Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1014

สรุปบท ตอนที่ 1014 ทิ้งชื่อไว้บนแผ่นหยก: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 1014 ทิ้งชื่อไว้บนแผ่นหยก – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1014 ทิ้งชื่อไว้บนแผ่นหยก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 1014 ทิ้งชื่อไว้บนแผ่นหยก
แม้ไม่ใส่ใจ แต่สีหน้าเซียวชิงเหอก็จริงจังไม่น้อย

ตั้งแต่ชั้นที่เจ็ดเป็นต้นไป ถึงจะเป็นช่วงเวลาทดสอบพลังของผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติอย่างแท้จริง

ด้วยการสังเกตการณ์ของเขาก่อนหน้านี้ เขาพบว่าแม้หลินสวินเป็นคนแปลกหน้า แต่กลิ่นอายรอบกายกลับไม่ธรรมดานัก ทำให้เขาไม่อาจมองทะลุตื้นลึกหนาบางได้ในปราดเดียว

เช่นเดียวกับเซียวชิงเหอ ผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ ก็จับตามองเช่นกัน

ชั้นที่เจ็ด

คลื่นผนึกถาโถมควบรวมเป็นเงาร่างนักรบกระบี่เงาหนึ่ง กลิ่นอายทรงพลังถึงที่สุด น่ากลัวกว่าผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติขั้นสมบูรณ์ทั่วไป

ขั้นสุดยอด!

หลินสวินมองปราดเดียวก็ดูออก ในเวลาเดียวกันนี้เขาไม่ได้หยุดนิ่ง ก้าวเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ชือน้ำแข็งสีขาวโพลนตัวหนึ่งก็ชูคอเคลื่อนออกไป

เผียะ!

นักรบกระบี่กระโจนมาได้ครึ่งทาง ร่างก็ถูกชือน้ำแข็งตวัดหางกระแทกอย่างรุนแรง แปรสภาพยเป็นละอองแสงฟุ้งกระจาย

ในขณะเดียวกันเสียงสูดหายใจหนาวเยือกก็ดังขึ้นที่โลกภายนอก

“สวรรค์!”

“ฝ่าผ่านชั้นที่เจ็ดเช่นนี้หรือ รวดเร็วจริง!”

นัยน์ตาเซียวชิงเหอหรี่ลงเล็กน้อย พึมพำว่า “น่าสนใจ…”

ชายชราผู้เฝ้าหอลองกระบี่แห่งนี้ก็อึ้งไป ท่าทีแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นไม่น้อย

ชั้นที่แปด

ตูม!

เงาร่างของนักรบกระบี่ที่กลิ่นอายเรียกได้ว่าเป็นผู้กล้าชั้นยอดเคลื่อนออกมา ความแกร่งกล้าของอานุภาพไม่ด้อยไปกว่าผู้แข็งแกร่งระดับหลี่ชิงฮวน ซาหลิวฉาน ชิงเหลียนเอ๋อร์แล้ว

แต่หลินสวินไม่แม้แต่มอง ยื่นมือขวาออกไป

ซ่า!

ธารดาราเปลวเพลิงสายหนึ่งแผ่ออกมา เกิดเป็นอานุภาพน่าหวาดหวั่นที่สามารถเผาฟ้าทลายดินได้

ระหว่าง ‘ออกเดินทาง’ ช่วงหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ หลินสวินบรรลุ ‘แก่นมรรค’ ของพลังมหามรรคธาตุไฟที่ตนครอบครองอยู่ก่อนแล้ว

และตอนนี้ทันทีที่สำแดงวิชาลับชั้นยอดวิชานี้ ในพริบตาก็เหมือนกำลังหลอมละลายท้องนภาที่แท้จริง ดวงดาราดวงแล้วดวงเล่าแผดเผาระเบิดออกภายในนั้น กลายเป็นปรากฏการณ์ประหลาดน่าตื่นตระหนก

และในชั่วพริบตานั้นเช่นกัน นักรบกระบี่ผู้นี้ก็ถูกเผาวอดวาย

“ตั้งแต่เริ่มจนจบใช้เวลาไปไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วน ก็ไม่รู้ว่าชั้นที่เก้านั่นจะเป็นการทดสอบระดับไหนกัน…” หลินสวินสูดหายใจลึกๆ ครู่ต่อมาเงาร่างก็หายไปจากชั้นที่แปด

ในขณะเดียวกัน โลกภายนอกก็อึกทึกครึกโครมโดยสมบูรณ์แล้ว

“บ้าเอ๊ย! ร้ายกาจนัก เพียงชั่วพริบตาก็ฝ่าด่านไปได้อีกแล้ว!”

มีคนร้องตะโกนเสียงหลง

“หรือเจ้าหมอนั่นก็เป็นบุคคลวิปริตที่เหยียบย่างบนมกุฎมรรคาผู้หนึ่ง”

มีคนพึมพำเสียงสั่นเครือ

ทั้งยังมีคนสีหน้าแปรเปลี่ยนไม่ว่างเว้น ใบหน้าชาร้อน ก่อนหน้านี้พวกเขาดูแคลนนัก เคยสบประมาทและเย้ยหยันหลินสวิน คิดว่าเขาไม่ประเมินพลังตัวเอง ต้องอับอายขายหน้าแน่

แต่ตอนนี้ความจริงกลับพลิกพลันอย่างรวดเร็วยิ่งนัก เหมือนถูกตบปากฉาดใหญ่อย่างไร้เสียง

“คนผู้นี้เป็นใครกัน หรือจะเป็นหนึ่งในสิบยักษ์ใหญ่ขอบเขตมกุฎของแดนชัยบูรพา ไม่สิ เขาไม่น่าจะเย้ยฟ้าได้ปานนั้น ในหมู่สิบยักษ์ใหญ่ไม่มีคนเช่นนี้อยู่!”

“หรือว่าเขาจะเป็นพวกร้ายกาจบน ‘กระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์’ เพียงแต่ในหมู่ยอดมกุฎสามสิบหกคนในปัจจุบัน เหมือนจะไม่มีคนที่มีคุณสมบัติไปในทางเดียวกับคนผู้นี้เลย”

“หรือว่า… เขาอยู่เหนือยอดมกุฎ… เป็นไปไม่ได้! คนพวกนั้นแต่ละคนล้วนสามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นเดียวกันได้ ด้วยฐานะของพวกเขาแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาปรากฏตัวที่นี่!”

คราวนี้ซูชิงเหอไหวหวั่นแล้ว ชั่วพริบตา สายตาก็มีรังสีอสนีสาดซัด ในใจไม่สงบนัก

ก่อนหน้านี้ยามเขาฝ่าด่านที่แปด แม้จะสบายมาก แต่ก็ใช้ความสามารถระดับหนึ่ง จึงชักช้าไปบ้าง

เมื่อเทียบกันแล้ว ความสามารถที่หลินสวินแสดงออกมาดูสะดุดตาอย่างยิ่งโดยไม่ต้องสงสัย!

แม้ตอนเริ่มจะต่างกันเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์กลับห่างกันไกล

เวลาที่ใช้ฝ่าชั้นที่แปดเหมือนจะต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ความแตกต่างในนั้นไม่ว่าใครก็ไม่อาจเพิกเฉยได้

‘ไม่ว่าเขาเป็นใคร ก็ต้องดูว่าเขาจะทำลายสถิติของอวิ๋นชิ่วไป๋ในตอนนั้นได้หรือไม่แล้ว’ เซียวชิงเหอสูดลมหายใจลึก ในส่วนลึกของจิตใจ เขาทั้งตั้งตาคอนและต่อต้าน

สำหรับผู้กล้ารุ่นเยาว์ในโลกแล้ว อวิ๋นชิ่งไป๋ก็เหมือนเงามืดชั้นหนึ่งที่กดทับเหนือเวิ้งฟ้า ความรู้สึกที่มีชีวิตอยู่ใต้เงามืดแค่คิดก็รู้ว่าน่าอึดอัดแค่ไหน

ถ้ามีคนสามารถทำลายสถิติที่เขาสร้างไว้เมื่อสิบปีก่อนได้ นี่ย่อมเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง อย่างน้อยก็พิสูจน์ว่า ตำนานของอวิ๋นชิ่งไป๋เป็นสิ่งที่ถูกทำลายลงได้!

แน่นอนว่าเป็นอวิ๋นชิ่งไป๋เมื่อสิบปีก่อน…

แต่ในขณะเดียวกัน เซียวชิงเหอกลับไม่หวังให้สถิตินี้ถูกหลินสวินทำลายลง เหมือนกับถ้าเป็นเช่นนี้จะต้องก้มหัวลงต่อหน้าหลินสวิน

ความรู้สึกเช่นนี้ชอบกลนัก ทั้งยังย้อนแย้งมาก

ในเวลานั้นคนอื่นๆ ก็จ้องเขม็งไปยังชั้นที่เก้าของหอลองกระบี่ จิตใจจดจ่อจนลืมหายใจ ดวงตาไม่กะพริบแม้สักครั้ง

ไม่เหมือนกันเซียวชิงเหอ พวกเขาส่วนใหญ่ต่างเคารพนับถืออวิ๋นชิ่งไป๋ยิ่งนัก ดังนั้นในใจจึงไม่ต้องการให้สถิตินี้ถูกผู้อื่นทำลายลง!

……

ชั้นที่เก้า

หลินสวินรู้สึกถึงแรงกดดันในที่สุด

นักรบกระบี่ฝั่งตรงข้ามมีคลื่นจิตมรรคตลบอบอวลทั้งร่าง พลานุภาพราวดวงตะวันแรงกล้าบนเวิ้งนภา รังสีเปล่งประกาย เขายืนถือกระบี่ ดั่งมหาบรรพตที่ไม่อาจสั่นคลอน

ผู้ฝึกปราณทั่วไปเมื่อเห็นดังนี้ เกรงว่ายังไม่ทันลงมือจิตวิญญาณก็ถูกทำให้หวาดผวา สูญเสียเจตจำนงต่อสู้

เขาแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

สำหรับหลินสวิน กลิ่นอายของนักรบกระบี่ผู้นี้ เทียบเท่ากับบุคคลขอบเขตมกุฎอย่างซุ่นไป๋เซวียน อวี่หลิงคง จี้ซิงเหยา

อวี่หลิงคงเคยถูกเขากำราบไปครั้งหนึ่ง ซุ่นไป๋เซวียนก็เคยเพลี่ยงพล้ำให้แก่เขาไปหนึ่งครั้ง แม้ไม่เคยประมือกับจี้ซิงเหยา แต่หลินสวินรู้ดีว่า แม้หญิงผู้นี้แข็งแกร่งกว่าสองคนนี้ ก็ไม่อาจเอาชนะตนได้!

นับประสาอะไรกับหลินสวินในตอนนี้ที่ไม่เหมือนแต่ก่อนนานแล้ว

เขาบรรลุระดับกระบวนแปรจุติขั้นปลาย พลังต่อสู้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงชนิดถอดรยางค์เปลี่ยนกระดูกอยู่ก่อนแล้ว เวลานี้ยามได้เผชิญหน้ากับนักรบกระบี่ผู้นี้ แม้จะรู้สึกกดดันแต่กลับไม่มีทางข่มขวัญเขาได้

ชิ้ง!

พูดแล้วเหมือนช้าแต่ทุกอย่างรวดเร็วนัก นักรบกระบี่ยกกระบี่ขึ้นฟันลงมา

ชั่วพริบตาเหมือนอสนีบาตสายหนึ่งฟาดลงมาจากเหนือเก้าชั้นฟ้า ดุดันและอหังการ มีท่วงท่าสังหารจักรวาล

ในขณะเดียวกันหลินสวินก็ออกโจมตี มือกำหมัด พลังหมัดราวถล่มฟ้าสะเทือนดินพุ่งซัดออกมา ห้วงอากาศใกล้เคียงพลันยุบลงไปอย่างอึกทึกครึกโครม

ผนึกของหอลองกระบี่แห่งนี้พิเศษยิ่ง ยามฝ่าด่านไม่สามารถยืมพลังจากสิ่งของภายนอก ทำได้เพียงอาศัยพลังที่แท้จริงภายในกายเข้าต่อสู้

หากไม่เป็นเช่นนี้ เกรงว่าสถิติของอวิ๋นชิ่งไป๋คงถูกทำลายไปนานแล้ว อย่างไรเสียบนโลกนี้ก็ไม่ได้มีแค่หลินสวินเท่านั้นที่ครอบครองสมบัติอริยะ

ปึงๆๆ!

การต่อสู้ปะทุขึ้น เจตกระบี่กับพลังหมัดเข้าปะทะ เกิดเป็นคลื่นน่าหวาดหวั่นแผ่กระจายออกมา

ฟุ่บ!

ฟุ่บ!

นักรบกระบี่ถูกสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่หลังจากถูกฆ่าทุกครั้ง พลังของอีกฝ่ายก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไป

ครั้งที่สิบหก

ครั้งที่สิบเจ็ด

……

เมื่อนักรบกระบี่ฟื้นคืนมาเป็นครั้งที่สิบแปด ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ของเขา ก็ทรงพลังจนทำให้หลินสวินรู้สึกตระหนก

‘เวลาผ่านไปเกือบครึ่งเค่อแล้ว’

‘ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้แต่แรก ตอนลงมือครั้งแรกก็น่าจะใส่พลังทั้งหมดไปเลย ถ้าเป็นเช่นนี้อย่างน้อยก็ประหยัดเวลาไปได้มาก…’

หลินสวินนิ่วหน้า เขาสูดหายใจลึก ยื่นมือออกไป รัศมีเทพรวมตัวแปรสภาพเป็นดาบหักเล่มหนึ่ง

สวบ!

เผชิญหน้ากับนักรบกระบี่ที่แปรเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งหาใดเทียบแล้ว เขาไม่ออมมือแต่อย่างใด สำแดงกระบวนเฉือนนภาสงัด

ทันทีที่โจมตีออกไป กาลเวลาและห้วงอากาศเหมือนตกสู่ความเงียบงันถึงที่สุด ไม่มีเสียงอีกแม้สักนิด มีเพียงคมดาบเดียว คล้ายแทงทะลุกาลเวลาและอากาศออกมา

ฟุ่บ!

เพียงการโจมตีเดียว นักรบกระบี่ก็ถูกฆ่า!

ดูเหมือนง่ายดาย แต่กลับเป็นการโจมตีที่หลินสวินใส่พลังทั้งหมดลงไป ใช้พลังของเขาไปเกือบสองส่วน!

เคร้ง!

ในเวลาเดียวกัน มีเสียงระฆังดังขึ้นที่หอลองกระบี่

ภาพตรงหน้าพร่ามัว หลินสวินถูกเคลื่อนย้ายมายังสถานที่แปลกประหลาดแห่งหนึ่ง ที่นี่มีเพียงแผ่นหยกขนาดยักษ์แผ่นหนึ่งตั้งอยู่

บนแผ่นหยกประทับชื่อสีทองอร่ามชื่อแล้วชื่อเล่า

เหนือสุดเขียนตัวอักษรอวิ๋นชิ่งไป๋ไว้ แต่ละตัวดุดันถึงที่สุด แสงส่องประกายปะทุออกมาราวกระบี่เทพไร้เทียมทาน

เพียงมองไปก็รู้สึกแสบตา ราวจิตวิญญาณถูกสะบั้น

‘ชื่อเหล่านี้ น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้แข็งแกร่งซึ่งเคยผ่านด่านชั้นที่เก้านี้ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดเหลือทิ้งไว้’ หลินสวินตระหนักได้ในใจ

จากนั้นเขาก็เห็นว่าพื้นผิวของแผ่นหยกพลิกตลบระลอกหนึ่ง ยามคืนสู่สภาพเดิม ชื่อของอวิ๋นชิ่งไป๋ก็ปรากฏขึ้นที่ตำแหน่งอันดับสองแล้ว

ตำแหน่งอันดับหนึ่งกลับว่างเปล่า

ในขณะเดียวกัน คลื่นผนึกระลอกหนึ่งก็ผุดขึ้น รวมตัวกันเป็นพู่กันเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าหลินสวิน

ทิ้งชื่อไว้บนแผ่นหยก!

ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน มีเพียงผู้ที่ฝ่าผ่านชั้นที่เก้าของหอลองกระบี่ได้ภายในหนึ่งก้านธูป ถึงสามารถทิ้งชื่อของตนไว้บนป้ายหินนี้

นี่เป็นเกียรติยศสูงสุดอย่างหนึ่ง

หากแพร่งพรายออกไป จะต้องทำให้ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนเคารพนับถือ

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์