วานรเฒ่าชุดเขียวกล่าว “คุณชายน้อย ท่านพูดผิดแล้ว คัมภีร์มรดกมรรคของเผ่าเราถูกเจ้าหนูนี่หยั่งถึงด้วยตัวเอง และข้าแค่มอบโอกาสหนึ่งแก่เขาเท่านั้น”
เด็กหนุ่มชุดไหมตะลึงงัน “ท่าน… เหตุใดต้องทำเช่นนี้”
วานรเฒ่าชุดเขียวสีหน้าลุ่มลึก กล่าวว่า “เพื่อผูกวาสนาหนึ่งแก่คุณชายน้อย”
“ผูกวาสนา?”
เด็กหนุ่มชุดไหมเกือบคิดว่าหูฝาด กล่าวเยาะหยัน “ด้วยรากฐานพลังของเผ่าข้า ไยต้องทำเช่นนี้เล่า ข้าไม่สนอะไรมากขนาดนั้น ข้ารู้แค่ว่าเจ้าเด็กนี่เคยแย่งของของข้าไป ความแค้นนี้สุดท้ายแล้วต้องเอาคืน!”
วานรเฒ่าชุดเขียวทอดถอนใจกล่าว “หากเป็นเช่นนี้ คุณชายน้อยรับปากข้าเรื่องหนึ่งได้หรือไม่”
“ท่านว่ามาเถิด”
เด็กหนุ่มชุดไหมแม้ดื้อรันไม่โอนอ่อน แต่กลับเคารพวานรเฒ่าชุดเขียวพอควร
“หากหมายเป็นศัตรูกับเด็กคนนี้ ขอคุณชายน้อยโปรดยั้งมือไว้ไมตรี”
วานรเฒ่าชุดเขียวสีหน้าจริงจังขึ้นมาอย่างยากจะเห็น
เห็นดังนี้ในใจเด็กหนุ่มชุดไหมไม่พอใจนัก สีหน้าอึมครึมขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ยังกัดฟันกล่าว “ได้ วันนี้ข้ารับปากท่าน หลังจากนี้ยามแก้แค้นข้าหยวนฝ่าเทียนสัญญาว่าจะไม่ซัดเขาถึงตาย!”
หัวคิ้ววานรเฒ่าชุดเขียวขมวดมุ่นอย่างยากสังเกตเห็น มองเด็กหนุ่มที่ดื้อรั้นและเอาแต่ใจตรงหน้าแล้วไม่พูดมากเรื่องอีก
เขาเอ่ยถึงเรื่องอื่นต่อ “ไม่เกินครึ่งเดือน แท่นมรรคบูชาอริยะก็จะมาเยือนโลกหล้า รวมทั้งสิ้นสามพันแห่ง กระจายอยู่ในแต่ละอาณาเขตของดินแดนรกร้างโบราณ พวกเราควรเตรียมการล่วงหน้าบ้างแล้ว”
เด็กหนุ่มชุดไหมที่เรียกตัวเองว่าหยวนฝ่าเทียนใจกระตุกวูบ เขารู้ดีว่าแท่นมรรคบูชาอริยะคือจุดเชื่อมต่อของแดนมกุฎ!
…
“คุณชาย เหตุใดก่อนหน้านี้ท่านต้องอดทนด้วยขอรับ”
ข้ากระบี่ไม่อาจอดกลั้น เอ่ยถามออกมา
“เด็กหนุ่มชุดไหมนั่นไม่น่าหวาดกลัวพอ แต่ข้างกายเขากลับมีอริยะคนหนึ่งตามมาด้วย หากลงมือไปผลที่ตามมาคงยากคาดเดา”
ทันทีที่คำพูดอวิ๋นชิ่งไป๋ดังขึ้น ข้ากระบี่แข็งทื่อไปทั้งตัว ตกใจจนเกือบกัดลิ้นตนเอง เจ้าหมอนั่นเป็นอริยเทพจากไหนกันแน่ ข้างกายถึงได้มีอริยะผู้หนึ่งคอยปกป้อง
ยิ่งคิดในใจข้ากระบี่ก็ยิ่งนึกกลัว
อริยเทพไม่อาจล่วงเกิน ประโยคนี้ไม่ใช่ว่าพูดกันเล่นๆ!
“เจ้าคิดว่าอริยะน่ากลัวมากรึ” อวิ๋นชิ่งไป๋พลันเอ่ยถาม
ข้ากระบี่พยักหน้าตามจิตใต้สำนึก
อวิ๋นชิ่งไป๋ยิ้มเยาะกล่าว “เจ้ารู้แค่อริยเทพไม่อาจล่วงเกิน แต่ไม่รู้ว่าอริยเทพก็มีช่วงที่กลายเป็นวัชพืช”
พูดจบเขาไม่กล่าวมากความอีก อาภรณ์ขาวพลิ้วไหว เงาร่างหยิ่งทะนงโดดเด่นมุ่งไปยังที่ห่างไกล
ข้ากระบี่ชะงักงันก่อน จากนั้นจึงพลันตระหนก สุดท้ายก็สูดหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง ในสายตาคุณชายอริยเทพก็ไม่น่ากลัวพอหรอกรึ
…
แคว้นหมึกขาว
หลินสวินและอาหลู่กำลังร่ำสุราในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง
ไม่นานเจ้าคางคกก็ปรากฏตัวอย่างเหน็ดเหนื่อย ยกกาสุรากระดกดื่มครู่หนึ่งถึงค่อยกล่าวอย่างห่อเหี่ยว “ไม่มีทางติดต่อยัยหนูจ้าวจิ่งเซวียนนั่นได้เลย ข้าพยายามเต็มที่กว่าจะสืบข่าวได้ว่านางกำลังปิดด่าน บอกว่ากำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่แดนมกุฎ”
ในใจหลินสวินผิดหวังอยู่บ้างเล็กน้อย
เดิมเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเชิญจ้าวจิ่งเซวียนร่วมเคลื่อนไหวพร้อมกัน
แต่ดูท่าตอนนี้เห็นชัดว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว
“ไปเถอะ ถึงอย่างไรหลังเข้าสู่แดนมกุฎก็ยังมีโอกาสพบกัน” เจ้าคางคกกล่าว
“ไป? ไปไหน?”
อาหลู่อึ้งงัน
เจ้าคางคกยิ้มมีเลศนัย กล่าวว่า “ไปชิงหนทางเข้าสู่แดนมกุฎที่ปลอดภัยที่สุด อ้อ หากข้าจำไม่ผิดที่นั่นเหมือนจะห่างจาก ‘หุบเขาตะวันคล้อย’ ไม่ไกลนัก…”
วันนั้นพวกหลินสวินจึงออกจากแคว้นหมึกขาว สัญจรผ่านภูผาธาราและเมืองต่างๆ โดยมีเจ้าคางคกนำทาง เดินทางหามรุ่งหามค่ำตลอดทางไม่เคยหยุดพัก
ผ่านไปสามวัน ในเทือกเขาดึกดำบรรพ์รกร้างแถบหนึ่ง
เจ้าคางคกพลันเงยหน้ามองโดยรอบแล้วกล่าว “ความเร็วของการเปลี่ยนแปลงในฟ้าดินนับวันยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างเทือกเขามีไอวิญญาณหอมกรุ่นยิ่งกว่าสมัยบรรพกาล!”
หลินสวินและอาหลู่ต่างพยักหน้า
หลายวันมานี้พวกเขาเดินทางผ่านเทือกเขา แม่น้ำ ปลักหล่ม ทะเลทรายกว้างใหญ่ ตลอดทางเห็น ‘การเปลี่ยนแปลงชวนตะลึง’ นานัปการมามาก
บนทุ่งรกร้างบางแห่งจู่ๆ ก็เกิดรอยแยกเหวลึกมหึมา มีหมอกควันสีดำประหลาดทะลวงขึ้นเหนือเมฆ ทำให้กลางวันราวตกอยู่ในรัตติกาลอันมืดมิด
บนเทือกเขาบางแห่งพลันเกิดสายฟ้าแลบฝนฟ้าคะนองปกคลุมอาณาบริเวณพันลี้ พายุสายฟ้าเจิดจ้าประหนึ่งมหาเคราะห์ไร้เทียมทานสั่นสะท้านฟ้าดิน
กระทั่งอาณาเขตบางส่วนยังถูกไอวิญญาณระเบิดกระชากโดยสมบูรณ์ สภาพอากาศแปรปรวนว่างเปล่ากลางฟ้าดิน ทำให้ผู้คนหวาดกลัวเมื่อมองเห็น
ขณะเดียวกันความเร็วของการแปรสภาพของสรรพสิ่งบนโลกก็เร่งตามไปด้วย พวกหลินสวินเคยเห็นมากับตา ยอดเขาแห้งแล้งที่เดิมไม่มีต้นหญ้าเจริญเติบโตแห่งหนึ่ง ภายในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งก้านธูปก็ปลดปล่อยพลังชีวิตพลุ่งพล่านหาใดเปรียบ หมอกเมฆาห้อมล้อม ต้นไม้ใบหญ้าเติบโตอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเขาวิญญาณลูกหนึ่งด้วยความเร็วที่ตาเนื้อสามารถมองเห็น!
นี่คือการเปลี่ยนแปลงชวนตะลึงที่กระเทือนทั่วดินแดนรกร้างโบราณ
และที่เกิดขึ้นพร้อมการเปลี่ยนแปลงน่าตระหนกยังมีการเข่นฆ่าที่น่าหวาดกลัว!
ไอวิญญาณบนโลกนี้นับวันยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จำนวนของเขาวิญญาณก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โอสถวิญญาณ สิ่งล้ำค่า วัตถุดิบเทพที่สลายหายไปในสายธารแห่งกาลเวลาแล้วบางส่วน ล้วนปรากฏในบริเวณต่างๆ ของดินแดนรกร้างโบราณราวกับหน่อไม้หลังฝนยามฤดูใบไม้ผลิ
เขาวิญญาณสามารถสร้างเป็นถ้ำสวรรค์แดนมงคล สามารถทำเป็นประตูภูเขาเพื่อเปิดสำนักตั้งพรรค
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์