เมื่อได้เห็นภาพนี้ในใจของนางก็อดกังวลขึ้นมาไม่ได้ มือหยกเรียวเล็กขาวสะอาดทั้งสองกำแน่นโดยไม่รู้ตัว ดวงตากระจ่างจดจ้องแน่วนิ่งบนลานประลองโชควาสนา
แม้เชื่อมั่นในตัวหลินสวินเป็นอย่างยิ่ง แต่เวลานี้นางกลับไม่อาจไม่กังวลใจ
‘วิธีการต่ำช้าเกินไป พาตัวเองขึ้นมาบนกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์กับเขา ช่างเป็นความอัปยศของพวกเรา’ เยี่ยเฉินนิ่วหน้า ในใจมีความชิงชังผุดขึ้นอย่างล้นเหลือ
แค่การแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ ทุกคนต่างอาศัยฝีมือของตัวเองก็พอแล้ว แต่โก่วเหยียนเจินผู้นี้กลับทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ได้ ทำให้เยี่ยเฉินขัดตานัก
‘เหิมเกริมไม่เกรงกลัว ไม่มีขีดจำกัด เจ้าคนแซ่โก่วผู้นี้ไม่ใช่คนดีดังคาด น่าเสียดายเทพมารหลินผู้นี้ ถ้าเขาก็ถูกคัดออกเช่นกัน การประลองต่อๆ ไปคงเสียอรรถรสไปบ้าง’ เซี่ยวชางเทียนทอดถอนใจในใจ
ที่เชิงเขา เหล่าขุมอำนาจที่มองหลินสวินเป็นศัตรูแต่ละแห่งล้วนหมายจะให้หลินสวินถูกคัดออกตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนพวกที่วางตัวเป็นกลางกลับตกใจกับวิธีการร้ายกาจของโก่วเหยียนเจิน
ทว่าขอเพียงคิดสักหน่อยก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผล
เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬชื่อเสียงเลวร้ายลือกระฉ่อน พ่นพิษทั่วสี่สมุทร ฉาวโฉ่อย่างยิ่ง แต่ที่พวกเขายังสามารถยืนหยัดในดินแดนรกร้างโบราณมาถึงตอนนี้ได้นั้นมีเหตุผลมากมาย
ดังเช่นการต่อสู้ในครั้งนี้ แม้ว่าโก่วเหยียนเจินจะแพ้ แต่ก็สำแดงอานุภาพร้ายกาจออกมาแล้ว ภายหลังหากบังเอิญพบเขาที่โลกภายนอกเข้า ขอเพียงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เกรงว่าคงไม่มีใครต้องการสร้างความยุ่งยากให้กับบุคคลโหดเหี้ยมที่กล้าเอาชีวิตเข้าแลกเช่นนี้แล้ว
“รีบดูเร็ว! เทพมารหลินยังมีชีวิตอยู่!”
ทันใดนั้นมีคนร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก
ในขณะเดียวกันฝูงชนที่ทอดสายตาจับจ้องไปบนสนามประลองโชควาสนาอยู่ก่อนแล้วต่างมองเห็น ว่าเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกับที่แสงโลหิตมลายหายไป
เป็นหลินสวินจริงๆ!
เพียงแต่ตอนนี้เขากลับโชกเลือดไปทั้งตัว สีหน้าซีดเผือด เสื้อผ้าขาดวิ่น ปากยังคงกระอักเลือดอย่างรุนแรง
ท่าทางน่าอนาถนัก!
แต่อย่างไรเขาก็ยังมีชีวิตอยู่!
ทุกคนอื้ออึงเซ็งแซ่กันโดยสมบูรณ์ราวกับได้เห็นปาฏิหาริย์ครั้งหนึ่ง
“ขนาดนี้ยังไม่ตายอีกหรือ” พวกจินมู่อวิ๋นงงงวย ทำใจเชื่อได้ยาก
เดิมทีพวกเขายังมีความสุขที่ได้เห็นผู้อื่นเป็นทุกข์ แต่ตอนนี้กลับเหมือนกินแมลงวันตายเข้าไป รู้สึกแย่ปานใดอย่าได้พูดถึงเลย
“เป็นไปไม่ได้!”
ที่ตีนเขา ชาวเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬคำราม ดวงตาแดงก่ำไปหมดแล้ว ค่าตอบแทนมหาศาลที่โก่วเหยียนเจินจ่ายออกไปเช่นนี้ กลับไม่สามารถลากอีกฝ่ายลงจากเวทีได้ดังเดิม นี่ทำให้พวกเขาไม่อาจยอมรับได้
“น่าเสียดายเกินไปแล้ว”
สำนักโบราณที่มองหลินสวินเป็นศัตรูเหล่านั้นเวลานี้ต่างอดส่ายหัวไม่ได้ หดหู่ใจนัก เทพมารหลินผู้นี้ดวงแข็งเสียจริง
“ข้าก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะไม่ถูกคัดออก เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงนัก…” จ้าวจิ่งเซวียนถอนหายใจโล่งอกยิ่งนัก อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงแทนหลินสวินอยู่บ้าง
ตอนนี้ไม่มีฝนวิญญาณเทพมาช่วยสลายอาการบาดเจ็บ ฟื้นฟูกำลังวังชา
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว หลินสวินได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ ในการประลองครั้งต่อๆ ไป ทันทีที่ถูกคู่ต่อสู้หมายหัว สถานการณ์จะต้องไม่สู้ดีแน่!
ดังคาด เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น จ้าวจิ่งเซวียนก็สังเกตได้อย่างฉับไวว่าสายตาของเหล่ายอดมกุฎรุ่นเยาว์บางคนแปรเปลี่ยนเป็นลึกลับขึ้นมา
ประหนึ่งพรานล่าสัตว์มากประสบการณ์จับจ้องเหยื่อ
โดยเฉพาะพวกจินมู่อวิ๋น หลี่ชิงผิง อวี่หลิงคง ยิ่งไม่ปกปิดจิตสังหารของพวกตนเลยสักนิด เริ่มกระสับกระสายหมายจะลงมือ
‘ถ้าข้ามีโอกาสชิงออกโรงก่อน ต้องเลือกประลองกับหนึ่งในพวกเขาสามคนเพื่อช่วยหลินสวินชิงโอกาสฟื้นฟูกำลังวังชาได้มากขึ้น!’
จ้าวจิ่งเซวียนลอบตัดสินใจ
ทันใดนั้นอาหลู่ที่อยู่บนยอดเขาอีกยอดหนึ่งตะโกนออกมาว่า “เทพมารหลิน เจ้าจะขลาดกลัวไม่ได้นะ ในแดนชัยบูรพา ข้าอาหลู่ก็มีแต่เจ้ากับเซียวชิงเหอเป็นเพื่อน ถ้าข้ามีโอกาสออกโจมตี จะต้องช่วยเจ้ากำจัดคู่แข่งทิ้งสักคน!”
สีหน้าของพวกจินมู่อวิ๋นพลันอึมครึมขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าวาจาของเจ้าคนเถื่อนผู้นี้กำลังพุ่งเป้ามาที่พวกเขา!
แทบจะในเวลาเดียวกัน มารกระบี่เยี่ยเฉินก็เอ่ยปาก “หลินสวิน อยากให้ช่วยไหม ถ้าเจ้าถูกคัดออกเสียแล้ว ข้าร่ำสุราคนเดียวไม่ใช่ว่าจะหมดสนุกไปหน่อยหรือ”
นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเอ่ยปากแล้ว ออกหน้าแทนหลินสวิน ป่าวประกาศถึงความอยุติธรรม!
พวกจินมู่อวิ๋นยิ่งสีหน้าทะมึน ต่างคิดไม่ถึงว่าเยี่ยเฉินจะถึงกับให้ความสำคัญกับหลินสวินเช่นนี้
ในสนามประลอง หลินสวินหยุดอาการไอ เช็ดรอยเลือดที่มุมปากทิ้งไปแล้วยิ้มพูดว่า “ไม่ต้องแล้ว แค่บาดเจ็บเล็กน้อยสองสามที่เท่านั้น ยังไม่ต้องให้เจ้ามาเดือดร้อนหรอก”
คุยโวอย่างไม่ละอาย!
ผู้ชมการต่อสู้ไม่น้อยแทบจะกลอกตา คนโง่ยังดูออกว่าเจ้าเทพมารหลินเลือดไหลรินไปทั้งกาย พลังปราณของเขายุ่งเหยิงร่อแร่เต็มที นี่ใช่การบาดเจ็บเล็กน้อยเสียที่ไหน
“เขากลัวขายหน้า ถูกผู้อื่นหมายหัว อย่างไรเสียต่อไปยังมีการประลองอีกสองรอบ เขาที่ได้รับบาดเจ็บต้องถูกมองเป็นเหยื่อชั้นเลิศแน่ๆ”
บางคนวิเคราะห์อย่างเชื่อมั่นในตัวเองยิ่ง ท่าทางมองความรู้สึกนึกคิดของหลินสวินออก
หลินสวินไม่ได้พูดอะไรอีก หายตัวกลับไปยังแท่นมรรคบนยอดเขา เพียงแต่ยามเพิ่งลงมาถึงเท้าก็ซวนเซ เงาร่างโงนเงน ในปากพลันไอออกมาอย่างรุนแรงครั้งหนึ่ง
“ดูเข้าสิ! จะรับไม่ไหวแล้วกระมัง ตอนนี้ขอเพียงแค่มีคนลงมือ จะต้องเอาชนะเทพมารหลินได้อย่างง่ายดายแน่!”
ผู้ชมการต่อสู้ไม่น้อยตื่นเต้นขึ้นมา
ทั้งมีคนถอนหายใจเพราะสิ่งนี้ โก่วเหยียนเจินโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว เขาระเบิดตัวเองไม่ว่า ยังทำร้ายเทพมารหลินด้วย เดิมทีเทพมารหลินยังมีโอกาสทะลวงกระดานได้ แต่ตอนนี้… เกรงว่าจะหยุดลงเสียแล้ว!
หลินสวินไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ เขานั่งขัดสมาธิกับพื้น ก้มหน้าก้มตาเอายาลูกกลอนวิญญาณชั้นดีออกมา แล้วกรอกลงปากอย่างไม่เสียดาย
ส่วนยอดมกุฎรุ่นเยาว์ที่เดิมมองหลินสวินเป็นเหยื่อบางคน ตอนนี้ออกจะควบคุมแรงกระตุ้นที่อยู่ในใจไว้ไม่อยู่แล้ว
หลินสวินในตอนนี้อยู่ในช่วงที่เจ็บหนักอ่อนแอพอดี แต่โชควาสนามหามรรคของเขากลับนำโด่ง ถ้าสามารถเอาชนะเขาได้ ต้องชิงพลังโชควาสนาที่เหนือธรรมดายิ่งมาครองได้แน่!
เมื่อเผชิญกับสายตาเหล่านี้ หลินสวินก็ทำเพียงนิ่วหน้าไอ ทั้งยังคายเลือดออกมาคำหนึ่ง ท่าทางบาดเจ็บสาหัส
‘เสแสร้งเก่งเกินไปแล้ว’ จ้าวจิ่งเซวียนต่อว่าในใจไม่หยุด
‘โอกาสเช่นนี้ ถ้าถูกข้าเอาไป ไม่เพียงสามารถบดขยี้เทพมารหลินได้โดยสมบูรณ์ ยังสามารถชิงโชควาสนามหามรรคของเขามาได้ด้วย เรียกได้ว่ายิงธนูครั้งเดียวได้นกสองตัว เพียงแต่ทุกคนต่างมองจุดนี้ออก ก็ไม่รู้ว่าเจ้าคนโชคดีที่ไหนจะได้ประลองเป็นคนที่สอง สามารถได้ประโยชน์ไปโดยไม่เปลืองแรง…’
หลี่ชิงผิงพึมพำในใจ
หืม?
ทันใดนั้นเขาเพียงรู้สึกว่าร่างกายถูกพลังไร้รูปปกคลุม ครู่ต่อมาก็ปรากฏตัวขึ้นบนสนามประลองโชควาสนา!
นี่…
หลี่ชิงผิงเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง รู้สึกเหมือนได้ส้มหล่น ตัวเขามีความปรีดาอย่างบอกไม่ถูก
สวรรค์ช่วยชัดๆ!
เขาอดกลั้นไม่ให้ส่งเสียงหัวเราะออกมา อีกทั้งยังควบคุมความรู้สึกยินดีปรีดาของตัวเองไว้ ทำให้ตนรักษาความเยียบเย็นขึงขังไว้ได้อย่างเต็มกำลัง
ถ้าถูกคนอื่นมองออกว่าบุคคลขอบเขตมกุฎอย่างเขาจะฉวยโอกาสเอาเปรียบหลินสวินที่กำลังย่ำแย่ ใช้ความแข็งแกร่งรังแกคนอ่อนแอ พูดออกไปจะดูไม่โสภาอยู่บ้าง
‘เป็นเขาเสียอย่างนั้น!’ ในใจของมกุฎรุ่นเยาว์ไม่น้อยบังเกิดความอิจฉา ลอบด่าว่าหลี่ชิงผิงช่างโชคดีเป็นบ้า ดันชิงนำไปก่อนได้
ที่ตีนเขา ผู้ชมการต่อสู้ก็ทอดถอนใจ ต่างไม่แน่ใจอยู่บ้างว่าผลสุดท้ายเทพมารหลินนั้นโชคร้ายหรือโชคดีกันแน่
จะกล่าวว่าโชคร้าย แต่กลับรอดชีวิตจากการระเบิดตัวเองของโก่วเหยียนเจิน ทั้งยังได้รับโชควาสนามหามรรคที่เดิมเป็นของโก่วเหยียนเจินทั้งหมดมาเพิ่มเติม
แต่จะกล่าวว่าเขาโชคดี คนที่ออกมาประลองเป็นคนที่สองกลับเป็นหลี่ชิงผิงเสียอย่างนั้น!
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นอาจจะยับยั้งชั่งใจ ไม่ลงมือกับเขา
แต่หลี่ชิงผิงต่างออกไป บุคคลขอบเขตมกุฎที่มาจากสำนักยุทธ์สมุทรครามผู้นี้ ตั้งแต่ก่อนขึ้นเขาก็เผยเจตนาสังหารหลินสวินอย่างไม่ปิดบังสักนิด!
ในสถานการณ์เช่นนี้ คนโง่ยังรู้ดีว่าหลี่ชิงผิงจะเลือกทำเช่นไร
ดังคาด ก็เห็นว่าสายตาราวสายฟ้าของหลี่ชิงผิงพลันจับจ้องไปที่ร่างหลินสวิน มุมปากยกยิ้มเหี้ยมเกรียม เอ่ยอย่างเฉยชาว่า “หลินสวิน แม้เจ้าจะบาดเจ็บสาหัส แต่เจ้าน่าจะรู้ดีว่านี่เป็นการช่วงชิงโชควาสนา ภายใต้กฎเกณฑ์นี้ แม้เจ้าจะเหลือเพียงลมหายใจเดียว วันนี้ก็ต้องเดินขึ้นมาบนสนามประลองสู้กับข้าสักตั้ง!”
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์