ตอน ตอนที่ 1075 ทำไมถึงเป็นเขาอีกแล้ว! จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 1075 ทำไมถึงเป็นเขาอีกแล้ว! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
พรวด!
ในสนามจินมู่อวิ๋นกระอักเลือด ยอมแพ้อย่างเด็ดเดี่ยว
“เหตุใดจึงต้องยอมแพ้” เยี่ยเฉินขมวดคิ้ว เขาสัมผัสได้ว่าจินมู่อวิ๋นยังไม่ถึงขีดจำกัด
ทุกคนในที่นั้นก็ผิดคาดเช่นกัน
กลับเห็นจินมู่อวิ๋นยิ้ม หันตัวออกจากสนามประลองไปยังแท่นมรรคบนยอดเขา
เพียงแต่เงาร่างของเขาลอยอยู่กลางอากาศ ปะทุพลังน่ากลัวปานทะลวงฟ้า กระบี่พรหมราชในมือก็ส่งเสียงครวญใสราวกับฮึกเหิมเบิกบาน
เจ้าหมอนี่จะบรรลุแล้วหรือ
ทั่วทั้งลานต่างตกใจ สายตาหันขวับไปมองโดยพร้อมเพรียงกัน
บนฟากฟ้า เจตกระบี่ขมุกขมัวมากมายปรากฏขึ้น ก่อตัวเป็นดอกกระบี่ขนาดราวปากถ้วยดอกแล้วดอกเล่า ร่วงหล่นจากฟ้ากะทันหัน
ในดอกกระบี่ทุกดอกราวกับทวยเทพบัญชาการ แผ่กระจายกลิ่นอายน่ากลัวประหนึ่งสยบโลกา
ดอกกระบี่พันหมื่นดอกตกลงจากฟ้า ภาพมายาแห่งเทพมากมายปรากฏขึ้นภายใน สุดท้ายปกคลุมจินมู่อวิ๋นที่อยู่กลางอากาศเอาไว้ ขับเน้นให้เขาดูมืดครึ้มมัวหม่นไปทั้งตัว มีพลานุภาพที่น่ากลัวสายหนึ่งเพิ่มเข้ามา
“ในที่สุดมหามรรคสถูปของมู่อวิ๋นก็บรรลุถึงขั้นแก่นมรรคแล้ว!”
ตรงเชิงเขา ผู้อาวุโสสำนักกระบี่เทียมฟ้าคนหนึ่งตะโกนอย่างดีใจ ใกล้จะคลั่งแล้ว
ทั่วทั้งลานต่างสูดหายใจด้วยความตกใจ ตะลึงอย่างควบคุมไม่อยู่
มหามรรคสถูป กับอีกสามมหามรรค ‘วิเวก’ ‘นิลกาฬ’ และ ‘แดนชำระ’ ถูกเรียกรวมกันว่า ‘สี่ยอดมรรคสังหาร’ อยู่ในกระดานมรรคเทียมฟ้า พลังสังหารเรียกได้ว่าน่าสะพรึง
และที่จินมู่อวิ๋นบรรลุในตอนนี้ ก็คือการหยั่งถึงระดับแก่นมรรค นี่น่าตกใจเกินไปแล้ว
“เยี่ยเฉิน ขอบคุณมาก มีหินลับกระบี่อย่างเจ้า จึงทำให้ข้ากำจัดด่านมารจิตมรรคในเวลาอันสั้นเช่นนี้ บรรลุในคราเดียว! ฮ่าๆๆ!”
กลางอากาศจินมู่อวิ๋นหัวเราะลั่น ท่าทางหยิ่งยโส ดอกกระบี่วนเวียนรอบตัวเขา ในดอกไม้มีเทพบัญชา สะดุดตาและไม่ธรรมดามากจริงๆ
เยี่ยเฉินยิ้มเยาะ “หินลับกระบี่หรือ ไม่สู้เรียกว่าข้าช่วยเจ้าบรรลุเป้าหมายถึงจะถูก!”
“ไม่ว่าอย่างไรการแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ แม้ข้าจะสู้สามแพ้สาม แต่บรรลุได้ด้วยเรื่องนี้ก็เพียงพอจะทำให้ข้าไม่เสียดายแล้ว” จินมู่อวิ๋นท่าทางผยอง เสียงสะเทือนไปทั่ว
เหล่าผู้กล้าสีหน้าตะลึง ในใจอดสงสัยไม่ได้ว่าหากจินมู่อวิ๋นที่ผ่านการบรรลุแล้วมีโอกาสประลองกับเยี่ยเฉิน เทพมารหลินและเซี่ยวชางเทียน มีความเป็นไปได้ที่จะชนะหรือไม่
“เด็กคนนี้ช่างเป็นอัจฉริยะไม่ด้อยไปกว่าอวิ๋นชิ่งไป๋จริงๆ ด้วยความสามารถในการหยั่งรู้ระดับนี้ เกรงว่าคงสามารถชนะทุกคนในสนามประลองได้ ไม่มีใครเทียบเคียง”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักกระบี่เทียมฟ้าถอนหายใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความภาคภูมิ
“เจ้าเฒ่า มีใครจะยกยอตัวเองอย่างเจ้ากัน” อาหลู่ที่อยู่ห่างออกไปไม่พอใจ ยิ้มพูดเย้ยหยัน
“ไม่พอใจหรือ เจ้าลองหาดูสิ ทอดสายตามองไปทั่วสนามประลอง ใครทำได้ถึงขั้นนี้บ้าง” ผู้อาวุโสท่าทางเรียบเฉย ภาคภูมิใจและเย่อหยิ่งอย่างมาก
พอคำพูดนี้ออกมา ทั่วทั้งลานต่างเงียบกริบ
เป็นความจริงที่ว่าตั้งแต่การแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์เริ่มขึ้นจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครบรรลุระหว่างการต่อสู้เหมือนอย่างจินมู่อวิ๋น และยังทำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดอันโอ่อ่าเช่นนี้
อาหลู่พูดไม่ออก แต่เขาไม่มีทางยอมรับแต่เพียงเท่านี้ พลันร้องว่า “เทพมารหลิน สหาย ข้าช่วยเจ้าร้องท้าทายจนถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังไม่รู้สึกรู้สาอีกหรือ”
ทุกคนได้แต่กลอกตา เจ้าคนเถื่อนคนนี้เด็ดจริงๆ แค่คุยโวโอ้อวดก็ต้องหาพวกหรือ ไม่กลัวว่าจะขายหน้าหรือ
“เทพมารหลินหรือ เขามีดีอะไร จะเทียบมู่อวิ๋นได้อย่างไร” ผู้อาวุโสสำนักกระบี่เทียมฟ้าดูถูก ถุยน้ำลายคำหนึ่ง
ตูม!
แต่ตอนนี้เองบนแท่นมรรคยอดเขาที่หลินสวินอยู่ พลังที่ไพศาลจนไม่อาจเปรียบเทียบทะลวงฟ้าขึ้นมา สะเทือนจนชั้นเมฆเหนือฟ้าแหลกละเอียด
ท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนที่ราวกับระเบิดสายฟ้า เสียงมังกรครวญอันเก่าแก่และทรงพลังระลอกแล้วระลอกเล่าก็ดังมาจากส่วนลึกของชั้นเมฆที่แตกกระจาย
ฮูม
ชั่วพริบตาเดียว ลมซัดเมฆกรรโชก อานุภาพมังกรอันน่าสะพรึงไม่มีที่สิ้นสุดแผ่กระจายออกมา ปกคลุมฟ้าดินผืนนี้ไว้
ทุกคนรู้สึกเพียงแข็งทื่อไปทั้งตัว กายใจล้วนถูกกดข่ม จิตวิญญาณสั่นระริก รู้สึกถึงความกลัวที่มาจากจิตใจ
ท่ามกลางความมึนงง ในครรลองสายตาของทุกคนราวกับมีมังกรเจินหลงตัวหนึ่งผุดออกมาจากชั้นเมฆ กลืนเมฆคายหมอก เดี๋ยวเลือนรางเดี๋ยวชัดเจน โลดแล่นอยู่ภายในความว่างเปล่าโดยรอบ ไอคลุมเครือบนตัวเดือดพล่าน
ความยิ่งใหญ่นี้ ไม่อาจประเมิน
อานุภาพนี้ ไม่อาจวัด!
ในลานเสียงสูดหายใจด้วยความตกใจดังขึ้นเป็นระลอก ล้วนตะลึงกับเหตุการณ์นี้ หวาดหวั่นอย่างควบคุมไม่อยู่
ไอคลุมเครือแพร่กระจาย เจินหลงปรากฏตัว เสียงมังกรครวญดังก้องไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน!
ปรากฏการณ์ประหลาดระดับนี้เพียงพอจะเรียกได้ว่าตะลึงโลก!
ครืนโครม
บนท้องฟ้าอานุภาพแห่งเจินหลงปกคลุม เมฆลมสั่นไหว สภาพบรรยากาศยิ่งดูยิ่งใหญ่โอ่อ่า
“อ๊าก…!”
จินมู่อวิ๋นที่ยืนอยู่กลางอากาศอย่างเย่อหยิ่ง ตอนนี้จู่ๆ ก็ส่งเสียงกรีดร้องราวกับถูกฟ้าผ่า เงาร่างโซซัดโซเซ ถูกกดข่มจากกลางอากาศจนล้มลงบนยอดเขา สภาพสะบักสะบอม
แม้แต่ ‘ดอกกระบี่’ และ ‘เทพ’ ที่สะท้อนออกมารอบตัวเขาก็จางลงและสลายไปด้วย
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ปรากฏการณ์ประหลาดสลายไปเท่านั้น ไม่ได้หมายความถึงอย่างอื่น ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังคงทำให้จินมู่อวิ๋นทั้งโกรธทั้งตกใจ
เขาในก่อนหน้านี้บรรลุแก่นมรรคแห่งสถูป ได้ใจอย่างมาก ภาคภูมิและปิติยินดี เป็นที่สนใจของทุกคน มาดฉายประกายส่อง
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะดื่มด่ำความรู้สึกที่ถูกชื่นชมเช่นนี้ให้พอใจก็ถูกขวางกลางคัน ปรากฏการณ์ประหลาดสลาย นี่จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร
ใครกัน?
เป็นใครกันแน่?
เจินหลงก็เหมือนกับหงส์เซียน ล้วนเป็นการดำรงอยู่เกือบจะเป็นตำนาน เลือนรางอย่างที่สุด แม้อยู่ในสมัยบรรพกาลก็น้อยมากที่จะปรากฏสู่โลก
ถึงขั้นมีคนสงสัยว่า เจินหลงกับหงส์เซียนมีจริงหรือไม่!
และบนภูเขาเทพไร้มรณะในตอนนี้ หากจะบอกว่าใครที่คล้ายจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าเจินหลง ก็มีเพียงเยี่ยนจั่นชิวแล้ว
บุคคลแห่งยุคของแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณคนนี้ แม้จะเป็นทายาทสายตรงของตระกูลเยี่ย แต่เผ่ามารดาของเขากลับเหมือนว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าเจินหลง
‘เจ้านี่ไม่ใช่ลูกหลานเผ่าเจินหลงเด็ดขาด แต่เป็นโจรที่น่ารังเกียจ!’ ในใจเยี่ยนจั่นชิวขึ้งโกรธ สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูเยียบเย็นและไม่น่าดูผิดปกติ
มีเพียงเขาที่รู้ดีว่าหลินสวินกับเผ่าเจินหลงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กัน นัยเร้นลับแห่งเจินหลงที่อีกฝ่ายครอบครอง หยั่งรู้มาจากมรดกวิชามังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร!
“ขออภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ข้าเพียงควบคุมตัวเองไม่อยู่…” ตอนนี้เองหลินสวินพลันลุกขึ้นพูดกับจินมู่อวิ๋น
ควบคุมตัวเองไม่อยู่หรือ
ใครจะเชื่อ!
จินมู่อวิ๋นแค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างเย็นเยียบคราหนึ่ง ละสายตาออก เขากลัวว่าขืนมองนานไปกว่านี้ จะโกรธจนสภาวะจิตไม่มั่นคง ในใจปรากฏเงามืดอีกครั้ง…
“ฮ่าๆๆ เช่นนี้ย่อมดีที่สุด หลินสวิน อย่าลืมกำราบเจ้าเซี่ยวชางเทียนให้หนักๆ!” เยี่ยเฉินหัวเราะลั่น
ทำให้ทุกคนเพิ่งตระหนักได้ว่า การประลองรอบที่ห้าได้จบลงแล้ว ต่อไปจะเป็นการประลองรอบที่หกแล้ว
และนี่ก็เป็นการประลองรอบสุดท้ายของการแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ในครั้งนี้!
หากเซี่ยวชางเทียนชนะ เขาก็สามารถขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่ง ด้วยผลงานชนะสองเสมอหนึ่งจากการแข่งขันสามรอบ
เช่นเดียวกัน หากหลินสวินชนะ ก็เท่ากับชนะมาตลอดการแข่งขัน และขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยสถิติไร้พ่าย!
“เทพมารหลินนี่ ครั้งนี้เกรงว่าจะกลายเป็นอันดับหนึ่งของกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์แล้ว…”
สีหน้าของผู้อาวุโสหลายคนต่างซับซ้อน ตอนนี้หลินสวินบรรลุพลังมหามรรคอีก แม้เป็นเซี่ยวชางเทียนก็ยังยากจะมีโอกาสชนะ
สีหน้าของคนอื่นๆ เองก็เป็นเช่นนี้ ซับซ้อนหลากสีสัน
การแข่งขันกระดานยอดมกุฎรุ่นเยาว์ในครั้งนี้ รวบรวมบุคคลขอบเขตมกุฎแห่งสี่แดนวิภูของดินแดนรกร้างโบราณ มีบุคคลแห่งยุคของสำนักโบราณมากมายเข้าร่วม ศักยภาพโดยรวมมากกว่าการแข่งขันรอบที่ผ่านๆ มา!
แต่สุดท้ายกลับให้คนที่ไร้พรรคไร้สำนักอย่างหลินสวิน คนหนุ่มที่มาจากโลกชั้นล่างคนหนึ่ง เปิดทางจากการปิดล้อมอันหนาแน่น เหยียบร่างมากมายของผู้กล้า กลายเป็นหนึ่งในผู้เข้าประลองครั้งสุดท้ายนี้
นี่…
เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคิดถึงเลย!
เหมือนปาฏิหาริย์ที่เป็นไปไม่ได้กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า และมีพวกเขาเป็นพยาน!
แต่ไม่ว่าคนอื่นๆ จะคิดอย่างไร ตอนนี้หลินสวินกับเซี่ยวชางเทียนต่างมาถึงในสนามแล้ว และกำลังประชันหน้ากันจากไกลๆ
การประลองครั้งสุดท้าย กำลังจะเริ่มขึ้น!
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์