ตึง!
ฟ้าดินสั่นสะเทือน เสียงนั้นแน่นลึกจนทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งมวลบนโลกใจสั่น
เวลานี้บริเวณใกล้แม่น้ำพรมแดนที่กระจายอยู่ระหว่างสี่แดนวิภูของดินแดนรกร้างโบราณล้วนเกิดภัยพิบัติชวนประหวั่น เมือง ภูเขาแม่น้ำ ก้อนหินและต้นไม้นับไม่ถ้วน…
ล้วนพังทลายกลายเป็นจุณ!
เพราะตอนนี้แม่น้ำพรมแดนได้หายไปแล้ว!
ระยะห่างระหว่างสี่แดนวิภูหายไปเช่นนั้น ราวแผ่นเปลือกโลกมหึมาทั้งสี่ปะทะกันอย่างหนักหน่วง
พลังนั้นเกี่ยวพันถึงต้นกำเนิดของโลก ห้วงอากาศว่างเปล่าโดยรอบ และฟ้าดิน ยามปะทะกันพลังทำลายล้างชวนประหวั่นที่เกิดขึ้นล้วนเพียงพอทำให้อริยะขวัญหนีดีฝ่อ!
‘มาแล้ว!’
เวลานี้ในสี่แดนวิภู ชัยบูรพา ฐิติประจิม กาฬทักษิณ ดาราอุดร ไม่รู้ว่ามีอริยะที่อยู่ในการปิดด่านกี่คนหยุดการกระทำในมือ รับรู้ได้จากภายในใจ
มหายุคใกล้มาแล้ว!
…
แต่ละสำนักโบราณ แดนเร้นอริยะมากมาย ทุกบริเวณในดินแดนรกร้างโบราณ ทุกขุมอำนาจ เวลานี้ต่างสังเกตเห็นว่ามหายุคที่พวกเขารอมาเนิ่นนาน ความพินาศที่อยู่ร่วมกับการผงาดง้ำ ยุคสมัยที่รุ่งโรจน์ถึงขีดสุดกำลังจะเปิดฉากในวันนี้
หนึ่งหมื่นปีนานเหลือเกิน ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า!
ไม่ว่าครั้งนี้จะเป็นมหายุคหรือกลียุค ล้วนแต่ไม่เคยมีมาก่อน แตกต่างจากที่ผ่านมา!
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!”
แดนเร้นอริยะหอฤทธิ์เทพ มีอริยะทอดถอนใจ ไม่รู้ว่ายินดีหรือโศกเศร้า
“มหายุคอะไรกัน ความรุ่งโรจน์ถึงขีดสุดก็หมายถึงอันตรายยิ่งยวด ผู้คนในใต้หล้าจับจ้องเพียงความรุ่งโรจน์ชั่วครั้งคราว แต่กลับไม่รู้เลยว่ามหากลียุคจะมาเยือน!”
เฒ่าดึกดำบรรพ์ที่เก็บตัวเงียบไม่รู้นานเท่าไรเกรี้ยวกราด ในน้ำเสียงเจือความหดหู่
“มหายุคดั่งเหยื่อล่อ นำมาซึ่งการจ้องหาโอกาสและความละโมบ ไฟสงครามแห่งเก้าดินแดนอยู่ไม่ไกลแล้ว…”
มีอริยะแห่งมหาวิหารธรรมคาดการณ์
“สมัยบรรพกาลแปดดินแดนบุกโจมตีก่อให้เกิดศึกแห่งการดับสูญ ทำให้เหล่าอริยะร่วงหล่นดั่งพิรุณ สำนักโบราณมากมายดับสิ้นในไฟสงคราม ทำให้ดินแดนรกร้างโบราณแบ่งเป็นสี่ส่วน แยกออกเป็นสี่แผ่นดิน!”
“มหายุคในตอนนี้ต่างจากแต่ก่อน หากไฟสงครามถูกจุดชนวน ไม่ว่าอริยะหรือมดปลวกก็ไม่อาจไม่ข้องเกี่ยว!”
เวลานี้มีผู้ฝึกปราณของสำนักโบราณไม่รู้เท่าไรตื่นตระหนก ขนพองสยองเกล้าไปทั้งตัว รู้สึกตกตะลึงอย่างไม่อาจอธิบายได้ ด้วยพวกเขาเพิ่งเคยได้ยินข่าวเหล่านี้เป็นครั้งแรก
“รูปแบบที่ดินแดนรกร้างโบราณเชื่อมั่นมาเนิ่นนานจะต้องถูกปรับเปลี่ยนใหม่ในมหายุคครั้งนี้แน่ จะเด่นผงาดหรือพังพินาศในความรุ่งโรจน์นี้ ไม่มีใครรู้ได้!”
“ทุกอย่างล้วนขึ้นกับตัวแปร! คณาเคราะห์! โชคชะตา! ไม่มีใครสามารถตัดสินชี้ขาด”
“เรื่องทางโลกดั่งหมากกระดาน สถานการณ์นี้ยากคาดเดา!”
“เช่นนั้นก็มา… แข่งกันให้เต็มที่เถอะ!”
ความลับนับไม่ถ้วนหลุดออกจากปากเหล่าอริยะ ก่อให้เกิดคลื่นถาโถมโหมกระหน่ำ ทำให้ผู้ฝึกปราณแต่ละสำนักต่างรู้สึกหวั่นหวาดยากบรรยาย
มหายุค?
กลียุค?
ใครเล่าจะสามารถให้คำตอบ
ทุกคนต่างงุนงง สถานการณ์นี้ไม่อาจเข้าใจ!
…
ดินแดนรกร้างโบราณกำลังเปลี่ยนแปลง
แม้แต่ปุถุชนทั่วไปบนโลกก็ตื่นตระหนก ด้วยสถานการณ์ที่ราวกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ฟ้าดินสั่นสะเทือน ทุกหนแห่งล้วนโกลาหล
แต่ละคนต่างกำลังหลบหนี แต่กลับไม่รู้ว่าควรหนีไปที่ไหน เพราะแรงกระเพื่อมนั้นดำรงอยู่ทุกแห่งหน
ในป่าเขาลำเนาไพรเหล่าสัตว์อสูรวิ่งอย่างบ้าคลั่ง นกปีศาจแผดเสียงหวาดผวา
ในทะเลสาบและมหาสมุทร คลื่นทะเลม้วนซัดสิ่งมีชีวิตไหลไปตามกระแส
ไม่ว่าคนทั่วไปหรือผู้ฝึกปราณ ไม่ว่าภูตผีปีศาจหรืออริยะที่เข้าถึงมรรค ก็ล้วนไม่อาจสงบใจต่อหน้า ‘การเปลี่ยนแปลงชวนตะลึง’ ที่ไม่เคยมีมาก่อนฉากนี้
ต่อให้เป็นอริยะ ก็ไม่มีทางมองการเปลี่ยนแปลงชวนตะลึงที่กำลังเกิดขึ้นทั่วดินแดนรกร้างโบราณออกในปราดเดียว
ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครรู้ว่าการสั่นสะเทือนครานี้มีเทือกเขาโผล่พ้นปฐพีหยัดทะลวงเมฆาเท่าไหร่
ไม่รู้ว่ามีชีพจรปราณวิญญาณ โอสถวิญญาณ สิ่งล้ำค่าและวัตถุดิบเทพเท่าไหร่เกิดขึ้นในแต่ละบริเวณทั่วหล้าราวหน่อไม้หลังฝน
ไม่รู้ว่ามีสัตว์ประหลาด ร่างวิญญาณเท่าไหร่อุบัติขึ้นบนโลกในเวลานี้
และไม่รู้ว่ามีโบราณสถาน ซากปรักหักพัง แดนลึกลับที่ถูกฝังกลบในสายน้ำแห่งกาลเวลาเท่าไหร่ปรากฏบนพิภพอีกครั้ง!
ทั่วดินแดนรกร้างโบราณต่างกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงชวนตะลึง
ทุกสรรพสิ่งเริ่มต้นขึ้นเสมือนตื่นจากการจำศีล การเปลี่ยนแปลงนานัปการเปิดฉากด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ เปลี่ยนภาพลักษณ์และรูปแบบที่มีมาแต่เดิมบนโลก
กฎเกณฑ์วัฏจักร โชควาสนามหามรรค ไอวิญญาณฟ้าดิน… ล้วนกำลังเปลี่ยนแปลง ผลักดันไปในทางรุ่งโรจน์ถึงขีดสุด!
…
ตึง!
ท้องฟ้าเหนือสนามรบโบราณเกิดเสียงกึกก้องราวเสียงกลอง แฝงพลังกฎระเบียบสูงสุดของจักรวาลจนทำให้เทพเซียนภูตผีหวั่นหวาด
บนเวิ้งฟ้ามืดมัวมีหมอกหลากสีงามตระการแปลกตาแผ่พลังชีวิตอบอวล ทำให้ฟ้าดินแถบนี้พลันคลายลักษณ์พยับเมฆ ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นบริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นมา
บนสนามรบโบราณที่เดิมปรักหักพังผุกร่อนเปี่ยมบาดแผล มีจิตวิญญาณอันอุดมไร้รูปหนึ่งกำลังไหลบ่าอาบแผ่นดิน
ต้นไม้ใบหญ้าเติบโตขึ้นกลางซากปรักหักพัง ทุกสรรพสิ่งในใต้หล้าล้วนถูกปกคลุมด้วยกระแสอากาศราวหมอกควันชั้นหนึ่ง เสมือนภาพมายาอันพร่ามัว
ต้นไม้ใบหญ้ามีชีวิตชีวา แตกใบอ่อนเขียวขจีแวววาว สนามรบโบราณที่เปี่ยมไอมรณะราวคืนชีพจากความเหี่ยวเฉา ส่องประกายพลังชีวิตที่ต่างออกไป!
ใบไม้ไหวจึงรู้ทิศทางลม
แม้แต่สนามรบโบราณยังเกิดการเปลี่ยนแปลงชวนตะลึงเช่นนี้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าทั้งดินแดนรกร้างโบราณกำลังมีการเปลี่ยนแปลงเช่นไร!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์