่ายเทียนจีเป็นทหารองครักษ์ส่วนตัวของฉินอ๋อง เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นกองทหารรบบนบกที่เก่งกาจที่สุดในใต้หล้าสมกับชื่อเสียง ไม่มีกองทัพใดสามารถเหนือกว่าทหารองครักษ์ค่ายเทียนจีได้”
“หากบนภูเขาเป็นทหารองครักษ์ค่ายเทียนจีจริง ก็ไม่ต้องสู้แล้ว อย่าว่าแต่สามสิบนายเลย แม้แต่สิบนาย การจะเอาชนะพวกเขาก็ยากเหมือนปีนขึ้นสวรรค์”
“เจ้ารู้หรือไม่ ครั้งหนึ่งทหารองครักษ์ค่ายเทียนจีและฉินอ๋องต่อต้านการล้อมโจมตีของกองทัพหมื่นนายของเป่ยตี๋บนภูเขาต้าชิง พวกเขาสามารถถอนตัวได้อย่างปลอดภัย และสังหารศัตรูข้าศึกไปหลายพันนาย!”
เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของเถียหูจื่อ ฉินเฟิงก็อดไม่ได้ที่ขำในใจ
เขารู้เรื่องวีรกรรมของทหารองครักษ์ค่ายเทียนจีบนภูเขาต้าชิงเป็นอย่างดี เพราะเขาเองนั่นแหละ ที่นำทหารองครักษ์ค่ายเทียนจีไปสกัดกั้นกองทัพของเป่ยตี๋
ยิ่งเถียหูจื่อตกใจมากเท่าไร ฉินเฟิงก็ยิ่งรู้สึกสนุกมากขึ้นเท่านั้น
ฉินเฟิงยักไหล่ แล้วทำท่าเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“หรือว่าหัวหน้าใหญ่ยังไม่เชื่อใจข้า?”
“ฮ่ะ ๆ ตั้งแต่ข้ามาถึงภูเขาอวิ๋นหลาน ข้ายังไม่เคยเห็นศพของทหารองครักษ์บนเขาเลย”
“พวกเจ้ามีคนหลายร้อยคน แต่กลับสู้กับคนบนเขาเพียงไม่กี่สิบคนไม่ได้ จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถสังหารใครได้แม้แต่คนเดียว”
“นี่ยังไม่พอที่จะอธิบายปัญหาหรือไร?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เถียหูจื่อยิ่งรู้สึกสิ้นหวัง
ก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่รู้สึกว่าทหารองครักษ์บนภูเขานั้นแข็งแกร่งเกินไป ยากที่จะรับมือ แต่ตอนนี้เมื่อคิดทบทวนอย่างละเอียด นอกจากทหารองครักษ์ค่ายเทียนจีแล้ว ยังมีหน่วยองครักษ์ใดอีกที่มีพลังการต่อสู้น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้?
ในขณะที่เถียหูจื่อกำลังเหม่อลอย เสียงร้องโหยหวนก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน
ในชั่วพริบตา สายตาของทุกคนในที่นั้นต่างจับจ้องไปที่เฉินป๋อหลิน
และในตอนนี้ เฉินป๋อหลินได้ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ร้องไห้เสียใจอย่างสุดซึ้ง ราวกับเด็กซนที่ถูกหมีขู่จนขวัญหนีดีฝ่อ
เถียหูจื่อรู้สึกงุนงงกับเสียงร้องไห้ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของเฉินป๋อหลิน
“เจ้าร้องไห้ทำไม?”
“แม้จะรู้ว่าบนเขาคือทหารองครักษ์ค่ายเทียนจี ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวถึงขนาดนี้นี่”
แม้ว่าเถียหูจื่อเองก็เกือบจะขวัญผวาแล้ว แต่ในใจเขารู้ดีว่า ตอนนี้เขาต้องไม่ตื่นตระหนก
หากพวกเขารวมกำลังกันบุกโจมตี บางทีอาจจะยังมีโอกาสจับตัวประกัน และหนีรอดออกไปได้
ดังนั้น แม้ความหวังจะริบหรี่ เถียหูจื่อก็ต้องปลอบประโลมจิตใจผู้คน เพื่อป้องกันไม่ให้ทุกคนยอมแพ้โดยตรง และถูกกองทัพใหญ่ด้านล่างเขาสงหารทีละคน
เฉินป๋อหลินร้องไห้เสียงดังขึ้น “หัวหน้าใหญ่ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ?”
“ทหารองครักษ์บนภูเขาเป็นทหารองครักษ์ค่ายเทียนจี นี่หมายความว่าอย่างไร?”
“หญิงสาวบนภูเขา จะต้องเกี่ยวข้องกับฉินเฟิง อ๋องแห่งชายแดนเหนือแน่นอน”
พูดถึงตรงนี้ เฉินป๋อหลินมองไปที่ฉินเฟิง พูดอย่างสิ้นหวัง “เมื่อครู่พี่ชายท่านนี้บอกว่า หญิงสาวบนภูเขาคือบุตรสาวของมหาเสนาบดี”
“เห็นได้ชัดว่า ที่เรียกว่ามหาเสนาบดีนี้ก็คือบิดาของฉินเฟิง ฉินเทียนหู่!”
“ดังนั้นหญิงผู้นี้ก็คือพี่สาวของฉินเฟิง”
เถียหูจื่อที่เมื่อครู่ยังงุนงงอยู่ เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินป๋อหลิน ทั้งร่างก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาเหม่อลอย
โจรภูเขาทั้งหมดที่อยู่ในที่นั้น ต่างรู้สึกเหมือนฟ้าผ่าลงกลางกระหม่อม รู้สึกเพียงว่าในหัวมีเสียงอื้ออึงไปหมด
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ความเงียบสงัดบนภูเขาอวิ๋นหลาน ก็ถูกเสียงร้องโหยหวนของพวกโจรกลบ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกตำนานนายน้อยเจ้าสำราญ