ในการประลองรอบสุดท้ายนี้ หลินสวินได้เอาชนะจินมู่อวิ๋นกับเยี่ยเฉินอย่างต่อเนื่อง
จินมู่อวิ๋นพ่ายแพ้ในสามกระบวนท่า
เยี่ยเฉินพ่ายแพ้ให้ไพ่ตายของหลินสวิน
ตอนนี้เซี่ยวชางเทียนกำลังจะประลองกับหลินสวิน เขาจะสามารถทำลายสถิติไร้พ่ายของหลินสวินได้หรือไม่
ยากมาก!
นี่เป็นความเห็นพ้องของทุกคน
แม้เหล่าคู่ต่อสู้อย่างอวี่หลิงคง หลี่ชิงผิงที่เห็นหลินสวินเป็นศัตรู ก็จำต้องยอมรับว่าหลินสวินที่บรรลุพลังมหามรรคไปอีกขั้นได้เปรียบอย่างมาก
ทว่าเซี่ยวชางเทียนเองก็ไม่ใช่คนทั่วไป
ในขณะที่เขากับเยี่ยเฉินเสมอกัน จินมู่อวิ๋นก็พ่ายแพ้ในมือเขา
ในการประลองครั้งสุดท้าย เขาที่รู้แล้วว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินแข็งแกร่งเพียงใด แน่นอนว่าจะต้องช่วงชิงชัยอย่างสุดความสามารถ!
บนสนามประลองสีหน้าของหลินสวินนิ่งสงบและจริงจัง มองเซี่ยวชางเทียนที่ราวกับสุริยันสะดุดตาตรงหน้า ในใจก็ไม่กล้าประมาทแต่อย่างไร
การต่อสู้กับเยี่ยเฉินทำให้ไพ่ตายของเขาถูกเปิดเผยภายใต้สายตาของเซี่ยวชางเทียนแทบจะทั้งหมดแล้ว อีกฝ่ายจะต้องมีวิธีรับมืออย่างเพียงพอแล้วแน่!
ทั่วบริเวณเงียบกริบ การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น ทุกสายตาล้วนเพ่งมองมา
นี่เป็นการประลองครั้งสุดท้าย เมื่อสิ้นสุดลง ก็หมายความว่าการแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ในครั้งนี้ก็กำลังจะจบลงแล้ว
ถึงตอนนั้น ใครสามารถขึ้นจุดสูงสุด ยึดตำแหน่งหัวแถว ย่อมกลายเป็นผู้ที่คนทั่วหล้าให้ความสนใจอย่างแน่นอน
สำหรับอันดับสอง ความสนใจที่ได้รับก็จะน้อยกว่า
คนบนโลกนี้จำได้แค่อันดับหนึ่งเสมอ ส่วนอันดับสองจะเป็นใครนั้น แม้จะจำได้ แต่สิ่งแรกที่นึกถึงก่อนคือคนที่ได้อันดับหนึ่งเป็นใคร
นี่ก็คือความแตกต่าง!
……
“พวกเราตัดสินแพ้ชนะในกระบวนท่าเดียวดีหรือไม่”
เซี่ยวชางเทียนพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ ยื่นข้อเสนอหนึ่งออกมา “ขอแค่เจ้าสามารถต้านทานได้ ก็ถือว่าข้าแพ้!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทั่วทั้งลานต่างตะลึง
จากนั้นล้วนรู้สึกไร้สาระอย่างที่สุด บ้าเกินไปแล้ว!
นั่นเป็นถึงเทพมารหลินเชียว ผนวกกับศักยภาพไร้พ่ายที่สู้มาถึงตอนนี้ แค่การโจมตีเดียว มีหรือจะต้านไม่ได้
“หึ! เซี่ยวชางเทียน เก็บความฉลาดของเจ้าไปเสีย หากข้าเป็นเจ้า แม้จะแพ้ก็ต้องแพ้อย่างเด็ดเดี่ยว เหตุใดต้องทำเช่นนี้”
ห่างออกไปเยี่ยเฉินมุ่นคิ้ว รู้สึกผิดปกติ สงสัยว่าข้อเสนอนี้ของเซี่ยวชางเทียนมีความลับอื่นซ่อนอยู่
“น่าขัน เจ้าเคยเห็นข้าเซี่ยวชางเทียนใช้กลอุบายสกปรกหรือ” เซี่ยวชางเทียนยิ้มเยาะ
ด้วยความเย่อหยิ่งของเขาก็คงไม่ทำเช่นนั้นจริงๆ ทุกคนต่างรู้ถึงจุดนี้ แต่กลับไม่เข้าใจว่าเหตุใดเซี่ยวชางเทียนจึงอยากตัดสินแพ้ชนะในกระบวนท่าเดียว
“เพราะเหตุใด” หลินสวินไม่เข้าใจ
“รอสู้เสร็จค่อยบอกเหตุผลเจ้า” เซี่ยวชางเทียนยิ้มอย่างเบิกบานมาก ดวงตาเรียวยาวราวกับคมดาบเต็มไปด้วยความผงาดผยอง ท่วงท่าสง่างาม
“ได้!”
เหนือความคาดหมายของทุกคน เมื่อเผชิญกับข้อเรียกร้องที่เห็นได้ชัดว่าผิดปกตินี้ หลินสวินใคร่ครวญครู่หนึ่งก็ตอบตกลงอย่างเด็ดเดี่ยว
เดิมทีจ้าวจิ่งเซวียนยังคิดจะเตือนหลินสวินให้รอบคอบหน่อย แต่หลังจากเห็นเช่นนี้ก็อดกลั้นไว้ ยักไหล่อย่างหน่ายใจเล็กน้อย
นี่ก็คือหลินสวิน นางรู้ดีที่สุด
‘ตัดสินแพ้ชนะในกระบวนท่าเดียว หรือเจ้าหมอนี้จะอวดดีจนถึงขั้นคิดว่าหลินสวินจะต้านทานไม่ไหวแม้แต่การโจมตีเดียวของเขา’ เยี่ยเฉินขมวดคิ้ว
“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่” คนอื่นๆ เองก็แปลกใจ
ในสนามประลอง เซี่ยวชางเทียนไม่สนใจสายตาแปลกประหลาดรอบๆ มุมปากเหยียดยิ้ม เผยความมั่นใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ทั้งตัว
ชิ้ง!
เหมือนดาบดุจหวนคืนออกจากฝัก ตัวดาบดำสนิทเผยคมตะลึงโลก
ฮูม
เสื้อผ้าของเซี่ยวชางเทียนโบกพลิ้วไปตามสายลมจนเกิดเสียงดัง อานุภาพพลังเองก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย
เขาอยู่ในชุดคลุมขาว ผมแดงประหนึ่งเพลิงพลิ้วไหว เงาร่างผึ่งผายแผ่กลิ่นอายสังหารที่เผด็จการจนถึงขีดสุด สั่นสะเทือนกลางจักรวาล
สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจน ว่าเซี่ยวชางเทียนในตอนนี้เหมือนอยู่ในสนามรบทะเลเลือด กลิ่นอายกล้าหาญเด็ดเดี่ยว มีอานุภาพที่มองความตายดุจดั่งการหวนคืน
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
ที่น่าตกใจที่สุดคือ ดาบดุจหวนคืนที่ดำสนิทราวกับสีรัตติกาลในมือเขากลับส่งเสียงครวญขึ้นมา
เหมือนเพลงรบที่ดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน และประหนึ่งเสียงเป่าเขาสัตว์ที่ดังทะลุทะลวง สะเทือนใจคน ทำให้เส้นเลือดขยายอย่างรวดเร็ว
ในหูทุกคนรู้สึกเพียงความร้อนระอุอย่างหนึ่ง เลือดลมเหมือนเผาไหม้ ในอกเกิดจิตต่อสู้อันบ้าคลั่ง
นี่เหลือเชื่อมากอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแค่เสียงดาบครวญก็สามารถส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนพลังของผู้ฝึกปราณแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าการโจมตีที่เซี่ยวชางเทียนกำลังจะใช้จะต้องน่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่งแน่
ตูม!
เพียงพริบตากลิ่นอายของเซี่ยวชางเทียนเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด เขายืนอยู่ตรงนั้น ผมยาวราวกับเปลวเพลิงร่ายรำอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาสว่างไสวดุจดั่งดวงสุริยัน ดาบดุจหวนคืนในมือส่งเสียงครวญ
กลิ่นอายเข่นฆ่าอันน่ากลัวปานทำลายล้างปกคลุมเขาเอาไว้ทั้งตัว ราวกับเทพสังหารที่เหยียบย่ำภูเขาศพทะเลเลือดเข้ามา อานุภาพสยบโลกา!
ทั่วทั้งลานเงียบกริบ จิตใจถูกสั่นสะเทือน ต่างมีลางสังหรณ์อย่างหนึ่งว่าหากกระบวนท่านี้ปล่อยออกมา จะต้องเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเซี่ยวชางเทียน เพียงพอสะเทือนฟ้าดินแน่
ในเวลาเดียวกัน กลิ่นอายบนร่างหลินสวินเองก็กำลังเปลี่ยนแปลง
สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณรอบตัวราวกับหินหนืดที่พรั่งพรูเดือดพล่าน เพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุดในชั่วพริบตา ในเวลาเดียวกันโทสะหยาจื้อและวิชาอริยะยุทธ์ก็ถูกโคจรออกมาทั้งหมด
แต่…
ยังไม่พอ!
แม้อีกฝ่ายไม่เคยออกโจมตี แต่ในใจหลินสวินกลับไม่สงบอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์