มหายุคมาเยือน ใต้หล้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ส่วนสถานที่นำทางสามพันแห่งที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของดินแดนรกร้างโบราณ ก็กำลังจะกลายเป็นสถานที่รวมผู้มีอิทธิพลในใต้หล้า!
ผู้กล้าและอัจฉริยะจากสำนักเก่าแก่ยิ่งใหญ่ต่างๆ ลูกหลานสายตรงและเหล่าผู้โดดเด่นรุ่นเยาว์ของเผ่าใหญ่โบราณกับตระกูลอริยะแต่ละกลุ่ม ล้วนหลั่งไหลไปยังสถานที่นำทางต่างๆ ราวกระแสธาร
ผู้ฝึกปราณในใต้หล้าต่างให้ความสนใจ!
วันนี้ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ยุคอันตระการตาถึงที่สุดมาเยือน จะกลายเป็นรอยประทับที่ไม่อาจลบเลือน เป็นสิ่งที่ตราตรึงในภายภาคหน้า
“วาดหวังถึงมหามรรคได้”
ที่สำนักกระบี่เทียมฟ้า อวิ๋นชิ่งไป๋สีหน้าเรียบเฉยดังเดิม
เพียงแต่หว่างคิ้วราวดาบของเขาแผ่พุ่งไอดุดันที่ไม่เคยมีมาก่อน คล้ายสามารถแทงทะลุนภากว้าง
สิบปีที่ลับกระบี่ ย่อมลองคมกระบี่ในมหายุค!
เขาได้รับกล่องกระบี่โบราณที่อยู่ในมือของข้ากระบี่ แบกกล่องกระบี่ไว้บนหลังอย่างจริงจังหาใดเทียบเหมือนสมัยฝึกกระบี่ในอดีต
ทุกคนในโลกต่างรู้ว่า เขาอวิ๋นชิ่งไป๋ไม่เคยสะพายกระบี่ แบกกระบี่เดินทางคือวิถีกระบี่ของเขา
วันนั้น อวิ๋นชิ่งไป๋ลงจากเขาเพียงลำพัง
“ควรออกเดินทางแล้ว!”
วันนี้บุคคลผู้มีอิทธิพลจากสำนักโบราณใหญ่ต่างๆ อย่างหวังเสวียนอวี๋ หมีเหิงเจิน เย่หมัวเฮอ ล้วนเดินทางไปยังสถานที่นำทางต่างๆ พร้อมผู้อาวุโสในสำนักที่ติดตามมา
ส่วนเหล่าสัตว์ประหลาดยุคโบราณอย่างชื่อหลิงเซียวผู้ฝึกเคล็ดวิชาหกนรกดับโลกา หลิ่นเสวี่ยธิดาเทพแห่งยุคที่ทำให้ผู้กล้านับไม่ถ้วนต้องสยบเมื่อสามพันปีก่อน ไป๋หลงถิงจากเผ่าเจียวขาว…
ก็เริ่มออกเคลื่อนไหว!
หมื่นผู้กล้าธรรมบาล อัจฉริยะทุกยุคสมัยเริ่มรวมตัวกันในมหายุค ปรากฏตัวในสถานที่นำทางต่างๆ ทำให้ทั้งใต้หล้ากริ่งเกรง
ที่เคลื่อนไหวในเวลาเดียวกันยังมีขุมอำนาจที่อยู่ในแดนเร้นอริยะด้วย!
มหาวิหารธรรม หอฤทธิ์เทพ อารามกษิติครรภ์ ลัทธิไร้สวรรค์…
ขุมพลังเก่าแก่ที่ตัดขาดจากโลกมาตลอดเหล่านี้ หลังจากมหายุคมาเยือนก็เริ่ม ‘ปรากฏตัวในโลก’
“จำไว้ว่าต้องฆ่าเจ้าลูกหมาหลินสวินนั่น!”
ที่แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์มีคนใหญ่คนโตออกคำสั่ง
“ยังจำความอัปยศที่เจ้าเดรัจฉานหลินสวินนั่นนำมาสู่สำนักพวกเราได้ไหม เชื่อว่าพวกเจ้าน่าจะรู้ดีว่าหลังจากเข้าไปในแดนมกุฎควรทำเช่นไร”
“ไม่ว่าอย่างไร อย่าให้เจ้าเดรัจฉานตัวนี้เป็นราชันได้โดยเด็ดขาด!”
“ในการช่วงชิงความเป็นหนึ่งในมหายุค ข้อแรกต้องชิงศุภโชคที่ทำให้เป็นราชัน ข้อสองคือฆ่าเจ้าเด็กหลินสวินนี่”
การสนทนาทำนองนี้เกิดขึ้นในหมู่มหาอำนาจอย่างแดนพิสุทธิ์อมตะ แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ สำนักกระบี่เทียมฟ้า สำนักยุทธ์สมุทรคราม เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ
ตอนนั้นหญิงลึกลับเปลี่ยนอริยะเป็นเดรัจฉาน ไล่ต้อนพวกเขาราวคนเลี้ยงแกะ เหยียบย่ำขุมอำนาจเหล่านี้ด้วยตัวคนเดียว ความอัปยศอดสูครั้งใหญ่เช่นนี้ แม้สามารถทนได้ แต่ใครก็ไม่ลืม!
และตอนนี้แดนมกุฎกำลังจะมาเยือน ผู้ที่อยู่ระดับราชันขึ้นไปล้วนเข้าไปไม่ได้ นี่จึงกลายเป็นโอกาสงามที่สุดที่พวกเขาจะแก้แค้นล้างอายอย่างไม่ต้องสงสัย
อีกทั้งผู้สืบทอดที่จะเข้าไปในแดนมกุฎของขุมอำนาจเหล่านี้ คราวนี้ไม่เพียงมีจำนวนมาก ยังมีสัตว์ประหลาดยุคโบราณควบคุมด้วย!
นี่ จึงจะเป็นรากฐานพลังและไพ่ตายที่แท้จริงของพวกเขา!
……
ฟ้าดินกำลังแปรเปลี่ยน
ท้องนภาเหนือสนามรบโบราณ หมอกครึ้มถูกกวาดไปสิ้นอยู่ก่อนแล้ว ท้องฟ้ากระจ่างราวกระจกใสปลอดโปร่ง พลังชีวิตไพศาลแผ่พุ่งกลางซากปรักหักพัง ดูเป็นมงคลและบริสุทธิ์
เมื่อเวลาผ่านไป หน้าเมืองนำทางเงาร่างของผู้ฝึกปราญเหมือนกระแสธารไหลกลบพื้นที่รัศมีร้อยลี้
เพิ่งผ่านไปไม่กี่วัน คนที่นี่ก็มีมากขึ้นจากเดิมหลายเท่า!
โดยมากเป็นผู้สืบทอดสำนักและขุมอำนาจเผ่าต่างๆ และไม่ขาดผู้กล้าขอบเขตมกุฎและสัตว์ประหลาดยุคโบราณ
ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าอีกาทองหรือเขาวิญญาณหมื่นอสูรก็ต่างดูระงับอารมณ์ ไม่ต่องการสร้างความขัดแย้งในตอนนี้
ยังดีที่ผู้ฝึกปราณที่มาถึงบริเวณนี้ล้วนรู้ฐานะของหลินสวินอย่างต่อเนื่อง แม้พวกเขามีคนน้อย แต่ก็ไม่มีใครไปหาเรื่อง
“คนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”
เจ้าคางคกถอนใจเบาๆ นี่เป็นวันที่สี่ที่มหายุคมาเยือน หลายวันนี้ไม่เพียงเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในฟ้าดิน แม้แต่จำนวนของผู้ฝึกปราณที่มาเมืองนำทางก็ทะยานสูงขึ้นหลายเท่า
สามารถคาดการณ์ได้ว่า หลังจากเข้าสู่แดนมกุฎการแข่งขันจะใหญ่โตปานไหน
อาหลู่กำลังหลับปุ๋ย ส่วนหลินสวินนั่งขัดสมาธิ คล้ายไม่รับรู้เรื่องราวในโลกภายนอก
เจ้าคางคกหมดคำพูดไปครู่หนึ่ง เจ้าสองคนนี้… ซื่อจริงๆ สิน่า!
“ข่าวล่าสุด! ข่าวล่าสุด!”
ไกลออกไปผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยคนหนึ่งตีปีกบินมา ดึงดูดความสนใจของผู้ฝึกปราณไม่น้อย
หลายวันมานี้หากผู้ฝึกปราณที่มาถึงเมืองนำทางก่อนต้องการล่วงรู้ข่าวสารโลกภายนอก ก็มีแต่ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาทวาโยเท่านั้นที่นำข่าวมาให้ได้
“อริยะหอฤทธิ์เทพสันนิษฐานว่าภายในเจ็ดวัน แท่นมรรคบูชาอริยะจะปรากฏบนโลก!”
ครืน!
ทั้งที่นั้นเดือดพล่าน
ผู้ฝึกปราณหลายคนล้วนนั่งไม่ติดที่แล้ว ดวงตาส่องประกาย
เวลาแห่งการรอคอยผ่านไปยากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะเมื่อทุกโมงยามยังมีผู้ฝึกปราณมากมายเร่งมาถึง ทำให้ทุกคนยิ่งกดดันขึ้นทบทวี
“จากสถิติของคนเบื้องบนเผ่าข้า จำนวนผู้ฝึกปราณที่รวมตัวอยู่หน้าสถานที่นำทางสามพันแห่งทะลุห้าสิบล้านคนไปแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์