เสียงร้องโหยหวนของซางหลันพาให้ทุกคนต่างสะดุ้งตื่นจากความตกใจกลัว
“จะให้โอกาสเขาอีกไม่ได้แล้ว!”
ท่ามกลางหมอกสีดำพวยพุ่ง เงาร่างสายหนึ่งพุ่งเข้ามา มือกระชับเคียวสีเลือดเล่มหนึ่งกรีดวาดเบาๆ หนึ่งครา ฉีกทึ้งห้วงอากาศ คมกริบเฉียบขาดอย่างที่สุด
พื้นที่บริเวณนี้ล้วนถูกหมอกดำปกคลุม เจือกลิ่นอายแห่งความตายและเน่าเปื่อย
ครานี้เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่สีผิวขาวซีด ใบหน้าอิดโรย เป็นอัจฉริยะจากสำนักโลหิตเก้าบาดาลคนหนึ่ง
“ฆ่า!”
คนอื่นต่างตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของปัญหา ล้วนโหมโจมตีโดยไม่ลังเลแต่อย่างใด
อีกทั้งยังได้รับแรงกระตุ้นจากการตายของหลิงหวา พวกเขาแทบจะสำแดงวิชาทั้งหมด เผยไม้ตายออกมา มองหลินสวินเป็นศัตรูตัวฉกาจ
ทันใดนั้นภายในตำหนักพราวแสงพร่าตา ผู้แข็งแกร่งแต่ละคนล้วนเหมือนกับภูเขาเทพ เปล่งอานุภาพน่าสะพรึง ต่างฝ่ายต่างขับเน้น พาให้ทุกอณูของพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยละอองแสงและเสียงมรรค
การเข่นฆ่าก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขาเข้าใจโดยสิ้นเชิงว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินกร้าวแกร่งมากเพียงใด เหนือการคาดเดาของพวกเขาลิบลับ
โดยเฉพาะการตายของหลิงหวายิ่งพาให้พวกเขาสัมผัสถึงอันตราย รับรู้ถึงภัยคุกคามร้ายแรง
เดิมทีพวกเขาต่างมั่นใจไร้เกรงกลัว นึกว่าหลินสวินหัวเดียวกระเทียมลีบ ต่อให้แข็งแกร่งสักแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขา ต้องสามารถสังหารได้ง่ายดายเป็นแน่แท้
แต่ยามนี้พลังต่อสู้น่าสะพรึงที่หลินสวินสำแดงออกมาทั้งหมดกลับทำให้สถานการณ์ร้ายแรงขึ้นทันใด
ทั้งหมดนี้ล้วนไม่ส่งผลต่อหลินสวินแม้แต่น้อย หลังจากใช้กระบวนเฉือนนภาสงัดสังหารหลิงหวาแล้ว เขายังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด สยบการซุ่มโจมตีของซางหลันที่อยู่ด้านหลังก่อนเป็นสิ่งแรก จากนั้นเงาร่างก็โฉบพุ่งออกมา
สิ่งที่ออกมาพร้อมกับเขายังมีดาบหักด้วย
ฉึบ!
แสงเย็นเยียบสายหนึ่งปรากฏขึ้นทันที
เป้าหมายคือ… อูหลิงเฟย!
“โอหัง!”
อูหลิงเฟยสีหน้าอึมครึมปีกกระพือตบ เสียงตูมดังขึ้นหนึ่งครา เปลวเพลิงวิเศษสีทองนับไม่ถ้วนไหลเวียน ถึงกับวิวัฒน์เป็น ‘กระบี่เพลิง’ เล่มหนึ่ง
กระบี่วิเศษที่สร้างขึ้นจากการหลอมรวมของเพลิงสมาธิสุริยัน!
ปัง!
เพียงแต่หลังจากการปะทะอันน่าตระหนก ที่ตรงนั้นละอองแสงสาดกระเซ็น ขนปีกร่วงโรย ซ้ำยังอาบเลือดอีกด้วย
พอมองไปยังอูหลิงเฟยอีกครั้ง ปีกซ้ายของเขาถูกเฉือนเป็นรอยเลือดแคบยาวสายหนึ่ง สิ่งนี้ทำให้เขาตกใจจนหลั่งเหงื่อเย็นไปทั้งตัว เมื่อครู่หากไม่ใช่เพราะเบี่ยงหลบทันท่วงที คงเกือบซ้ำรอยหลิงหวาแล้ว!
จุดนี้พิสูจน์ได้อย่างไม่ต้องสงสัยแล้วว่า ต่อให้สู้กันตัวต่อตัวก็เป็นไปได้สูงว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินสวิน!
“หลีกทางให้ข้า!”
บุรุษประหลาดที่กลางหว่างคิ้วมีดวงตาแนวตั้งดวงหนึ่งร้องตะโกน ดวงตาแนวตั้งเบิกโพลงทันที กลายเป็นลำแสงงดงามแถบหนึ่ง เหมือนกับละอองแสงเซียนลอยล่องดั่งภาพฝันมายา
นี่คือ ‘เนตรแห่งหอยกาบเทพ’ !
มรดกสายเลือดสูงสุดอย่างหนึ่งของเผ่าหอยกาบมายา เป็นวิชามายาที่น่ากลัวอย่างที่สุดวิชาหนึ่ง พุ่งเป้าไปยังจิตวิญญาณของผู้ฝึกปราณ เมื่อสำแดงวิชานี้ ก็เหมือนกับสร้างเขตแดนความฝันอย่างหนึ่ง เพียงพอจะกักขังจิตวิญญาณของคู่ต่อสู้ไว้ในนั้นจนสูญเสียความเป็นตัวเองไป
น่าเสียดาย การโจมตีนี้อาจจะสามารถสะเทือนบุคคลขอบเขตมกุฎคนอื่นๆ แต่กลับไม่มีผลต่อหลินสวินสักนิด
“เฉือน!” ในห้วงนิมิตหลินสวิน เสี่ยวอิ๋นเตรียมต่อสู้ตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อเห็นเช่นนี้สองมือก็คว้าหมับ กระบี่แห่งจิตวิญญาณสายหนึ่งฟันฉับออกมา
ฉัวะ!
ไกลออกไปดวงตาแนวตั้งกลางคิ้วของบุรุษประหลาดปรากฏรอยเลือดสายหนึ่ง จากนั้นก็แตกระเบิดสาดโลหิตสีแดงฉานออกมา
“อ๊าก…”
เขาร้องโหยหวน ถูกโจมตีเข้ากลางดวงตา ไหนเลยจะคาดคิดว่าเพิ่งโจมตีครั้งเดียวเท่านั้น ไม่เพียงไม่เป็นผล ตรงกันข้ามพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเองยังถูกทำลายอีกด้วย ทำเอาจิตวิญญาณได้รับบาดเจ็บสาหัส!
พรึ่บ!
เขาเพิ่งตั้งท่าจะเผ่นหนี ประกายคมกริบเจิดจ้าสายหนึ่งพลันปรากฏ ฟันตัดบั้นเอวของเขาจนฝนเลือดสาดกระจาย
คู่ต่อสู้คนที่สอง ตาย!
ถึงแม้คนอื่นๆ ล้วนเข้าช่วยเหลือ แต่ก็จนด้วยเกล้า
อานุภาพดาบหักของหลินสวินแตกต่างจากที่ผ่านอย่างสิ้นเชิง คละคลุ้งด้วยพลังมรรคดับดารากลืนกิน ทำให้ศักยภาพพุ่งทะยานไปสู่จุดที่ไม่เคยมีมาก่อนในชั่วพริบตา!
ทุกคนพากันอึ้งค้างไปครู่หนึ่ง พริบตาเดียวก็ตายแล้ว?
“หั่นแหลกไปเลย! พี่ใหญ่!” อาหลู่ตะโกนลั่นมาแต่ไกล ฮึกเหิมไร้ใดเปรียบ
“หึ! ตอนนี้เจ้าคงเข้าใจแล้วสินะว่าทำไมอัจฉริยะฟ้าประทานเป็นหนึ่งไม่มีสองอย่างข้าถึงได้เห็นเขาเป็นพี่น้อง คำเดียวเท่านั้น อหังการ!” เจ้าคางคกทำหน้าตาได้ใจ เพียงแต่พอพูดประโยคนี้ออกมาก็กระเทือนอาการบาดเจ็บ พาให้เขาไออย่างเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง
“นี่สองคำต่างหาก!” อาหลู่ร้องแก้
“นี่แม่งเวลาไหนแล้ว ยังมัวสนใจรายละเอียดยิบย่อยพวกนี้อีก” เจ้าคางคกพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ขณะพูดคุยการต่อสู้ในที่นั้นระเบิดปะทุตลอดเวลา ทั้งยังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย
“ทุกท่าน ถ้าพวกเจ้ายังเก็บงำอยู่อีก พวกเราจะตกอยู่ในอันตรายกันหมด!” อูหลิงเฟยสีหน้าคล้ำเขียว แหกปากเดือดดาลไม่หยุด ไม่มีบุคลิกงามสง่าและวางตัวสบายๆ เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
“เหตุใดพลังมหามรรคที่เขากับอวิ๋นชิ่งไป๋ครอบครองถึงได้คล้ายกันเช่นนี้!”
มีคนเอ่ยร้องเสียสั่น นี่เป็นชายหนุ่มรูปร่างบึกบึน เวลานี้สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก มีอาการไม่ยากจะเชื่อ
คนผู้นี้ก็คือสือเจินทงสัตว์ประหลาดยุคโบราณแห่งเผ่าสิงห์ค่อม!
เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งปรากฏตัวสู่โลก เคยกำราบบุคคลทรงอิทธิพลแห่งยุคสิบกว่าคนภายในเวลาสามวัน สั่นสะเทือนใต้หล้า
เพียงแต่เขากลับพ่ายแพ้ด้วยสามกระบี่ของอวิ๋นชิ่งไป๋!
ยิ่งกว่านั้นเขามั่นใจมากว่าหากอวิ๋นชิ่งไป๋อยากฆ่าเขา แค่กระบี่เดียวก็เพียงพอแล้ว
และเป็นเพราะการแพ้อนาถครั้งนี้ ทำให้เขาตระหนักได้ถึงความน่าสะพรึงของอวิ๋นชิ่งไป๋
เพียงแต่เขากลับคิดไม่ถึงว่ากลิ่นอายมหามรรคของเทพมารหลินที่อยู่ตรงหน้า จะถึงขั้นคล้ายคลึงกับอวิ๋นชิ่งไป๋เช่นนี้!
อีกทั้งยังน่าสะพรึงปานนี้ด้วย!
พริบตานี้จิตต่อสู้ของสือเจินทงล้วนกำลังสั่นไหว อยากจะเผ่นหนีนัก
“ฆ่า!”
เพียงแต่คนอื่นๆ ล้วนไม่เคยประจักษ์ความน่ากลัวของอวิ๋นชิ่งไป๋มาก่อน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจความรู้สึกของสือเจินทงในเวลานี้
พวกเขาพากันโจมตีเข้าสังหารโดยไม่สนใจสิ่งใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์