โม่เจินร้องโหยหวน คิดไม่ถึงว่าตนจะต้านไม่ได้แม้แต่หมัดเดียวของหลินสวิน!
นี่สั่นสะท้านใจคนเกินไป
ตูม!
ประกายดาวเจิดจรัสผสานรวมหน้ากำปั้น ออกทะลวงสังหารอีกครา
ด้านหลังหมัดคือใบหน้าเยียบเย็นและเฉยเมยของหลินสวิน
ในช่วงวิกฤติหาใดเปรียบนี้ ริมฝีปากโม่เจินพลันเปล่งเสียงหวีดแหลมอย่างที่สุดออกมา
เหนือศีรษะนางควบรวมเป็นแมวยักษ์ขนดำสนิท นัยน์ตาเขียวมรกตตัวหนึ่ง กางกรงเล็บทะยานฟ้าพุ่งตะครุบหมัดหลินสวินเต็มแรง
นี่ก็คือพลังดั้งเดิมของโม่เจิน เดิมตัวนางคือทายาทเผ่าแมวเก้าหาง ขณะนี้เพื่อรักษาชีวิตได้ใช้พลังสายเลือดโดยไม่เสียดาย
แต่ทว่าเปล่าประโยชน์ ภายใต้การบุกสังหารของหมัดหลินสวิน เงามายาแมวยักษ์นั่นก็ถูกพิฆาตในชั่วพริบตา ระเบิดแหลกกลายเป็นฝนโลหิตทั่วฟ้า
เพียงแต่โม่เจินกลับฉวยโอกาสนี้เคลื่อนหลบห่างไกล
ใบหน้างามของนางซีดเผือด เส้นผมดำปรากฏสีขาวเทาชั้นหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความตระหนกขุ่นเคืองและยากจะเชื่อ
ทุกอย่างดูเหมือนช้า แต่ความจริงล้วนสิ้นสุดชั่วพริบตา
เมื่อเห็นภาพหลินสวินสยบโม่เจินกับตาก็ทำให้ราชันคนอื่นตระหนกจนหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ รู้ว่าสถานการณ์อันตราย
คนหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกพวกเขาเห็นเป็นปลวกมด บัดนี้กลับสำแดงพลังน่าหวาดกลัวถึงขีดสุดเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจไม่ไหวหวั่น
“เร็วเข้า ลงมือพร้อมกัน! เด็กนี่สามารถยืมพลังต้องห้ามทะเลหมากดารา หากไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน พวกเราใครก็อย่าได้คิดรอดจากไป!”
โม่เจินเปล่งเสียงตะโกนอาฆาต
ขณะกล่าวหลินสวินกลับไม่ชักช้าแม้แต่น้อย รุกไล่ต่อเนื่องหมายจัดการโม่เจินก่อน
ตูม!
ทว่ากระบี่เทียมฟ้าพาดขวางเข้ามา เปล่งแสงอริยมรรคราวไม่อาจทัดเทียม คมกริบสะท้านฟ้าดินประหนึ่งไม่อาจต้านทาน
เงาร่างหลินสวินพลันชะงักไป เหวี่ยงหมัดเข้าปะทะ
กระบี่นี้มาจากจงเหวินหย่วนแห่งสำนักกระบี่เทียมฟ้า พร้อมๆ กับที่เขาบัญชากระบี่ขวางหลินสวินไว้ ก็ส่งเสียงตะโกนไปด้วย
“สหายยุทธ์โม่เจินกล่าวไม่ผิด พวกเราพกสมบัติอริยะติดตัวมา หากครั้งนี้ไม่สังหารเจ้าเดรัจฉานนี่ได้ ยังจะมีหน้ายืนหยัดในดินแดนรกร้างโบราณได้อย่างไร”
เสียงสะเทือนเลือนลั่นปั่นป่วนโดยรอบ
โม่เจินเรียกตำหนักอมตะออกมาผสานการโจมตีของจงเหวินหย่วน พุ่งสังหารหลินสวินจากอีกฝั่ง
“เด็กนี่ผงาดขึ้นเร็วเกินไป หากเขากลายเป็นราชัน ในระดับราชันใครยังจะเป็นคู่ต่อสู้เขาได้ วันนี้หากไม่กำจัดเขาให้สิ้นซาก วันหน้าก็คือตัวหายนะ!”
“ไม่ผิด เด็กนี่ครองสมบัติอริยะมีศุภโชคใหญ่ ครั้งนี้หากสามารถสังหารเขาได้ ข้ายินดีแบ่งปันสมบัติอริยะและวาสนาติดตัวเขา!”
ขณะต่อสู้จงเหวินหย่วนและโม่เจินต่างเอ่ยเชื้อเชิญราชันคนอื่นลงมือพร้อมกันไม่ว่างเว้น
ราชันคนอื่นๆ อีกสี่คนเห็นดังนี้แววตาวูบไหวไม่หยุด แต่สุดท้ายพลันกัดฟันกรอดเข้าร่วมศึก
หลินสวินอาจแข็งแกร่ง สามารถยืมพลังต้องห้ามของทะเลหมากดารา แต่พวกเขาเองก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน แต่ละคนต่างก้าวสู่ระดับราชันและครอบครองสมบัติอริยะ!
อีกทั้งก้นบึ้งของหัวใจพวกเขายังไม่อาจยอมรับ ว่าคนหนุ่มระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งจะสามารถต่อกรกับพวกเขาเหล่าราชันได้
ต่อให้พึ่งพาพลังต้องห้ามของทะเลหมากดารา แต่ก็ไม่มีทางยืนหยัดได้นานแน่!
ถึงอย่างไรสมบัติอริยะก็เหมือนกระบวนค่ายกลอริยะ หากไร้พลังและระดับขั้นที่คู่ควรกับมัน แม้สามารถใช้ประโยชน์ได้ แต่อานุภาพที่สำแดงออกมาก็มีจำกัด
กระทั่งยิ่งนานไปกลับ จะนำมาซึ่งความเสียหายมหาศาลไม่อาจคาดเดาแก่ตัวเอง!
หลินสวินมีปราณระดับกระบวนแปรจุติ นี่คือสิ่งที่แน่ใจได้ และเขายังอาศัยพลังต้องห้ามของทะเลหมากดาราต่อกรศัตรู ตัวเขาเองจะยืนหยัดได้นานเท่าไหร่กัน
ด้วยความเข้าใจนี้ เหล่าราชันจึงล้วนลงมือแล้ว!
…
พูดแล้วเหมือนช้า แต่ความจริงการต่อสู้ปะทุขึ้นนานแล้ว
ก็เห็นราชันหกคนควบคุมสมบัติอริยะนานัปการพุ่งสังหาร แต่หลินสวินไม่ตระหนกกลับยินดี!
ตูม!
ในห้วงนิมิตของหลินสวิน แผนภาพวัฏจักรดารากึกก้อง นัยเร้นลับในนั้นไม่ถึงหนึ่งในพันถูกหลินสวินควบคุมโดยสมบูรณ์ จากนั้นจึงถูกเขาใช้บนค่ายกลใหญ่วัฏจักรดาราในทะเลหมากดารา
แค่ชั่วพริบตาประกายดาวบนเวิ้งฟ้าหลั่งรินดั่งน้ำตกปกคลุมทั่วร่างหลินสวิน ทำให้อานุภาพพลังเขาเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น…
เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
เพราะนี่ไม่ใช่พลังที่เป็นของเขา แต่เป็นอานุภาพของคลื่นผนึกต้องห้าม เพียงแต่ถูกเขาใช้กระบวนค่ายกลควบคุมเท่านั้น
“ฆ่า!”
เงาร่างหลินสวินราววิวัฒน์จากแสงดารา ส่องประกายถึงขีดสุดและเปล่งแสงเจิดจ้าเหลือประมาณ ทั่วทั้งตัวเอ่อล้นด้วยคลื่นผนึกต้องห้ามเร้นลับน่าหวาดกลัว
ตัวคนเดียวเผชิญหน้าราชันหกคนที่ต่างถือสมบัติอริยะ ไม่ถอยร่นแต่กลับบุกเข้าไปสังหารด้วยตัวเอง หากแพร่ออกไปคงสั่นสะเทือนไปทั้งใต้หล้า
ใครจะกล้าอาจหาญเช่นนี้
ผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติคนไหนกล้าแข็งกร้าวเช่นนี้เล่า
ตูม!
ทันใดนั้นอาณาเขตทะเลแถบนี้มีแสงดาราโถมกระหน่ำ พลังหมัดปะทุพล่านทั่วสารทิศเป็นพันหมื่นทบ
พลังหมัดหลากสายนั่นประหนึ่งไม่มีสิ่งใดทำลายไม่ได้ เปี่ยมพลานุภาพไร้เทียมทาน ซัดกระบี่เทียมฟ้าออก ทะลวงการปกคลุมของบรรทัดสยบฟ้า ทำลายประกายศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักอมตะ…
หลินสวินปล่อยตัวไปตามหมัด ตัดขวางอหังการ
ฟ้าดินแถบนี้ต่างกำลังปั่นป่วนรุนแรง สมบัติอริยะลอยล่อง หมอกแสงดั่งพิรุณ คลื่นต่อสู้ชวนประหวั่นม้วนแผ่คลุมเก้าชั้นฟ้า สับสนอลหม่านถึงขีดสุด
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังต่อเนื่อง
เสียงกัมปนาทของสมบัติที่เข้าปะทะดังลั่น
สถานการณ์การต่อสู้ดั่งเพลิงโหมเติมเชื้อไฟ รุนแรงถึงขั้นไม่มีอะไรยิ่งกว่า!
แต่เหนือความคาดหมายทุกคน ราชันหกคนใช้สมบัติอริยะหกอย่าง อาศัยสถานการณ์ล้อมโจมตีจัดการหลินสวินคนเดียว แต่กลับไม่ได้เปรียบอะไร
กระทั่งล้วนไม่อาจสกัดการโจมตีของหลินสวินได้
นี่ทำให้พวกโม่เจิน จงเหวินหย่วนต่างสะท้านในใจ สีหน้าเคร่งครัดขึ้นเรื่อยๆ ประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์