เซียนโอบเหนือศีรษะ ผูกเกศารับอมร
แคว้นนี้แต่โบราณมามีตำนานปกรณัมน่าเหลือเชื่อนับไม่ถ้วน ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดเคยให้กำเนิดผู้ยิ่งใหญ่ระดับตำนานมากมาย
เรื่องเล่าขานที่ดังที่สุดในนั้นเป็นของบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักกระบี่เทียมฟ้า นี่ก็คือบุคคลในตำนานคนหนึ่ง
บรรพจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักกระบี่เทียมฟ้าถูกเรียกขานอย่างยกย่องว่า ‘บรรพจารย์กระบี่เทียมฟ้า’ ครั้งเยาว์วัยเดิมเป็นเด็กเลี้ยงสัตว์คนหนึ่ง พบเจอวาสนาและก้าวสู่หนทางบำเพ็ญกระบี่
จากนั้นเขาผ่านการกรำศึกสามพันปี พิฆาตล้านศัตรูทั่วทิศ กระบี่เทียมฟ้าหนึ่งเล่ม บุกขึ้นสังหารเก้าสวรรค์ เฉือนผ่าลงขุมนรก ประหนึ่งเซียนกระบี่เยือนแดนโลกีย์ ชื่อเสียงสะเทือนโลกบรรพกาล
ต่อมาบรรพจารย์กระบี่เทียมฟ้าเบื่อหน่ายการฆ่าฟัน ปลูกเรือนพำนักในนครหยกขาว หยั่งรู้ความลับแห่งจักรวาล สุดท้ายจึงแจ้งมรรค และก่อตั้งสำนักกระบี่เทียมฟ้าแห่งนี้ขึ้น!
จนทุกวันนี้ สำนักกระบี่เทียมฟ้าเป็นสำนักโบราณแห่งหนึ่งที่ชื่อเสียงเลื่องลือทั่วแดนชัยบูรพามาเนิ่นนาน รากฐานมั่นคงหาใดเปรียบ
มีคำเล่าลือว่ายามบรรพจารย์กระบี่เทียมฟ้าตั้งสำนักที่นี่ เดิมนครหยกขาวก็เป็นแดนมงคลบำเพ็ญมรรคที่ชื่อเสียงโด่งดัง ซ่อนมหาศุภโชคอยู่แล้ว
และเพราะที่นี่มีวาสนาชั้นยอด จึงทำให้บรรพจารย์กระบี่เทียมฟ้าหยั่งถึงรู้แจ้ง บรรลุจุดสูงสุดแห่งมหามรรคในคราเดียว!
แต่ไม่ว่าอย่างไรตำนานนับไม่ถ้วนนี้ก็เพิ่มสีสันความเร้นลับให้นครหยกขาวขึ้นมากมายโดยปริยาย
ปัจจุบันในแคว้นเรือนหมื่นของแดนชัยบูรพา นครหยกขาวเรียกได้ว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์บำเพ็ญมรรคซึ่งสามารถจัดอยู่ในสิบอันดับแรก
…
นครหยกขาว สิบสองหอห้าเมือง
เมืองแสงทองคือหนึ่งใน ‘ห้าเมือง’ ขนาดใหญ่โตกว่าเมืองที่หลินสวินเคยเห็นช่วงหลายวันมานี้
บนท้องถนนรถม้ารถลากสวนกันขวักไขว่ ผู้คนสัญจรคราคร่ำ เจริญรุ่งเรืองอึกทึกครึกโครม
เวลานี้หลินสวินแปลงเป็นชายหนุ่มชุดเทาคนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาธรรมดา หาได้สะดุดตาไม่
‘น่าสนใจทีเดียว’ เขาสังเกตเห็นว่าผู้ฝึกปราณที่พบตลอดทาง ไม่ว่าชายหรือหญิง ส่วนใหญ่ต่างพาดกระบี่ยาวไว้ที่หลัง แต่งกายอย่างผู้ฝึกกระบี่
“คอยดูการโจมตีแทงดาราของข้า!”
“หึ กระบวนท่าแสงเคลื่อนเถ้าเหินของข้าล้วนสามารถสังหารเจ้า!”
บนท้องถนนเด็กแก่นกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นสนุก ต่างฝ่ายต่างถือกระบี่ไม้ทำท่าวาดกระบี่ง่ายๆ วิ่งไล่จับกัน
“สะพายกระบี่ศึก นี่คือการกระทำอันเป็นกิจวัตรของอวิ๋นชิ่งไป๋ เมื่อใดที่กรำศึกเขาจะพาดกระบี่เดินทาง หาได้ห้อยกระบี่ไว้ที่เอว” ชายชราด้านข้างคนหนึ่งเอ่ยรำพึง
“อาจารย์ สิ่งนี้ต่างกันอย่างไร” เด็กสาวคนหนึ่งข้างชายชรากล่าวอย่างใคร่รู้
“ก็ไม่ถึงขั้นแตกต่าง เล่าลือกันว่าอวิ๋นชิ่งไป๋มองกระบี่เป็นดั่งชีวิตเลือดเนื้อตัวเอง ใช้กระดูกสันหลังแบกสะพายแสดงถึงความศรัทธาต่อวิถีกระบี่ หากนำกระบี่ศึกพาดเอวกลับถูกมองว่าเป็นการดูหมิ่นวิถีกระบี่”
ชายชรากล่าวเนิบช้า “แน่นอน นี่เป็นเพียงความเห็นของอวิ๋นชิ่งไป๋ต่อวิถีกระบี่เท่านั้น”
“ถ้าเช่นนั้น เหล่าผู้ฝึกปราณที่สะพายกระบี่ซึ่งเราเห็นตลอดทางล้วนกำลังเลียนแบบอวิ๋นชิ่งไป๋หรือ อิทธิพลของเขาช่างยิ่งใหญ่เสียจริง!” เด็กสาวอัศจรรย์ใจ
“ไม่ใช่แค่เมืองแสงทองนี่ ทั่วทั้งนครหยกขาวอวิ๋นชิ่งไป๋คือผู้ยิ่งใหญ่ระดับตำนานคนหนึ่ง ถูกคนรุ่นเยาว์ยกย่องสรรเสริญ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาล้วนถูกเลียนแบบ”
ชายชราทอดถอนใจ “นี่สิถึงเป็นผู้กล้าฟ้าประทานที่แท้จริง ทุกการกระทำนำกระแสนิยมสู่แดนดินฟากหนึ่ง เรียกได้ว่าน่าหวาดกลัว”
ชายชราและเด็กสาวค่อยๆ เดินห่างออกไป แต่หลินสวินกลับตะลึงงันอยู่บ้าง
สำหรับข่าวลือของอวิ๋นชิ่งไป๋ เขาเคยได้ยินมาหลายครั้ง ผู้ฝึกกระบี่รุ่นเยาว์อันดับหนึ่งแห่งดินแดนรกร้างโบราณเอย อันดับหนึ่งของผู้อยู่ใต้ระดับราชันเอย… มากมายเหลือเกิน
แต่มีเพียงตอนนี้ที่ทำให้หลินสวินรับรู้ว่าอิทธิพลของอวิ๋นชิ่งไป๋ยิ่งใหญ่ระดับใด!
แค่การกระทำหนึ่งของเขาก็ถูกผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนเลียนแบบ แม้แต่เด็กน้อยยังรู้จักมักคุ้นกระบวนท่ากระบี่ นี่เห็นได้ว่าน่าอัศจรรย์ยิ่งโดยไม่ต้องสงสัย
หลินสินหยุดยืนใคร่ครวญครู่หนึ่งค่อยมุ่งหน้าต่อ
อยากรู้จักคนผู้หนึ่ง ฟังเพียงข่าวลือยังไม่พอ ต้องไปที่พักอาศัยของเขา สัมผัสเรียนรู้ด้วยตัวเองถึงจะสามารถรู้นิสัย ความเคยชิน สิ่งที่ชอบของคนผู้นี้
เยือนนครหยกขาวคราวนี้หลินสวินไม่ได้มาแก้แค้น เขาแค่อยากลองดูว่าอวิ๋นชิ่งไป๋นี่ก้าวไปถึงขั้นไหนแล้วกันแน่!
…
วันแรกที่มาถึงเมืองแสงทองทำให้หลินสวินได้เข้าใจ ตั้งแต่เกิดอวิ๋นชิ่งไป๋ก็เผยลักษณ์ประหลาดต่างจากคนอื่น มีกระดูกกระบี่โดยกำเนิด ถูกเจ้าสำนักสำนักกระบี่เทียมฟ้ารับเข้าเป็นศิษย์ของสำนักด้วยตัวเอง
ยามเขาห้าขวบก็ก้าวสู่ระดับกำลังภายในขั้นเก้า ครองครองนัยเร้นลับวิชากระบี่สิบเก้าวิชา สร้างความตกตะลึงทั่วสำนักกระบี่เทียมฟ้า ถูกขนานนามว่าเด็กอัจฉริยะวิถีกระบี่ซึ่งยากพบเห็นในรอบหมื่นปี
ยามอายุเก้าปี ก้าวสู่ระดับจิตผสานวิญญาณในคราเดียว เข้าสู่การฝึกปราณสายนอกของสำนักกระบี่เทียมฟ้าเป็นกรณีพิเศษ
ปีนั้นอวิ๋นชิ่งไป๋กลายเป็นศิษย์สายนอกที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสำนักกระบี่เทียมฟ้า ไม่มีใครเทียม!
เมื่ออายุสิบสาม อวิ๋นชิ่งไป๋ทะลวงระดับมหาสมุทรวิญญาณ ครอบครองนัยเร้นลับวิชากระบี่สามสิบเจ็ดวิชา เอาชนะศิษย์สายนอกสำนักกระบี่เทียมฟ้า เข้าสู่การฝึกปราณสายใน
เมื่ออายุสิบหก ศิษย์สายในไร้คู่ต่อกรอวิ๋นชิ่งไป๋!
ปีนั้นเขาก้าวสู่ระดับหยั่งสัจจะ ชักนำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดจากฟากฟ้า ‘ประชันหมื่นกระบี่’ สร้างความฮือฮาทั่วนครหยกขาว
เมื่ออายุสิบเจ็ด อวิ๋นชิ่งไป๋ก้าวสู่ระดับกระบวนแปรจุติ กลายเป็นผู้นำคนรุ่นเยาว์ของสำนักกระบี่เทียมฟ้า ฝากตนเป็นศิษย์ของ ‘เหิงหยาจื่อ’ เจ้าสำนักสำนักกระบี่เทียมฟ้า
ยามอายุสิบเก้า อวิ๋นชิ่งไป๋กลับเงียบหายไปกะทันหัน…
และนับจากปีนั้นข่าวเกี่ยวกับอวิ๋นชิ่งไป๋แทบว่างเปล่า ใครต่างไม่รู้ว่าเขาไปไหน
เมื่อเขาปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนอีกครั้งก็ผ่านไปแล้วสิบปี
ตัวเขาหลังผ่านไปสิบปียังคงมีปราณระดับกระบวนแปรจุติ นำมาซึ่งเสียงกระทู้ถามไม่น้อย คิดว่าเขามีโอกาสสูงที่จะหมดความสามารถ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์