ที่แห่งนี้คือแม่น้ำพรมแดนที่แสนปั่นป่วน
ก่อนหน้านี้หลินสวินก็เคยข้ามแม่น้ำพรมแดนจากแดนฐิติประจิมสู่แดนชัยบูรพา และเคยเห็นความน่าสะพรึงภายในแม่น้ำพรมแดนมาแล้ว
แต่กลับไม่อาจเทียบชั้นกับแม่น้ำพรมแดนเบื้องหน้าได้เลย
แม่น้ำพรมแดนนี้สายน้ำขุ่นมัวเชี่ยวกราก เมฆลมสายฟ้าเต็มเปี่ยมอยู่ภายในนั้น ยังมีแสงไหลน่าสะพรึง น้ำวนรุนแรง รอยแยกบนห้วงอากาศที่ฉีกขาดอยู่ภายในนั้นเต็มไปหมด
ถึงขนาดยังได้ยินเสียงประหนึ่งเทพมารคำรามเดือดดาลเป็นพักๆ ก้องสะท้อนอยู่ในส่วนลึกของแม่น้ำพรมแดนอยู่รางๆ
เพียงแค่ทอดสายตามองไปไกลๆ ก็พาให้ก้นบึ้งหัวใจของหลินสวินหนาวเหน็บขึ้นมา
“สมัยบรรพกาล ที่แห่งนี้เคยเกิด ‘ศึกแห่งการดับสูญ’ ขึ้น มีอริยะมากมายนับพันต่างแค้นใจอยู่ที่นี่”
สีหน้าหญิงลึกลับเจือร่องรอยแห่งภวังค์ “และเพราะศึกนี้ ได้กลายเป็นสาเหตุแห่งการกระจายตัวของดินแดนรกร้างโบราณ”
ศึกแห่งการดับสูญ!
นัยน์ตาดำของหลินสวินหดรัดลง กล่าวว่า “เพราะเหตุใดถึงเกิดศึกระดับนี้ขึ้นได้”
หญิงลึกลับเอ่ย “นี่คือการต่อสู้แห่งเก้าดินแดน ไม่ว่าใครก็หลีกหนีไม่พ้น คู่ต่อสู้เหล่านั้นล้วนมาจากดินแดนอื่น หากไม่ลุกขึ้นมาต่อต้าน ป่านนี้ดินแดนรกร้างโบราณนี่คงถูกขุมอำนาจดินแดนอื่นปกครองไปนานแล้ว”
หลินสวินเคยได้ยินข่าวบางส่วนของ ‘เก้าดินแดน’ มาจากเขตหวงห้ามไร้มรณะ กลับคิดไม่ถึงว่า ‘ศึกแห่งการดับสูญ’ ที่เกิดขึ้นในสมัยบรรพกาล จะถึงกับเกี่ยวข้องกับการต่อสู้แห่งเก้าดินแดน!
และในเวลานี้ ในที่สุดหลินสวินก็กล้ามั่นใจ นอกจากดินแดนรกร้างโบราณแล้วยังมีดินแดนอื่นอยู่ด้วย!
“ผู้อาวุโส พอจะเล่าเรื่องราวดินแดนอื่นๆ ให้ข้าฟังได้หรือไม่”
หลินสวินสงสัยใคร่รู้ยิ่งนัก ดินแดนอื่นๆ อยู่ที่ไหนกันแน่ เหตุใดที่ผ่านมาถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยสักนิด
“แปดดินแดนที่เหลือก็เหมือนกับดินแดนรกร้างโบราณ ล้วนเป็นโลกฝึกปราณแห่งหนึ่ง ในแง่เนื้อแท้ไม่มีความแตกต่างอะไร”
หญิงลึกลับกล่าวสบายๆ “แต่ว่าหากเปรียบเทียบกัน ดินแดนรกร้างโบราณถือเป็นดินแดนที่อ่อนแอที่สุด อยู่ชั้นล่างสุดของเก้าดินแดน”
กล่าวถึงตรงนี้มุมปากนางยกโค้งเย็นเยียบวูบหนึ่ง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าแปดดินแดนที่เหลือมองดินแดนรกร้างโบราณอย่างไร”
หลินสวินส่ายหน้า
“แผ่นดินขยะ” ริมฝีปากหญิงลึกลับพ่นคำนี้ออกมา
“แผ่นดินขยะ?”
หลินสวินอึ้งงัน ตระหนักอย่างว่องไวว่าในคำเรียกขานนี้แฝงกลิ่นอายดูถูกเหยียดหยามอย่างยิ่งเอาไว้
หญิงลึกลับกล่าวอธิบาย “ในสายตาดินแดนรกร้างโบราณ โลกชั้นล่างก็คือสถานที่ยากจนข้นแค้นแห้งแล้งแห่งหนึ่ง และในสายตาแปดดินแดนที่เหลือ ดินแดนรกร้างโบราณก็ไม่ต่างจาก ‘โลกชั้นล่าง’ เท่าใดนัก ถูกมองว่าเป็นแผ่นดินขยะ มหามรรคเสื่อมโทรม ประหนึ่งแดนป่าเถื่อนที่ไม่เจริญ”
คราวนี้หลินสวินถึงกล้ามั่นใจว่าความรู้สึกของตนไม่ผิด คำว่า ‘แผ่นดินขยะ’ นี้เป็นคำเรียกขานที่เหยียดหยันและดูถูกดังคาด!
“สมัยบรรพกาล ดินแดนรกร้างโบราณเคยถูกแปดดินแดนอื่นรุกรานไม่เพียงแค่หนึ่งหน และทุกครั้งที่มีการรุกรานล้วนตามมาด้วยความโกลาหลทั่วโลกหล้า ทุกแห่งหนล้วนมีแต่ภาพสิ่งมีชีวิตดับสิ้น เลือดไหลเป็นสายน้ำ…”
เสียงของหญิงลึกลับเคร่งขรึม “ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือศึกแห่งการดับสูญ ขุมอำนาจแปดดินแดนร่วมมือกันรุกรานดินแดนรกร้างโบราณรอบด้าน ตอนนั้นเหมือนดั่งวันสิ้นโลก ทั่วทั้งดินแดนรกร้างโบราณล้วนปั่นป่วนโกลหล อริยะประหนึ่งผักหญ้า ดับสูญไปไม่รู้ตั้งกี่คน”
“ศึกครั้งนี้ดินแดนรกร้างโบราณถูกโจมตีจนย่อยยับ กลายสภาพเป็นสี่แดนวิภูในปัจจุบัน ส่วนจำนวนสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่บาดเจ็บล้มตายในศึกครั้งนี้มากมายไม่สามารถนับได้”
“แต่ที่บอกเจ้าได้ก็คือ หากไม่ใช่เพราะศึกแห่งการดับสูญครั้งนี้ ดินแดนรกร้างโบราณคงไม่ถูกแบ่งแยก สำนักโบราณในหล้าก็ย่อมไม่ได้มีเพียงสำนักพวกนี้อย่างแน่นอน”
“มรดกวิชาเก่าแก่มากมายล้วนมอดดับลงในตอนนั้น พาให้ผู้คนนึกเสียดายนัก”
ยิ่งพูดเสียงของหญิงลึกลับก็ยิ่งทุ้มต่ำลง เจือแววรวดร้าวและเศร้าโศก
ในใจหลินสวินค่อนข้างไม่สงบ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องการต่อสู้แห่งเก้าดินแดน เป็นครั้งแรกที่ได้ยินศึกแห่งการดับสูญ
และเป็นครั้งแรกที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการแยกตัวของดินแดนรกร้างโบราณ ถึงกับมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรุกรานของแปดดินแดนที่เหลือด้วย!
“เหตุใด… ถึงเกิดการรุกรานขึ้นได้”
หลินสวินอดถามไม่ได้
“เกี่ยวเนื่องกับการต่อสู้มหามรรค ดินแดนรกร้างโบราณถึงแม้จะอยู่ชั้นล่างสุดของเก้าดินแดน ถูกอีกแปดดินแดนที่เหลือมองเป็นแผ่นดินขยะ แต่ในตอนแรกเริ่มก็เคยเจริญรุ่งเรืองมาก่อน เคยสะเทือนขวัญดินแดนทั้งปวง ตั้งตระหง่านอยู่เหนือชั้นฟ้า ถูกมองเป็นดินแดนอริยเทพที่ไม่เสื่อมสลาย!”
กล่าวถึงตรงนี้กลิ่นอายทั้งตัวของหญิงลึกลับก็เปลี่ยนไปแล้ว เจือแววผงาดผยองและภาคภูมิใจอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบเทียมได้
แต่ไม่นานนางก็ทอดถอนใจแผ่วเบา “อย่าพูดถึงเลย เรื่องเก่าๆ พวกนี้ล้วนผ่านไปแล้ว ความเจริญไม่มี ความรุ่งเรืองไม่อยู่ ผลสุดท้ายก็เหมือนดอกไม้ที่ร่วงโรย เหลือเพียงความเหี่ยวแห้ง”
หลินสวินอึ้งงัน สภาพจิตใจสับสนวุ่นวาย
ทุกอย่างที่ได้ยินได้ฟังในเวลานี้เกี่ยวโยงกับเก้าดินแดน และเกี่ยวโยงกับอดีตของดินแดนรกร้างโบราณ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเข้าใจและสัมผัสมาก่อน
ตอนนี้โชคดีที่ได้รู้ แต่จิตใจกลับหนึกอึ้งบอกไม่ถูก
“เรื่องพวกนี้ยังไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าในตอนนี้ และไม่จำเป็นต้องกลัดกลุ้มไปกับมัน ที่เจ้าต้องทำก็คือคว้าโอกาสที่มหายุคกำลังจะมาเยือน มุมานะอุตสาหะบรรลุสู่ขอบเขตมกุฎระดับราชัน”
เสียงของหญิงลึกลับเนิบนาบ สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่สุด “หากพลาดไป ต่อไปเกรงว่าคงไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว”
ในใจหลินสวินสะท้านไหว พยักหน้าอย่างจริงจัง
“มหายุคครั้งนี้ มีคนมากมายพากันเฝ้ารอ ไม่เพียงคนในโลกปัจจุบันเท่านั้น พวกที่หลับใหลอยู่ในแม่น้ำแห่งกาลเวลาส่วนหนึ่งก็จะตื่นจากการหลับใหล เยื้องย่างออกมาจากการจำศีลอย่างแน่นอน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์