เทพมารหลินเขา…
ก่อความวุ่นวายได้อย่างห้าวหาญจริงๆ!
เพียงประโยคเดียวทำให้สภาพจิตใจของทุกคนในที่นั้นปั่นป่วน สีหน้าเจือด้วยความสั่นสะท้านและเลื่อมใส
ในอดีตหลินสวินก็มีชื่อด้านความกล้าหาญเกินใคร โอหังไม่หวั่นกลัว ก่อให้เกิดคลื่นลมซัดสาดในแดนฐิติประจิมและแดนชัยบูรพาไม่รู้กี่ครั้ง ได้รับการขนานนามให้เป็น ‘เทพมาร’
เพียงแต่ช่วงไม่นานมานี้ ฟ้าดินแห่งนี้เหมือนกลายเป็นเวทีให้ปีศาจยุคโบราณจากทั่วสารทิศสำแดงความล้ำเลิศนำหน้า เผยอานุภาพอัศจรรย์
ใครจะคิดได้ว่ายามประลองกับจินเซี่ยวหมิงในวันนี้ เขากลับสง่างามยิ่งกว่าแต่ก่อน ทั้งยังรังเกียจที่อีกฝ่ายอ่อนแอเกินไปด้วย…
“เฮ้อ ความโดดเด่นถูกเขาชิงไปเสียแล้ว” เจ้าคางคกบ่นกระปอดกระแปด
อาหลู่ตบไหล่เขา เอ่ยปลอบใจว่า “อย่างไรเขาก็เป็นพี่ใหญ่ พวกเราจะไปชิงความโดดเด่นของเขาได้อย่างไร”
“หลินสวิน เจ้ามันสมควรตายจริงๆ!”
จินเซี่ยวหมิงตะคอกอย่างเย็นชา โกรธจนไอสังหารทั้งร่างพุ่งทะลุเมฆา แสงเขียวคับฟ้าปกคลุมทุกแห่งหน ตั้งแต่ปรากฏตัวบนโลกคราวนี้ เขาเคยถูกผู้อื่นเหยียดหยามขนาดนี้เสียที่ไหน
ทั้งยังถูกรังเกียจว่าอ่อนแอเกินไป นี่ทำให้เขาโกรธจนแทบคลุ้มคลั่ง
ตูม!
เหนือเวิ้งฟ้าจินเซี่ยวหมิงเรียกกระบี่ศึกกว้างเล่มหนึ่งออกมา ลายมรรคสีทองหลั่งไหล ตระการตาหาใดเทียบ พุ่งกวาดพิฆาต พลานุภาพยิ่งดูน่าตื่นตะลึง ดุร้ายยิ่งนัก
ปึง!
พลังหมัดของหลินสวินดิบเถื่อนตรงไปตรงมา สะท้านฟ้าสะเทือนดิน ไม่มีสิ่งใดไม่อาจทำลาย ไม่ว่าอีกฝ่ายจะจู่โจมอย่างไรก็ล้วนถูกเขาใช้พลังหมดบดขยี้ให้แหลกสลายทั้งสิ้น
“ข้าสงสัยนักว่าเจ้าเป็นสัตว์ประหลาดยุคโบราณหรือไม่กันแน่ ทำไมถึงอ่อนแอปานนี้” หลินสวินนิ่วหน้า ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
ก่อนหน้านี้เขายังนึกว่าหาคู่ตัวสู้ตัวฉกาจผู้หนึ่งเจอแล้ว หมายจะถือโอกาสนี้มาคาดคะเนรากฐานพลังของสัตว์ประหลาดยุคโบราณเหล่านั้น
นี่ทำให้หลินสวินผิดหวังอยู่บ้างจริงๆ ไม่ใช่การจงใจเหยียดหยามหรือเยาะเย้ยอีกฝ่าย
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
จินเซี่ยวหมิงสีหน้าพลันแปรเปลี่ยนเป็นอึมครึมคล้ำเขียวถึงที่สุด โกรธจนปอดแทบระเบิด เขามีฐานะเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎของเผ่างูราชันทองคำ ตั้งแต่ก่อนหน้านี้นานมาแล้วเขาก็ทะลวงระดับบรรลุสูงสุดของมรรคา มีพลังมากพอให้ภูมิใจในตนเอง
ใครจะคิดว่าคราวนี้กลับถูกหลินสวินฉีกหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้ นี่ทำให้เขาไม่หงุดหงิดได้หรือ
ตูม!
ฉับพลันทันใดเหนือเวิ้งฟ้าปรากฏประกายกระบี่คมหนาแน่นหาใดเทียบ แต่ละสายล้วนคมกริบไร้เทียมทาน มีมากมายนับหมื่นพันแผ่ขยายไปในห้วงอากาศ ส่งเสียงเคร้งๆ ประหนึ่งธารกระบี่สายใหญ่!
นี่เป็นกระบวนท่าสังหารของจินเซี่ยวหมิง เจตกระบี่ราวสายธาร คมกระบี่ราวสมุทร!
คมกระบี่ทุกสายประหนึ่งผู้ฝึกกระบี่ทรงพลังผู้หนึ่ง คมกระบี่นับหมื่นนับพันสายปรากฏขึ้นราวกองทัพผู้ฝึกกระบี่ทัพหนึ่ง สภาพการณ์น่าหวาดหวั่น
ในที่สุดหลินสวินก็รู้สึกถึงกลิ่นอายอันตราย แต่ไม่ตระหนกกลับยินดี
เขาส่งเสียงเบาๆ ครั้งหนึ่ง โคจรพลังทั่วร่าง ชั่วพริบตาก็กระแทกพลังหมัดนับร้อยพันออกมาอย่างต่อเนื่อง ประหนึ่งมังกรกล้าตัวแล้วตัวเล่าทะยานฟ้า กระหวัดตัวกลางอากาศ เบียดตัวแน่นไปทั้งฟ้าดิน!
ปังๆๆ!
คมประบี่แผ่พุ่ง พลังหมัดกึกก้อง ปะทะกันกลางอากาศ ภาพการณ์พลันน่าหวาดหวั่นขึ้นมา ทำให้ในบริเวณนี้เต็มไปด้วยความปั่นป่วน
คมกระบี่บางส่วนถูกสกัดขวาง แต่ยังอีกส่วนกรีดทึ้งห้วงอากาศ พุ่งสังหารไปทางหลินสวิน
รอบกายหลินสวินปรากฎอักษรเคราะห์อันอัศจรรย์และคลุมเครือซึ่งมีรูปลักษณ์แตกต่างกันเก้าตัว ลอยวนเวียนในห้วงอากาศ สลายและคลี่คลายคมกระบี่พวกนี้ได้อย่างง่ายดาย
ฟุ่บๆๆ!
ยังมีคมกระบี่บางส่วนแทงไปที่อื่น แสงเขียวถาโถมทันใด ทำให้พื้นดินหลอมละลาย ภูผาพงไพรยุบตัว เกิดกลิ่นอายทำลายล้างน่าหวาดหวั่น
“ฆ่า!”
จินเซี่ยวหมิงยิ่งดุร้าย พุ่งเข้าไปในห้วงอากาศ เจตกระบี่เทลงมาราวภูผาถล่มทะเลหวีดร้อง ท่วงท่าเหี้ยมหาญหาใดเทียบเช่นนั้นทำให้หลายคนต่างใจสั่นระรัวไม่ว่างเว้น
แต่ไม่ว่าเขาจะโจมตีอย่างไร รอบกายหลินสวินมีอักษรเคราะห์ปรากฏขึ้น ประหนึ่งหมื่นวิชาไม่อาจกล้ำกราย!
หนำซ้ำพลังหมัดที่เขาโคจร ทุกการโจมตีล้วนหนักหน่วงทรงพลัง แข็งแกร่งเกินต้านทาน ทำให้จินเซี่ยวหมิงถูกขวางอยู่ตลอด ไม่อาจเข้าใกล้ได้ อัดอั้นจนแทบคลุ้มคลั่ง
ตูม!
ทันใดนั้นจินเซี่ยวหมิงแปลงร่างเป็นงูยักษ์ทองคำตัวหนึ่ง ร่างยาวถึงพันจั้งปกคลุมด้วยเกล็ดงูสีทองเจิดจรัส ศีรษะมีเขามังกรงอก ดวงตามรกต ยามอ้าปากเหมือนสามารถกลืนกินสุริยันจันทราได้!
อานุภาพดุดันน่ากลัวหาใดเทียบก็อบอวลออกมาด้วย มองดูจากไกลๆ ช่างเหมือนเจินหลงสีทองตัวหนึ่ง ทำให้ทุกคนเกิดความหวาดหวั่น
โครม!
งูยักษ์สีทองสะบัดหาง ประหนึ่งฟ้าถล่มผืนดินแตกแยก ร่างกายเกี่ยวกระหวัดราวดวงอาทิตย์สีทอง แสงเทพไร้ที่สิ้นสุดระเบิดออกมา กลิ่นอายน่าครั่นคร้าม
“สวรรค์! ถึงกับบีบให้จินเซี่ยวหมิงผู้นี้เผยร่างจริง!”
“งูราชันทองคำ นี่เป็นถึงเผ่าเก่าแก่น่ากลัวเผ่าหนึ่ง ในยุคบรรพกาลจัดอยู่ในหมู่ร้อยปีศาจใต้หล้า อ้าปากสามารถกลืนกินสมุทรธารา พลิกกายสามารถกดข่มภูผานที!”
ทั้งที่นั้นสั่นสะท้าน ไม่อาจสงบลงได้แล้ว
หลินสวินไม่กลัว ใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งและโคจรพลังเจินหลง ระหว่างนั้นเขาเหมือนแปลงกายเป็นเจินหลงตัวหนึ่ง ชูคอในห้วงอากาศ อานุภาพมังกรอบอวลสั่นสะท้านโลกหล้า
ครืน!
แสงเทพแผ่พุ่งระหว่างทั้งสองคน ราวมังกรและงูขู่ฟ่อ พลังต่อสู้ปะทะกัน ห้ำหั่นจนฟ้าดินมืดหม่น สุริยันจันทราอับแสง
เกล็ดงูบางแผ่นหล่นลงมาเป็นระยะ เจือแสงมรกต และยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
ในขณะเดียวกันหลินสวินก็ถูกซัดสะเทือนจนถอยหลังไปบ้างเช่นกัน
นี่ทำให้เขาเคร่งครัดขึ้น สมกับเป็นบุคคลขอบเขตมกุฎชั้นสูงสุด แม้จินเซี่ยวหมิงจะเย่อหยิ่งจองหองหาใดเทียบ แต่พลังต่อสู้ก็ไม่อาจดูเบาได้จริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์