อ่านสรุป ตอนที่ 1098 ย่างเหยียบเขามายาทมิฬ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 1098 ย่างเหยียบเขามายาทมิฬ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ต้อนอริยะ!
เหล่าอริยะที่ชมการต่อสู้ในมุมมืดต่างสูดหายใจเฮือก ไอเย็นวูบแล่นผ่านกระดูกสันหลังทะลักสู่กลางกระหม่อม แผ่สะท้านทั่วร่างประหนึ่งจมสู่ถ้ำน้ำแข็ง
ในฐานะอริยะแห่งโลกหล้า ถูกเสกให้เป็นเดรัจฉานก็อัปยศอดสูมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
แต่ยามนี้หญิงลึกลับคนนั้นยังตั้งใจจะต้อนอริยะเหมือนต้อนสัตว์ก็ไม่ปานอีก นี่… เป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของอริยะเหล่านี้ถึงขีดสุดแล้ว!
จากนี้แม้พวกเขาจะมีชีวิตอยู่ ชื่อเสียงก็ย่อมเสียหาย เชิดหน้าไม่ขึ้นอย่างแน่นอน!
นางเป็นใครกันแน่
เหล่าอริยะที่ชมการต่อสู้ในมุมมืดยิ่งรู้สึกกริ่งเกรงอยู่ในใจมากขึ้นเรื่อยๆ
และเวลานี้เอง พวกเขาพลันสังเกตเห็นว่าหญิงลึกลับที่อยู่ไกลๆ คนนั้นหมุนตัวพรึ่บ กวาดสายตามองเข้ามา พาให้อริยะเหล่านี้พากันแข็งทื่อไปทั้งร่าง
“วันนี้ข้าขอประกาศแก่ใต้หล้า จากนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนกล้าใช้วิธีผู้ใหญ่รังแกผู้น้อย ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะไปเยือนสำนักโบราณพวกเจ้าด้วยเช่นกัน”
เสียงของนางเยียบเย็นชวนสยอง พาให้สีหน้าอริยะเหล่านั้นต่างวูบไหวไม่นิ่ง
“แต่หากเป็นการต่อสู้ของคนรุ่นเดียวกัน ข้าจะไม่ยื่นมือเข้าแทรกเด็ดขาด”
ประโยคต่อมานี้ทำให้ทุกคนล้วนอึ้งค้างอย่างยิ่ง ต่างเข้าใจในทันที
การต่อสู้แย่งชิงของคนรุ่นหลัง หญิงผู้นี้คร้านจะแยแสสิ้นเชิง แต่หากใครกล้าใช้อิทธิพลขุมอำนาจสำนักโบราณของตน ไม่สนฐานะ พุ่งเป้าเล่นงานหลินสวิน เช่นนั้นนางก็จะไปเยือนด้วยตัวเอง มอบการแก้แค้นให้!
ผู้หญิงที่ลึกลับน่าหวาดกลัวไร้สิ้นสุดเช่นนี้ หากคิดแก้แค้น ไม่ว่าเป็นขุมอำนาจใด เกรงว่าล้วนต้องชั่งน้ำหนักถึงผลร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นตามมาให้ดี!
“ไปเถอะ”
หญิงลึกลับสาวเท้าก้าวออกไป ภูเขาใหญ่ธารากว้างสั่นสะเทือน เมฆลมผันเปลี่ยน แสงมงคลซ่านเซ็น ก่อให้เกิดปรากฏการณ์อันงดงามและอลังการ
และยามที่นางย่ำเท้า ก็มีรุ้งวิเศษสีทองอร่ามสายหนึ่งแผ่กว้างใต้เท้าของนาง พุ่งตัดห้วงอากาศเป็นทางยาว กางแผ่สู่ส่วนลึกของห้วงอากาศอันไร้ขอบเขต
ท่ามกลางความงุนงง ทุกคนคล้ายจะเห็นกันหมดว่าระหว่างที่หญิงลึกลับเดินไปเบื้องหน้า กลางห้วงอากาศมีมังกรเจินหลงห้อทะยาน หงส์เซียนบนร่อน เต่าดำเบิกทาง….
ประกายมงคลหลากสีสันสายแล้วสายเล่าลอยระบำ พรั่งพรูละอองแสงปานอริยเทพ ประหนึ่งกำลังอารักขาคุ้มกันหญิงลึกลับอยู่
ภาพฉากเช่นนี้ เหมือนกับจักรพรรดินีเคลื่อนทัพในตำนานชัดๆ!
“นี่…”
“ต่อให้เป็นราชันอริยะ ก็เกรงว่าจะครอบครองพลานุภาพศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ไม่ได้กระมัง”
อริยะที่มองดูอยู่ไกลๆ ใจสะท้าน เรื่องที่พบเห็นได้ยากเช่นนี้ ปาฏิหาริย์ที่ใกล้เคียงตำนาน ทำให้พวกเขาล้วนรู้สึกถึงความหวาดหวั่นและสั่นสะเทือนไร้ใดเปรียบ
ชั่วขณะนั้นเงาร่างหญิงลึกลับหายลับ มีเพียงแสงศักดิ์สิทธิ์โชติช่วง แผ่ครอบเวิ้งนภาประหนึ่งภาพฝันมายา
และที่หายไปพร้อมกับหญิงลึกลับ ยังมีหลินสวินรวมถึงแกะหนึ่งฝูงและสุนัขอีกหนึ่งตัวด้วย
เห็นได้ชัดว่านางไปต้อนอริยะจริงๆ!
……
ฟ้าดินคืนสู่ความเงียบสงัด ริมฝั่งทะเลหมากดารากลับไปเงียบสงบเหมือนก่อนหน้า
เพียงแต่เหล่าอริยะที่ชมการต่อสู้ในที่นั้นต่างจมสู่ความเงียบงัน ไม่เอ่ยวาจาเนิ่นนาน
พวกเขากำลังพยายามย่อยทุกอย่างที่ได้พบเห็นในวันนี้อยู่
อริยะหกคนปรากฏตัวก็สะท้านเมฆลมใต้หล้าแล้ว แต่ยามนี้ อริยะทั้งหกคนนี้กลับประสบเคราะห์ ถูกไล่ต้อนเหมือนเดรัจฉาน!
เหตุการณ์เหล่านี้หากเผยแพร่ออกไป ต้องก่อให้เกิดความสั่นผวาทั่วดินแดนรกร้างโบราณอย่างแน่นอน!
“นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ขุมอำนาจทั่วใต้หล้านี้ มีที่ใดยังจะกล้าเล่นงานหลินสวินเหมือนก่อนหน้านี้อีก”
“นั่นสิ เจ้าเด็กหลินสวินนี่พรสวรรค์โดดเด่น ครอบครองศักยภาพแฝงสะท้านโลกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยามนี้ยังมีที่พึ่งใหญ่โตเช่นนี้ให้พึ่งพาอาศัยอีก การผงาดขึ้นมาของเขาย่อมไม่อาจต้านทานได้แน่นอน”
“ข้าสงสัยแค่ว่า ผู้หญิงคนนั้น… เป็นใครกันแน่”
อริยะที่มาจากสำนักโบราณแตกต่างกันเหล่านี้ต่างวิพากษ์วิจารณ์ การต่อสู้เมื่อครู่นี้ทำให้พวกเขาสั่นสะท้านถึงขีดสุด
สามารถคาดการณ์ได้ว่า เรื่องนี้ต้องก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่อย่างไม่อาจปิดกั้นแน่นอน
“เฒ่าสารเลว พวกเราก็ไปดูกันหน่อยเถอะ”
อาหลู่ทำหน้าตั้งตาคอย “ต้อนแกะเชียวนะ แถมยังเป็นแกะอริยะฝูงหนึ่งอีกด้วย ภาพนี้จะต้องสูบฉีดมากเป็นแน่แท้ หาพบได้ยากตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันเ!”
นักพรตเฒ่ามอมแมมสีหน้าซับซ้อน กล่าวทอดถอนใจ “เรื่องนี้… ทางที่ดีอย่าไปร่วมวงด้วยเป็นดีที่สุด ที่มาของผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดาเอามากๆ เดิมทีข้านึกว่าในยุคบรรพกาลนางก็จะ… ใครจะไปคิด… เฮ้อ ไม่พูดดีกว่า”
อาหลู่ฟังจนงุนงงไปหมด อดกระทืบเท้าไม่ได้ “เฒ่าสารเลว เจ้าแม่งอยากพูดอะไรกันแน่”
ผัวะ!
นักพรตเฒ่ามอมแมมตบศีรษะอาหลู่อีกหนึ่งฉาด ผรุสวาท “เจ้ารีบร้อนหาอะไร อยากรู้เรื่องวงในหรือ รอให้เจ้าเหยียบย่างบนระดับมกุฎราชันให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!”
กล่าวพลางคว้าหมับ ลากอาหลู่แล้วหมุนตัวทะยานผ่านห้วงอากาศ
“เจ้าเฒ่าสารเลว เจ้าคิดจะทำอะไร ข้าไม่กลับหมู่บ้านแล้ว ข้าจะไปหาพี่ใหญ่ของข้า!” อาหลู่ตะโกนโหวกเหวก
แต่ไม่ว่าเขาจะร้องตะโกนอย่างไรก็ยังถูกพาตัวไปอยู่ดี
ใกล้ชายฝั่งทะเลหมากดารา ทุกคนทยอยจากไป เงาคนแน่นขนัดในบริเวณนี้ ท้ายที่สุดก็ค่อยๆ กลับสู่ความเงียบสงบ
……
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ข่าวสารก็แพร่สะพัดออกไป ก่อให้เกิดแรงสะเทือนทั่วดินแดนรกร้างโบราณ!
ในกลุ่มอริยะที่มาชมการต่อสู้ครั้งนี้ มีอริยะจากเผ่าวาทวาโยด้วยหนึ่งคน ข่าวสารที่มีเขากระจายออกไป ความเร็วในการแพร่สะพัดนั้นไม่อยากให้เร็วก็คงยาก
สี่แดนวิภูในดินแดนรกร้างโบราณ ไม่ว่าสถานที่ใดที่มีต้นข่าวสาร ต่างปรากฏคลื่นยักษ์เกรียวกราวทั้งสิ้น
“หกอริยะเคลื่อนทัพ คนทั้งโลกต่างคิดว่าเทพมารหลินตายแน่ ใครจะไปคิด ดันเกิดจุดพลิกผันสะท้านฟ้าเช่นนี้เสียได้!”
“สวรรค์ หญิงลึกลับคนนั้นเป็นใครกันแน่ ถึงกับสามารถกำราบเหล่าอริยะได้”
“เจ้าบ้าระห่ำที่ไหนกล้าแจ้นมาหาเรื่องเผ่าข้า รนหาที่ตาย!”
หลังการระเบิดของค่ายกลใหญ่ ทิวทัศน์เขามายาทมิฬเปลี่ยนไปทันใด บนเขาลูกนั้นปรากฏอาคารโบราณแน่นขนัดมากมายเรียงเป็นทิวแถว มองไปแล้วถึงกับไม่เห็นจุดสิ้นสุด
และเวลานี้มีเงาร่างของผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งพุ่งปราดออกมา ไอสังหารพวยพุ่ง ต่างตกใจแกมโมโหไร้ใดเปรียบ
คล้ายกับคาดไม่ถึง ว่าบนโลกใบนี้ยังมีคนใจกล้าถึงขั้นวิ่งมาอาละวาดในถิ่นของพวกเขาเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ
แต่เมื่อเห็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่อยู่นอกประตูเขา รวมถึงแกะฝูงหนึ่งและหมาดำหนึ่งตัว ผู้ฝึกปราณเหล่านี้ต่างก็ตะลึงอึ้งค้าง
ภาพนี้พิสดารเกินไปแล้ว นี่คือต้อนแกะมาปล่อยที่เขามายาทมิฬของพวกเขาหรือ แถมยังพาหมาต้อนแกะมาด้วยตัวหนึ่ง…
ช้าก่อน!
แต่เมื่อมองหมาดำตัวนั้นโดยละเอียดแล้ว ผู้ฝึกปราณเหล่านี้ต่างดวงตาแข็งทื่อ นี่มันใช่หมาต้อนแกะที่ไหนกัน เป็นคนในเผ่าพวกเขาชัดๆ!
ไม่ทันไรสีหน้าพวกเขาเปลี่ยนเป็นพิลึกพิลั่นไร้ได้เปรียบ สายตาที่มองหลินสวินและหญิงลึกลับล้วนเจือไอสังหารรุนแรง
เพียงแต่ยามที่หญิงลึกลับชำเลืองมองพวกเขาโดยผ่านๆ ปราดหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬที่ไอสังหารพลุ่งพล่านเหล่านี้ แต่ละคนล้วนตัวแข็งทื่อ จิตวิญญาณปวดแปลบ ภาพเบื้องหน้าดับวูบ จากนั้นทั้งหมดล้วนกลิ้งหลุนๆ ลงกับพื้น สลบเหมือดโดยไม่มียกเว้น
แม้แต่เสียงร้องก็ยังไม่ทันเปล่งออกมา!
นัยน์ตาหลินสวินฉายแววเวทนาวูบหนึ่ง เจ้าพวกหมาดำเหลือขอพวกนี้คงจะหยิ่งผยองจนเคยตัว ย่อมคิดไม่ถึงเด็ดขาดว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าน่าสะพรึงมากเพียงใด
“น่าเบื่อมากใช่หรือไม่” หญิงลึกลับถาม
หลินสวินส่ายหน้า กล่าวยิ้มๆ “ไม่ สะใจมาก!”
หญิงลึกลับเอ่ย “แต่ข้าไม่สะใจ ใช้วิธีผู้ใหญ่รังแกเด็ก ก็ต้องหาเด็กที่เข้าท่าส่วนหนึ่งมาข่มเหงรังแกสักหน่อย”
นัยน์ตานางทอดมองเข้าไปในส่วนลึกของเขามายาทมิฬ กล่าวว่า “พวกเราเข้าไปกัน”
กล่าวพลางนางก็ไล่ต้อนแกะทั้งฝูงและหมาดำตัวนั้นเดินไปข้างหน้า
รู้ทั้งรู้ว่าที่นี่เป็นถิ่นที่อยู่ของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ เทียบได้กับค่ายใหญ่ของสำนักโบราณฝ่ายหนึ่ง แต่หญิงลึกลับกลับมองเหมือนไร้ความหมาย บอกจะเข้าก็เข้า ความองอาจยิ่งใหญ่ที่ไหลเวียนอย่างไร้รูปนั้นพาให้หลินสวินยังเลือดเดือดพล่านไปทั่วร่าง
โครม!
พร้อมๆ กับที่หญิงลึกลับเดินไปเบื้องหน้า พลังค่ายกลใหญ่ผนึกต้องห้ามของเขามายาทมิฬถูกกระตุ้นให้สำแดงฤทธิ์ทั้งหมด แต่ก็ไม่อาจต้านทานย่างเก้าของนางได้สักนิด พังทลายทรุดครืนทีละชุ่นราวกับว่าวกระดาษ
ในกระบวนการนี้มีผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬพุ่งออกมาไม่ขาดสาย เบียดเสียดแน่นขนัดประหนึ่งกระแสน้ำเชี่ยว แต่ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็พากันทรุดฮวบลุกไม่ขึ้น!
ไม่มีสักคนที่ลุกยืนได้ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนมาขัดขวาง!
หลินสวินถูกทำให้สะท้านสะเทือนอีกครั้ง หากตนครอบครองปราณเทียมฟ้าเช่นนี้เหมือนกัน ใต้หล้าอันกว้างใหญ่นี้ ยังจะมีที่ใดที่ไปไม่ได้อีก
ต่อให้เป็นถ้ำเสือบึงมังกร ก็สามารถเหยียบย่างเสมือนพื้นราบ!
เขามายาทมิฬกว้างใหญ่ถึงที่สุด สูงลิ่วสุดขีด บนเขาห้อมล้อมด้วยไอวิญญาณ พยับเมฆหมอกขมุกขมัว ทุกแห่งหนล้วนเห็นสายธารแร่วิญญาณ หญ้าเซียนแตกหน่อ เป็นบรรยากาศของแดนสมบัติแห่งเทพเซียนอย่างแท้จริง
แต่พร้อมๆ กับการรุกล้ำของหญิงลึกลับกับหลินสวิน สถานที่พักอาศัยของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬแห่งนี้ ความสันติและเงียบสงบแต่เดิมถูกทำลาย เปลี่ยนเป็นโกลาหลอลหม่านโดยสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์