Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1011

ตอนที่ 1011 กระบวนเฉือนเกิดดับ
แคว้นพฤกษาทอง เมืองฝนเขียว

หมอกพิรุณพร่าเลือน ท้องถนนสิ่งปลูกสร้างในเมืองล้วนแฝงกลิ่นอายโบราณดั่งบทกวีและภาพวาด

วู้ม…

ใจกลางเมือง ค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณเปิดออกเผยเงาร่างเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

ที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจคือ ทันทีที่คนผู้นี้ปรากฏตัวก็แหงนมองฟ้าหัวเราะร่าไม่หยุดราวเสียสติ ถูกผู้ฝึกปราณไม่น้อยละแวกใกล้เคียงวิพากษ์วิจารณ์

หลินสวินก็สังเกตเห็นภาพนี้ แต่เขาคร้านจะใส่ใจ ชีวิตคนเรายามปิติควรรื่นเริงให้เต็มที่ ไยต้องใส่ใจสายตาคนอื่น

‘ร้ายกาจซะจริง เพื่อจู่โจมสังหารข้าถึงขั้นส่งสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันมาห้าคน น่าเสียดาย สุดท้ายพวกเจ้าก็วางหมากช้าไป!’

ในใจหลินสวินเบิกบานยิ่ง ความอัดอั้นหลายวันที่ผ่านมาหายเป็นปลิดทิ้ง

ถูกแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ตามล่าจนไร้หนทาง บัดนี้ไม่เพียงหนีรอดปลอดภัย ยังมอบความเสียหายสาหัสที่คาดไม่ถึงแก่อีกฝ่าย มีหรือหลินสวินจะไม่ยินดี

โดยเฉพาะยังมีสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันคนหนึ่งถูกสังหารทั้งเป็น หลินสวินล้วนยากจะเชื่ออยู่บ้าง อีกทั้งซ้ำสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันคนอื่นอีกสี่คนก็บาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย ราวกับภาพฝันไม่ใช่ความจริง

‘เพื่อให้ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตสะสมพลังต้องสิ้นเปลืองสามหมื่นกว่าแกนวิญญาณขั้นสูง แต่สามารถสร้างผลอัศจรรย์เช่นนี้ก็ถือว่าคุ้มค่า…’

หลินสวินมั่นใจยิ่งกว่าเดิม ขวดมหามรรคไร้ขอบเขตต้องเป็นยอดอาวุธสังหารแน่ หากสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ แม้เผชิญหน้าสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันก็ไม่ต้องหวาดกลัว!

หลินสวินไม่ชักช้า สาวเท้าจากไป ชั่วพริบตาร่องรอยก็ลางเลือน ค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณถูกเปิดใช้ได้ทุกเมื่อ ที่นี่ไม่ควรอยู่นาน

แคว้นพฤกษาทองตั้งอยู่ในบริเวณค่อนข้างห่างไกลทางตอนเหนือของแดนชัยบูรพา มุ่งไปทางเหนือข้ามผ่านอีกสิบกว่าแคว้นก็เป็นแม่น้ำพรมแดนที่ขวางกั้นระหว่างแดนชัยบูรพาและแดนดาราอุดร

หากไปทางใต้ ขอแค่ผ่านเจ็ดแคว้นก็สามารถไปถึง ‘นครหยกขาว’ ที่สำนักกระบี่เทียมฟ้าตั้งอยู่!

เมืองฝนเขียวมีหมอกฝนพร่าเลือน ทั้งเมืองเผยบรรยากาศเลือนรางว่างเปล่า งดงามเงียบสงบดั่งบทกวีและภาพวาด

แม้แต่ไอวิญญาณในอากาศล้วนเต็มแน่น เหมาะแก่การบำเพ็ญยิ่ง

น่าเสียดาย สำหรับเมืองนี้หลินสวินเป็นแค่คนผ่านทาง

หลังจากนั้นครู่ใหญ่

เขาออกจากเมืองฝนเขียว ตัดผ่านป่าเขานอกชานเมือง มุ่งหน้าไปทางใต้ตลอดทาง

นี่คือผลจากการใคร่ครวญอย่างรอบคอบ ตามการวิเคราะห์ของหลินสวิน หากแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ยังไม่เลิกรา ต้องคิดว่าตนจะอาศัยค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณหลบหนีแน่

อีกทั้งความเข้าใจของเขาต่อแดนชัยบูรพายังมีแค่แง่เดียว จึงคิดฉวยโอกาสนี้อาศัยฐานะนักเดินทางท่องเที่ยวในแดนนี้สักพัก

อ่านตำราหมื่นเล่ม เดินทางหมื่นลี้ สำหรับการฝึกปราณแล้วก็เป็นเช่นเดียวกัน

แดนชัยบูรพามีฉายาว่า ‘แหล่งกำเนิดแห่งเหล่าอริยะ’ เป็นแดนวิภูซึ่งเก่าแก่รุ่งเรืองที่สุดในดินแดนรกร้างโบราณ สำนักแออัดเรียงราย หมื่นเผ่าพันธุ์ดำรงอยู่ รากฐานน่าอัศจรรย์

คิดหมายฝึกปราณเด่นผงาดในที่นี้ แน่นอนว่าต้องทำความเข้าใจและปรับตัวเป็นอันดับแรก

ทุ่งหญ้าหุบเขาเงียบสงบ เวิ้งว้างไร้ขอบเขต

เดินทางอยู่ในนั้นอย่างสันโดษ ทุกแห่งสามารถมองเห็นภูเขาประหลาดหินพิสดาร น้ำตกหลั่งรินน้ำพุเวียนวน สิงสาราสัตว์ร้องคำรามห้อตะบึง

เทียบกับเมืองที่ผู้ฝึกปราณพำนักแล้ว ทุ่งชานเมืองกว้างใหญ่และไพศาลกว่าโดยไม่ต้องสงสัย

รุ่งเช้าหลินสวินตื่นรับอรุณแรก ก้าวย่ำกลางอากาศ เดินทางเพียงลำพังกลางภูผาธารา มองทัศนียภาพอัศจรรย์แห่งฟ้าดิน หยั่งรู้วิชาแห่งตน

ยามสายัณห์ดั่งวิหคล้าหวนคืนป่า ตกปลาล่าสัตว์ก่อไฟทำอาหาร ลิ้มรสโอชาจากของหายากบนภูเขา

ยามค่ำคืนหลินสวินอาบไล้แสงดารา นั่งสมาธิฝึกตนท่ามความเงียบงัน…

สภาวะจิตเขาผ่อนคลายโดยสมบูรณ์ สัมผัสถึงความสงบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตั้งแต่เข้าสู่แดนฐิติประจิมจวบจนปัจจุบันเขายังไม่เคยผ่อนคลายเช่นนี้มาก่อน ไม่มีเรื่องเข่นฆ่าบุญคุณความแค้น และไม่มีเรื่องทางโลกรบกวน

ตลอดทางฟ้าดินเป็นเพื่อน ภูเขาแม่น้ำร่วมเคียง ลืมสิ้นสิ่งกังวลแห่งโลกหล้า!

เขามุ่งหน้า นั่งสมาธิ หยั่งรู้วิชา เดินทางต่อเพียงลำพัง…

ทุ่งชานเมืองหาใช่ดินแดนในอุดมคติ มีอันตรายเกินคาดเดาเช่นกัน

ค่ำวันนี้

หลินสวินซึ่งนั่งสมาธิลืมตาขึ้นอย่างเงียบเชียบ รวบนิ้วกรีดวาดเกิดเป็นเจตดาบสายหนึ่ง

ฉัวะ!

ห้วงอากาศพลันถูกเฉือนเกิดรอยแยกยาวร้อยพันจั้ง

ปลายทางของรอยแยก เงาดำที่อยู่ด้านข้างพลันวาบปรากฏ เห็นได้ว่าอเนจอนาถอยู่บ้าง เปล่งเสียงเกรี้ยวกราดสะเทือนนภา

นี่คือหมาป่าดำตัวหนึ่ง นัยน์ตามรกตดุจอัคคี ร่างยาวประมาณสิบกว่าจั้ง ดุดันปราดเปรียว แผ่กลิ่นอายอำมหิตสยบผู้คน

พร้อมๆ กับเสียงคำรามนี้ ภูผาสูงชันเงียบสงัดแถบนี้ต่างสั่นระรัว ลมเมฆเปลี่ยนสี

‘หมาป่าขุมทมิฬ’ ที่ก้าวสู่ระดับกึ่งราชัน!

“เจ้าหนุ่ม ที่นี่คืออาณาเขตของข้า…” มันส่งเสียงคำราม

เพิ่งกล่าวไปครึ่งหนึ่งหลินสวินก็โจมตีออกไปแล้ว วาดนิ้วกรีดเฉือน พริบตานั้นรวงแสงเปล่งประกายพลันโฉบพุ่งออกไป

ฟุ่บ!

หมาป่าขุมทมิฬซึ่งก้าวสู่ระดับกึ่งราชันตัวนี้ยังไม่ทันดิ้นรน ร่างกายใหญ่โตก็ดับสลายในบัดดล!

ตายอย่างรวดเร็ว ทั้งไม่ร้องทุรนทุราย ไม่มีภาพอนาถฝนโลหิตสาดพรมหลังถูกสังหาร กระทั่งไม่เหลือกลิ่นอายเพียงเสี้ยว

เสมือนรอยเปื้อนบนกระดาษถูกลบออกไปจนสิ้น!

ตั้งแต่ต้นจนจบห้วงอากาศเงียบสงัด ภูเขาแม่น้ำเงียบงัน สรรพสิ่งไม่สังเกตเห็น ผีเทพไม่ถูกทำให้ตระหนก มีเพียงหมาป่าขุมทมิฬนั่นไม่ดำรงอยู่แล้ว

“เกิดดับชั่วพริบตา…” หลินสวินกล่าวกับตัวเอง

การโจมตีนี้คือ ‘กระบวนเฉือนเกิดดับ’ ที่เขาเพิ่งหยั่งรู้ไม่นาน กระบวนท่าที่ห้าของหกกระบวนเฉือนวัฏจักรฟ้า

เหตุใดจึงเรียกเกิดดับ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์