ตอนที่ 1134 คนนอกรีตอย่างที่สุด – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1134 คนนอกรีตอย่างที่สุด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนนี้ผู้ฝึกปราณที่เข้าสู่แดนมกุฎมีนับสิบล้านคน
แม้ต่างเป็นผู้ฝึกปราณที่มีระดับต่ำกว่าราชัน แต่ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าชักช้าแต่อย่างใด เพราะจะมีบุคคลระดับราชันถือกำเนิดขึ้นได้ทุกเมื่อ!
ทุกคนล้วนรู้ ว่ามีเพียงเหล่าผู้กล้าขอบเขตมกุฎที่สามารถมุ่งหวังในขอบเขตมกุฎระดับราชัน
แต่ทำไมสำนักเก่าแก่เหล่านั้นถึงส่งผู้สืบทอดออกมามากมายปานนั้น
คาดเดาเหตุผลได้ง่ายนัก ในหมู่ผู้สืบทอดเหล่านี้บางทีอาจไม่มีทางเป็นขอบเขตมกุฎระดับราชัน แต่คุณสมบัติกลายเป็นราชันก็ยังมีอยู่!
คาดการณ์ได้ว่าผ่านไปไม่เท่าไร เป็นไปได้สูงมากที่จะมี ‘ราชันคนใหม่’ รุ่นเยาว์มากมายถือกำเนิดขึ้น จากนั้นก็จะอาศัยระดับที่เหนือกว่าบดขยี้คู่ต่อสู้!
เวลากระชั้นนัก!
แม้ว่าแดนมกุฎจะปิดฉากในอีกสิบปี แต่ใครก็ไม่อาจชักช้าได้ เพราะทุกเวลาเต็มไปด้วยวิกฤต การแข่งขันก็ย่อมโหดร้ายหาใดเทียบ
ที่หลินสวินเข้าสู่แดนมกุฎก็เพื่อกลายเป็นราชันเช่นกัน
ทว่าที่เขาไล่ตามคือระดับมกุฎราชัน ทั้งมรรคาที่เดินอยู่ก็ไม่เหมือนผู้อื่นในโลก หมายจะเป็นราชันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายปานนั้น
ระดับสังสารวัฏก็คือระดับราชัน
สำหรับผู้ฝึกปราณแล้ว การขึ้นเป็นราชันก็เท่ากับหลุดพ้นระดับใหญ่ทั้งห้า ทำลายพันธนาการแห่งการเกิดดับ มีผลกระทบมากมายเหนืออดีต เกี่ยวโยงถึงความสำเร็จมากน้อยบนมรรคาอมตะในอนาคต
หลินสวินตัดสินใจไว้นานแล้วว่าจะไม่เดินบนเส้นทางของคนในอดีต ต้องการเหยียบย่างลงบนมหามรรคที่เป็นของตนเอง ช่วงชิงความเป็นหนึ่งกับอริยะทั้งในอดีตและปัจจุบัน
อีกทั้งตามที่หญิงลึกลับพูดไว้ ระดับราชันยังกำหนดเส้นทางสู่การกลายเป็นอริยะในภายภาคหน้าด้วย!
หากก้าวนี้ทำได้ไม่ดี ความสำเร็จในภายหน้าก็ย่อมมีจำกัด
ตอนนี้หลินสวินมาถึงแดนเผาเซียนแล้ว เรื่องที่ต้องทำก่อนก็คือไปรวมตัวกับเจ้าคางคกและอาหลู่ จากนั้นถึงเสาะหาศุภโชคเพื่อเตรียมหลอมมรรคกลายเป็นราชัน!
……
สวบ!
ภูผาธารากว้างใหญ่ แดงชาดราวเปลวเพลิง หลินสวินวิเคราะห์ทิศทางแล้วเริ่มเร่งเดินทาง
แดนเผาเซียนเป็นหนึ่งใน ‘สามพันแดน’ ของแดนมกุฎ เปรียบเสมือนโลกใบน้อยขนาดมหึมาไร้ขอบเขตใบหนึ่ง ตลอดทางหลินสวินได้พบผู้ฝึกปราณไม่น้อย ต่างเคลื่อนไหวอย่างรีบร้อน
เห็นได้ชัดว่ากำลังรีบทำเวลาหาศุภโชคและวาสนาทั้งนั้น
ไกลออกไปมีเสียงประจัญบานดุเดือดแว่วมาระลอกหนึ่ง ผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งกำลังห้ำหั่นกันจนภูผาธาราหม่นหมองหมอง ฟ้าดินสาดแสงไปทั่ว
พวกเขากำลังชิงบ่อน้ำหินเก่าแก่บ่อหนึ่ง บ่อน้ำหินนั้นมีแสงเพลิงเปล่งประกายพวยพุ่งออกมาเรื่อยๆ แสงเทพไพศาลไหลวน น่าตระหนกถึงที่สุด
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเบื้องล่างของบ่อน้ำหินนั้นต้องมีศุภโชคซุกซ่อนไว้!
หลินสวินเหลือบมองครั้งหนึ่งก็หลบไปไกล เดินหน้าต่อไป
ตลอดทางนี้เขาได้พบการปะทะและห้ำหั่นทำนองนี้หลายครั้ง ที่ช่วงชิงกันย่อมเป็นโอสถวิญญาณ ของล้ำค่า วัตถุดิบเทพ และสมัติมหัศจรรย์บางประการ
สิ่งเหล่านี้ล้วนเรียกได้ว่าเป็นศุภโชค ถือเป็นวาสนาที่บังเอิญพบเจอได้แต่ไม่อาจร้องขอในโลกภายนอก
แต่ของเหล่านี้ไม่ได้ดึงดูดหลินสวินมากนัก มรรคาของเขาเดินไปจนสุดทางแล้ว ที่ต้องการก็คือมหาศุภโชคที่ใช้หลอมเพื่อเป็นระดับมกุฎราชันชิ้นหนึ่ง
เวลาสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สวบ!
เมื่อหลินสวินผ่านแม่น้ำที่มีสีแดงเพลิงหาใดเทียบสายหนึ่ง ปลาใหญ่ตัวหนึ่งพลันกระโจนขึ้นมาจากน้ำ อ้าปากจะกัดเขา
ปลาใหญ่ตัวนี้ยาวหลายจั้ง สีแดงเพลิงราวหยกทั้งตัว มีหัวเป็นมังกรหางเป็นปลา มีปีกเปลวเพลิงพิสดารงอกออกมาจากทั้งสองข้าง
ตู้ม!
มันแข็งแกร่งถึงที่สุด ยามกระโจนเข้ามาแสงเพลิงโหมกระพือเผาไหม้ห้วงอากาศ ในปากมหึมาที่อ้าออกฟันแหลมคมราวทวนซี่แล้วซี่เล่ามีประกายแสงโหดเหี้ยมน่ากลัวไหวเคลื่อน
ปึง!
ร่างกายหลินสวินพริบไหว หลบหนีอย่างง่ายดาย
ก็เห็นว่าภูเขาแคระเตี้ยลูกหนึ่งที่อยู่เบื้องหลัง ถูกแสงเพลิงที่อยู่บนตัวปลาประหลาดสีแดงเพลิงนี้หลอมละลายจนสิ้นในชั่วพริบตาเสียอย่างนั้น
ในขณะเดียวกันเรือนกายหลินสวินพริบไหวอีกคราพุ่งเข้าโจมตี พลังหมัดยิงพุ่ง ปรากฏการณ์ประหลาดสะท้านโลกที่สามารถสั่นคลอนฟ้าดินบังเกิดขึ้น
ปลาประหลาดสีแดงเพลิงไม่หลบไม่หนี สะบัดหางตั้งรับหมัดนี้ของหลินสวิน!
นี่ทำให้หลินสวินหน้าเปลี่ยนสี ควรรู้ว่าด้วยพลังของเขาในตอนนี้ ต่อยออกไปสักหมัดก็เพียงพอจะสังหารบุคคลระดับยอดมกุฎรุ่นเยาว์ผู้หนึ่งได้
ต่อให้เป็นยักษ์ใหญ่ยอดมกุฎ ก็ไม่กล้าสู้กับหลินสวินซึ่งหน้าง่ายๆ
แต่ตอนนี้ปลาประหลาดสีแดงเพลิงตัวนี้กลับตั้งรับไว้ได้!
“น่าสนใจ เข้ามาอีก!”
หลินสวินใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งกระโจนตัดห้วงอากาศ ทั้งร่างเปล่งแสงใสกระจ่าง ประหนึ่งเทพยาตราทัพ สำแดงนัยเร้นลับของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์
ไม่นานปลาประหลาดสีแดงเพลิงก็ตั้งกระบวนท่าไม่อยู่ ถูกพลังหมัดกำราบ เกล็ดปลาบนร่างเริ่มหลุดร่วงอย่างต่อเนื่อง
สวบ!
ฉับพลันนั้นปลาประหลาดสีแดงเพลิงสังเกตได้ว่าไม่สู้ดี เผ่นหนีไปโดยไม่ลังเล พุ่งไปที่แม่น้ำสีแดงเพลิงสายนั้นอย่างรวดเร็วหาใดเทียบ
หลินสวินตามประชิดโจมตี
ที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เงาร่างของปลาประหลาดสีแดงเพลิงตัวนี้หดเล็กลงเหลือขนาดเท่าฝ่ามือในทันใด หลบหนีการสังหารของเขาอย่างตื่นกลัวเข้าไปในน้ำ
ซ่า!
ฟองคลื่นสีแดงเพลิงสาดกระเซ็น เมื่อหันไปดูปลาประหลาดสีแดงเพลิงตัวนั้นก็หายลับไปแล้ว
ปล่อยให้ปลาตัวหนึ่งหลุดมือไปได้ทำเอาหลินสวินออกจะเสียหน้า ขณะที่กำลังจะตามไป ความหวาดผวาสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้นในจิตใจ
เหมือนกับใต้แม่น้ำสีแดงเพลิงนั้นมีสิ่งที่น่าครั่นคร้ามยิ่งบางอย่างซ่อนอยู่!
หลินสวินหยุดเท้าทันที เงาร่างถอยหลัง ส่วนจิตรับรู้แผ่ขยายออกไปสำรวจด้านล่างของแม่น้ำสายนั้น
ชั่วพริบตาภาพการณ์พิสดารหาใดเทียบฉายขึ้นในสมอง
มันเคยถูกมองว่าเป็นครรภ์พุทธะ เก็บตัวเงียบจำศีลอยู่ภายในซุ้มธรรมหลังหนึ่ง ภายหลังถูกมู่เจิ้งหนึ่งในสิบแปดศิษย์อารามกษิติครรภ์ใช้วิชาลับปลุกให้ฟื้นตื่นขึ้น
ตามที่มู่เจิ้งพูดไว้ ปักษาทมิฬใหญ่ตัวนี้ก็คือ ‘ครรภ์พุทธะ’ ที่ไม่เคยมีมาก่อนตัวหนึ่ง เป็นไปได้สูงที่จะเป็นสิ่งที่อริยะตู้จี้หลงเหลือไว้!
หลินสวินยังจำได้อย่างแจ่มชัดว่าตอนนั้นปักษาทมิฬใหญ่ถือกระทะ ทุบตีอย่างป่าเถื่อนเรียบง่ายไม่กี่ทีก็ทำให้บุคคลขอบเขตมกุฎแห่งอารามกษิติครรภ์อย่างมู่เจิ้งสลบเหมือด โหดร้ายถึงที่สุด
อีกทั้งเจ้าหมอนี่ยังเจ้าเล่ห์อย่างยิ่ง สับปลับชั่วช้าหาใดเทียบ ชอบลอบโจมตีที่สุด เมื่อกี้หากเขาไม่สังเกตเห็นก่อน ก็เกือบถูกเจ้าหมอนี่ใช้กระทะทุบเข้าที่ท้ายทอยเสียแล้ว!
ตู้ม!
ไกลออกไปปักษาทมิฬตัวใหญ่สะบัดปีก เพลิงธรรมสีดำพิสดารลุกโชนขึ้นมา ทำให้พลังหมัดของหลินสวินที่อยู่กลางอากาศหลอมละลายไปสิ้น
“ข้าปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยคุณธรรม ปกติไม่ชอบลงมือ แต่หากเจ้ายังลงมืออีกก็อย่าโทษข้าที่ตบเจ้าก็แล้วกัน!”
ปักษาทมิฬตัวใหญ่น้ำเสียงกะล่อน
“ถ้าเจ้ารั้งอยู่ข้าก็ไม่ลงมือ”
หลินสวินยิ้มพูด
ยามสนทนาทั้งสองต่างไม่ได้หยุดมือ คนหนึ่งหนีคนหนึ่งไล่กวด ว่องไวอย่างประหลาดหาใดเทียบ แข่งขันกันเหนือห้วงอากาศ
“ให้ตายสิ ตอนนั้นเจ้าชิงศุภโชคที่ตาแก่ตู้จี้เหลือไว้ให้ไป ข้ายังไม่คิดบัญชีกับเจ้าก็บุญแล้ว เจ้ายังคิดจะทำอะไรอีก”
ปักษาทมิฬพูดอย่างหมดความอดทน
หลินสวินพูดอย่างจริงจังว่า “เพราะแบบนี้ล่ะ ข้าถึงคิดว่าพวกเราต้องคุยกันสักหน่อย ไม่แน่ข้าอาจจะเอาศุภโชคมาคืนเจ้าก็ได้”
ในมือเขายังมีไม้โพธิ์เหี่ยวแห้งท่อนหนึ่ง ในไม้โพธิ์ผนึกพลังสีทองที่น่ากริ่งเกรงสูงส่งถึงที่สุด
จากการสันนิษฐานของหลินสวิน ในอดีตปักษาทมิฬตัวนี้เก็บตัวเงียบเชียบในซุ้มธรรมหยกดำแห่งนั้นโดยตลอด ต้องรู้ความลับที่คนนอกไม่อาจล่วงรู้ได้บางอย่างแน่
“คืนให้ข้าหรือ”
ปักษาทมิฬนิ่งอึ้ง จากนั้นก็หัวเราะบ้าคลั่งขึ้นมาทันที “ศุภโชคนี้เกี่ยวโยงกับมรรคต้องห้าม ข้าไม่ต้องการเสียหน่อย เกิดภายหน้าม้วยไปแบบตาแก่ตู้จี้จะทำอย่างไร”
จากนั้นเขาก็เหมือนมีความสุขที่เห็นคนอื่นลำบากอยู่บ้าง พูดว่า “พ่อหนุ่ม ข้าขอเตือนให้เจ้าระวังหน่อยเถอะ สิบแปดศิษย์อารามกษิติครรภ์กับ ‘กู่ฝอจื่อ’ ที่เก็บตัวเงียบตั้งแต่ยุคบรรพกาลจนกระทั่งตอนนี้เพิ่งปรากฏตัวบนโลก ตอนนี้เข้ามาในแดนมกุฎแล้ว ส่วนเจ้าถูกไอ้โล้นพวกนี้มองว่าเป็น ‘คนนอกรีต’ อย่างที่สุด!”
เสียงพูดเงียบลง ปักษาทมิฬทะยานขึ้นฟ้าไปแล้ว รวดเร็วขึ้นอย่างมาก หายไปอย่างไร้ร่องรอยประหนึ่งเคลื่อนย้ายในพริบตา
หลินสวินหยุดเท้า รู้ว่าตามไม่ทันแล้ว
ผู้สืบทอดอารามกษิติครรภ์หรือ
คนนอกรีตชั้นเลิศหรือ
หลินสวินเลิกคิ้ว ในใจไม่ได้กริ่งเกรง เพียงแต่ออกจะกังขาว่าคำพูดของปักษาทมิฬตัวนี้หมายความว่าอย่างไร
เป็นเพราะตนได้ ‘คัมภีร์มหาครรภ์จุติ’ ที่อริยะตู้จี้กับหงส์ทมิฬหลงเหลือไว้หลังจากสิ้นชีพ ถึงได้ถูกอารามกษิติครรภ์เพ่งเล็งหรือ
แล้ว ‘กู่ฝอจื่อ’ นั่นเป็นใครอีก
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์