ตูม!
บรรทัดหยกถูกซัดกระเด็นอีกครา ส่งเสียงครวญไม่หยุด
หลินสวินดั่งเทพมารตนหนึ่ง ระหว่างชูมือพลังหมัดทลายอากาศ ระเบิดหมัดทรงพลัง
“อ๊าก…!” ชายหนุ่มชุดป่านร้องโหยหวน
ศิษย์แกนหลักที่จัดอยู่ในแนวหน้าของแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ผู้นี้ หลังจากประมือไม่กี่ครั้งสุดท้ายก็สู้ไม่ไหว ถูกหลินสวินซัดจนบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย กระอักเลือดคำโต
แต่สีหน้าเขายังคงเหี้ยมเกรียม ผูกพยาบาทตะเบ็งลั่น “เทพมารหลิน บนภูเขาเทพไร้มรณะนี้พวกเราล้วนไม่ตาย ต่อให้เจ้าแข็งแกร่งกว่านี้ สุดท้ายก็ต้องมีช่วงที่อ่อนแอหมดกำลัง!”
ตูม!
พลังหมัดเคลื่อนกวาด ทำจนร่างเขาแตกละเอียด หลินสวินไม่ลังเลอะไรส่งหมัดออกสังหารอีกครา
กลางห้วงอากาศ ชายหนุ่มชุดป่านร่างระเบิดหายลับไป
“คนเยอะกำลังมาก ยังมาพูดข่มขู่ก่อนตาย ขยะเช่นนี้สมกับคำว่าผู้กล้าขอบเขตมกุฎรึ” หลินสวินสีหน้าเยียบเย็น ในดวงตาดำไร้ความปรานี
เขาหันหลังกลับ จ้องมองข่งหลิง
“เร็วเข้า! ลงมือพร้อมกัน ฆ่าเจ้ามารนี่ซะ!” ข่งหลิงหวีดร้อง ความแข็งแกร่งของหลินสวินทำให้นางหวั่นใจ จิตต่อสู้ถูกโจมตี
ชายหนุ่มชุดป่านนั่นคือบุคคลแห่งยุคคนแรกที่ถูกคัดออกหลังเริ่มต่อสู้
นี่ยังไม่เท่าไหร่ ที่ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกคือ เป็นบุคคลแห่งยุคเหมือนกัน แต่เขากลับไม่ใช่คู่ต่อกรของหลินสวิน!
จิตใจของผู้กล้าสำนักอื่นๆ ต่างงถูกโจมตี ต่อสู้ถึงตอนนี้ เพิ่งผ่านไปไม่นานก็มีผู้กล้ายี่สิบกว่าคนถูกสังหาร แม้ไม่ได้ตายจริง แต่ความสูญเสียเช่นนี้เรียกได้ว่าน่าตกตะลึง!
“นับแต่ก้าวสู่ยอดเขานี้ พวกเราก็ไร้ทางถอย หากไม่กำจัดเจ้ามารนี่ซะ จะให้มันฆ่าเราทีละคนรึ”
ผู้สืบทอดแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณคนหนึ่งคำราม
“กำลังคนมีจำกัด ต่อให้เขาเทพมารหลินแข็งแกร่งแค่ไหน ก็มีปราณแค่ระดับกระบวนแปรจุติเท่านั้น!”
“ฆ่า! ถึงอย่างไรก็ไม่ตาย ต่อให้ถูกคัดออก หากสามารถลากไอ้สวะนี่ให้ตายตกไปได้ก็ถือว่าคุ้มค่า!”
ปณิธานการต่อสู้ของเหล่าผู้กล้าถูกจุดขึ้นอีกครั้งทันที
ไม่ใช่พวกเขาไม่กลัวตาย แต่เพราะบนภูเขาเทพไร้มรณะนี้ไม่มีทางปรากฏ ‘ความตาย’ แต่แรก!
ฟุ่บๆๆ
เงาร่างมากมายพุ่งเข้ามา ไอสังหารแผ่พุ่ง กลิ่นอายชวนประหวั่น ทั่วร่างห้อมล้อมด้วยแสงมรรคงามตระการ
วิชามรรค วิชาลับนานัปการดั่งฝนกระหน่ำมืดฟ้ามัวดิน ครอบคลุมเหนือแท่นมรรค
สมบัติมากมายปรากฏแสงแวววาวหลากสีสัน เผยลักษณ์อัศจรรย์และอานุภาพต่างกันไป ปกคลุมมาทางหลินสวินคนเดียว
ภาพสะท้านฟ้าสะเทือนดินนั้น เพียงพอทำให้ราชันกึ่งระดับคนใดๆ ล้วนสิ้นหวัง!
ขณะนี้ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยที่กำลังใช้ใบต้นข่าวสารทองคำบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ล้วนตระหนกตกใจ ขนพองสยองเกล้า
การแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ในอดีตที่ผ่าน ไม่เคยเกิดเรื่องบ้าระห่ำชวนสะพรึงเช่นนี้มาก่อน!
หากเรื่องนี้แพร่สู่โลกภายนอก ทั้งแดนชัยบูรพา… ไม่สิ ทั่วดินแดนรกร้างโบราณเกรงว่าคงอึกทึกครึกโครมด้วยเหตุนี้แน่
แต่ขณะเดียวกันอานุภาพผงาดง้ำที่ ‘หนึ่งคนเฝ้าด่าน หมื่นฉกรรจ์ไม่อาจกล้ำกราย’ นั่นของเทพมารหลิน ก็ทำให้ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยจับจ้องอย่างลุ่มหลง โลหิตทั่วร่างเดือดพล่านตามไปด้วย
ตัวคนเดียวกรำศึกกับผู้กล้าหลากสำนัก ความอาจหาญเช่นนี้สามารถสะเทือนฟ้าดินตะวันจันทรา น่าตกตะลึงยิ่งนัก!
ตูม โครม
สถานการณ์การต่อสู้ดุเดือดกว่าเดิม เงาร่างหลินสวินเปล่งประกายยิ่งขึ้น ดุจมายาราวภาพฝัน
สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณทั่วร่างเขาลุกโชน ร้อนเร่าดั่งเตาหลอมยักษ์ รากฐานมรรควิถีที่หนาแน่นหาใดเปรียบภายในร่างถูกโคจรเต็มกำลัง
เขาในตอนนี้ผิวทุกอณูพรั่งพรูแสงมรรค เส้นผมแต่ละเส้นล้วนแวววาวสว่างไสว สะท้อนแสงชวนประหวั่น
ระหว่างที่เขาขยับตัว พลังมหามรรคส่งเสียงกัมปนาทชักนำห้วงอากาศให้สั่นสะเทือน พลังที่ปล่อยออกมาในทุกการโจมตีต่างเผยอานุภาพทำลายล้างยิ่งยวด
ชิ้ง!
แสงเยียบเย็นของกระบี่นงคราญส่องระยับ ดุดันหาใดเปรียบ จู่โจมเข้ามา
พรูด!
ขณะเดียวกันนิ้วมือหลินสวินวาดผ่าน ประหนึ่งดาบสวรรค์ทะลวงนภาคราม เจิดจ้าเฉียบคม ข่งหลิงกรีดร้อง แต่ไม่ทันได้หลีกหลบก็ถูกปาดคอ โลหิตแดงสดสาดพรมออกมา
ร่างไร้หัวของนางกลายเป็นนกยูงปีกงามตระการตัวหนึ่ง ผลคือถูกหลินสวินใช้วิชาธารดาราหลอมเพลิงเผาจนปีกกลายเป็นเถ้า ร่างโกร๋นดำไหม้เกรียมหาใดเปรียบ
หงส์ที่สลัดขนสู้ไม่ได้แม้แต่ระกา นกยูงที่ถูกเผายิ่งไม่งามตายิ่งกว่า
ที่น่าเสียดายคือชั่วพริบตาศพของข่งหลิงก็อันตรธานหายไป ไม่เช่นนั้นหลินสวินก็อยากลิ้มลองเนื้อนกยูงอยู่บ้าง
บนแท่นมรรคฝนโลหิตพร่างพรม เสียงร้องโหยหวนดังเป็นระลอกไม่หยุด
เงาร่างหลินสวินเคลื่อนย้ายเปลี่ยนผ่าน เปล่งประกายตลอดตัว พลังหมัดอานุภาพยิ่งใหญ่ ผู้กล้ามากมายระเบิดกระจุยคนแล้วคนเล่า ทั้งหมดล้วนถูกสังหารดุเดือด
ที่นี่แสงศักดิ์สิทธิ์สะเทือนเลือนลั่น วายุอสนีโถมกระหน่ำ เลือดลมดั่งมหาสมุทรไร้ขอบเขต หลินสวินตัวคนเดียวรบพุ่งอยู่ในนั้น แม้ถูกศัตรูโจมตีทั่วทิศ แต่กลับมีความอาจหาญที่หมื่นฉกรรจ์ไม่อาจกล้ำกราย!
บนแท่นมรรคโลหิตสาดพรมรวมเป็นแอ่งสีแดงสดบาดตา จากนั้นระลอกคลื่นกฎระเบียบแผ่คลุมทำให้เลือดและซากศพเหล่านั้นต่างหายลับไป
มีแค่บนศิลามังกรขดเก่าแก่นั่นที่ส่องแสงแวววาวดั่งมายาหลากสาย ประหนึ่งไส้เดือนตัวเล็กมากมายเลี้ยวลดไปมา กำลังรวมตัวกันไม่หยุด
สามารถมองเห็นได้รางๆ บนตัวมังกรบนป้ายหินนั่น ผืนเกล็ดสีเทาขมุกขมัวปรากฏแสงแวววาวน้อยๆ ดูมีจิตวิญญาณมากขึ้น
นี่คือพลังของโชควาสนามหามรรค!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์