กระบี่พรหมราชมีเปลวเพลิงพลุ่งพล่าน ขับเน้นให้เขาเป็นดั่งเซียนกระบี่ที่สังหารเด็ดเดี่ยวมาเยือนโลกา พลานุภาพดุดันหาใดเทียมนั้นทำให้ผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสไม่น้อยต่างหน้าเปลี่ยนสี
“เด็กคนนี้เพิ่งอายุยี่สิบกว่าปีกระมัง แต่ครอบครองวิชาเช่นนี้แล้ว อวิ๋นชิ่งไป๋ในตอนนั้นก็ไม่เหนือไปกว่านี้!”
“เทพมารหลินจะขายหน้าเสียแล้ว อย่าว่าแต่สามกระบวนท่าเลย ต่อให้หนึ่งร้อยหรือหนึ่งพันกระบวนท่า ก็เกรงว่าจะไม่อาจเอาชนะจินมู่อวิ๋นได้”
“เด็กคนนี้สมกับเป็นผู้นำสิบสามกระบี่แห่งสำนักกระบี่เทียมฟ้า!”
เสียงร้องตกใจดังขึ้นในที่นั้น ต่างตื่นตาไปกับอานุภาพที่จินมู่อวิ๋นสำแดงออกมา
“เขาจะทำอย่างไร”
เยี่ยเฉิน เซี่ยวชางเทียน จ้าวจิ่งเซวียน อาหลู่ อวี่หลิงคง หลี่ชิงผิง ฉู่เป่ยไห่ ปี้ตงหลิ่ว…
เหล่ายอดมกุฎรุ่นเยาว์ก็จับตามองอย่างใกล้ชิด
มีคนอยากจะให้หลินสวินอับอาย ทำตัวเองเสียหน้าเสียเอง
ทั้งมีบางคนสงสัยว่าในสถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงกล้าคุยโอ่ว่าจะได้เอาชนะในสามกระบวนท่า…
ภายใต้สายตานับหมื่นที่จับจ้อง หลินสวินรวมผมทั้งศีรษะไว้ที่ท้ายทอยอย่างลวกๆ การเคลื่อนไหวเรียบร้อย สีหน้าสงบนิ่งและเฉยชา
เพียงแต่ในดวงตาดำราวเหวลึกของเขาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยจิตต่อสู้เข้มข้นดั่งหินหนืดแผ่พุ่ง
“หืม?”
“นี่…”
ทุกคนรับรู้ได้อย่างฉับไวว่าระหว่างที่หลินสวินเคลื่อนไหวอย่างตามสบายถึงที่สุดนี้ กลิ่นอายแก่กล้าถึงที่สุดกลับแผ่พุ่งขึ้นบนกายเขา
ระหว่างงุนงง หลินสวินเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เรียบเฉยและหลุดพ้นต่างจากแต่ก่อน
บนเงาร่างผอมบางสูงโปร่งของเขามีอานุภาพอหังการประหนึ่งขุนเขา เกรียงไกรดุจเวิ้งฟ้า ประกายเทพไหวเคลื่อนระหว่างที่เขากะพริบตา
อีกทั้ง พลังบนตัวเขายังเพิ่มพูนขึ้น!
เปรียบเหมือนหุบเหวใหญ่ที่ลึกล้ำสุดหยั่งตื่นขึ้นในตอนนี้ โคจรอย่างสะเทือนเลือนลั่น
“สวรรค์!”
ผู้คนไม่น้อยใจสั่นสะท้าน ต่างรู้สึกหายใจลำบากขึ้นมา
หลินสวินในตอนนี้ดูแตกต่างอย่างยิ่งโดยไม่ต้องสงสัย
หากบอกว่าในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เขาเฉียบแหลมและจองหอง ทรงเดชและแข็งกร้าว ทำลายทุกอย่างที่จับต้องเหมือนดาบแหลมคมปราดเปรียวเล่มหนึ่ง
เช่นนั้นตัวเขาในตอนนี้กลับมีท่วงท่าเป็นผู้อยู่สูงสุดทั้งเหนือฟ้าและใต้หล้า แสงมรรคสีใสโชติช่วงพลุ่งพล่านอยู่รอบกาย ทำให้ดูน่าหวาดหวั่นไร้ที่สิ้นสุด
“เทพมารหลินร้ายนัก ถึงกับปิดบังมาจนตอนนี้ เพิ่งแสดงพลังที่แท้จริงของตนออกมา!”
เซี่ยวชางเทียนกับเยี่ยเฉินพากันจ้องเขม็ง จากนั้นจึงร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ก่อนหน้านี้เจ้าหมอนี่เก็บซ่อนพลังที่แท้จริงมาตลอด…”
ผู้ชมบางคนกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นผิดธรรมดา
เทพมารหลินตรงหน้าเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ไม่ว่าใครก็ดูออกว่าก่อนหน้านี้เขาต้องออมพลังต่อสู้มาโดยตลอด!
“น่าชังนัก!”
ยอดมกุฎรุ่นเยาว์อย่างอวี่หลิงคงและฉู่เป่ยไห่ต่างดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ ท่าทางตื่นตระหนกระคนโกรธเคือง ไม่อาจทำใจเชื่อได้
“เด็กนี่ช่างอดทนเก่งเสียจริง!”
ที่ตีนเขา ผู้แข็งแกร่งสำนักโบราณไม่น้อยต่างหน้าเปลี่ยนสี
“นี่ถึงเป็นเขา!” ดวงตาใสกระจ่างราววารีของจ้าวจิ่งเซวียนเปล่งประกายดุจดารา
“ให้ตายสิ เจ้าหมอนี่ร้ายจริงๆ มาถึงตอนนี้เพิ่งแสดงพลังที่แท้จริงออกมา!” อาหลู่ร้องออกมาอย่างประหลาด
จินมู่อวิ๋นก็หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย จากนั้นในดวงตาวาบประกายคมกริบน่าตกตะลึง เอ่ยว่า “มิน่าเจ้าถึงกล้าจองหองปานนี้ แต่เจ้าคิดว่าเพียงเท่านี้ก็สามารถเอาชนะข้าในสามกระบวนท่าได้หรือ”
เมื่อพูดเช่นนี้ออกมา ความตื่นตระหนกแต่เดิมในที่นั้นก็ลดลงไม่น้อย
แน่นอน ต่อให้เทพมารหลินแข็งแกร่งกว่านี้ แต่ก็เป็นเพียงยอดมกุฎรุ่นเยาว์ระดับกระบวนแปรจุติอยู่ดี ในฐานะที่เป็นคนรุ่นเดียวกัน จินมู่อวิ๋นจะรับแม้แต่สามกระบวนท่าไว้ไม่ไหวได้อย่างไร
คิดถึงตรงนี้ทุกคนก็ยิ่งโล่งอก
โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งสำนักกระบี่เทียมฟ้าเหล่านั้น ใบหน้ายิ่งเผยยิ้มเหี้ยม รอดูเรื่องสนุก
“ได้สิ” หลินสวินพยักหน้า สงบนิ่งและเยือกเย็น เหมือนกำลังพูดเรื่องที่ธรรมดายิ่งเรื่องหนึ่ง
เขาในตอนนี้ยามขยับตัวมีแสงมรรคปรากฏ รัศมีเทพอบอวล ประหนึ่งนายเหนือหัว มีท่วงท่าองอาจควบคุมขุนเขาธารา กลิ่นอายกลืนกินหมื่นแดนดิน
เขาไม่เหมือนเดิมแล้วจริงๆ!
ทุกคนสีหน้าประหลาด หลินสวินในตอนนนี้ถึงมีท่าทางของเทพมารโดยแท้ ทำให้ยามทุกคนมองดูอยู่ไกลๆ ล้วนรู้สึกกดดัน
จินมู่อวิ๋นเดือดดาลจนกลายเป็นยิ้ม กระบี่ที่อยู่ในมือชี้ไปยังหลินสวินซึ่งอยู่ห่างออกไป พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ข้าจะให้เจ้าต้องตบหน้าตัวเอง!”
ชิ้ง!
เขาอดไม่ไหวชิงออกโจมตีก่อนแล้ว กระบี่พรหมราชในมือพลันระเบิดเจตกระบี่เพลิงเทพคับฟ้าออกมาบดขยี้ห้วงอากาศ ประหนึ่งฝนเพลิงดาวตกระเบิดลงมาจากฟากฟ้า
กระบี่นี้ไม่เพียงทรงอำนาจยังมีอานุภาพมหามรรคไพศาล เสียงกระบี่หวีดร้องราวระเบิด ประหนึ่งจะทำลายมารในใจ ฟันพันธนาการให้แหลกสลาย พลังสะท้านสะเทือนถึงก้นบึ้งของจิตใจแผ่กระจาย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจินมู่อวิ๋นบรรลุวิถีกระบี่ถึงขั้นเหนือธรรมดาหาใดเทียบแล้ว เพียงการโจมตีเดียวก็สำแดงความสง่างามไร้ศัตรูของผู้ฝึกกระบี่ไร้เทียมทานผู้หนึ่งออกมา
ทั้งดูออกได้เช่นเดียวกันว่า แม้ไม่เชื่อว่าหลินสวินจะสามารถเอาชนะตนได้ในสามกระบวนท่า แต่ยามเขาลงมือย่อมไม่มีการออมมือแต่อย่างใด
เมื่อกระบี่โจมตีออกไป แสงสาดส่องใต้หล้า สะท้านขวัญไปทั้งสนาม!
กระบี่ที่น่าตื่นตาเช่นนี้ทำให้ยอดมกุฎรุ่นเยาว์บางคนต่างหวาดกลัว สั่นสะท้านไม่หยุด
กระบี่นี้ หลินสวินควรจะสลายเช่นไร
ไม่แน่ว่า กระทั่งตั้งรับยังกินแรงนักกระมัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์