ตู้ม!
ห้วงอากาศแตกเป็นเสี่ยง เงาร่างหลินสวินดุจมังกรคลั่งโผล่จากเหว ความเร็วว่องไวถึงขีดสุด พุ่งโถมไปทางพวกอูหลิงเฟย
มองด้วยตาเปล่าจะเห็นว่าทุกจุดที่เขาเคลื่อนผ่านห้วงอากาศดุจดั่งถูกกลืนกิน ดับสลายจมดิ่ง ภายในนั้นยังตามมาด้วยแสงมรรคอันโชติช่วง
ตลอดทางมีผู้แข็งแกร่งบุกโจมตีขวางกั้นไม่ขาดสาย แต่ล้วนถูกซัดสะเทือน เงาร่างซวนเซลอยออกไปในพริบตาโดยไม่มีข้อยกเว้น
นี่ทำให้ผู้คนตกใจขวัญผวา ต่างพากันไม่กล้าเชื่อ!
ไกลออกไปหลินสวินก็ยังมาช้าไปหนึ่งก้าวอยู่ดี
บรรดาผู้แข็งแกร่งเจ็ดแปดคนอย่างพวกอูหลิงเฟยบุกโจมตีพร้อมกัน เชี่ยวชาญทั้งความเร็ว ความแม่นยำ และความโหดเหี้ยม กลุ่มหนึ่งพุ่งไปทางอาหลู่ อีกกลุ่มพุ่งไปทางเจ้าคางคก
สถานการณ์สุ่มเสี่ยง!
อาหลู่กับเจ้าคางคกล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัส และตอนนี้ก็ทำได้แค่ฝืนตัวไว้ เผชิญหน้ากับการโจตมีระดับนี้ย่อมยากจะต้านทานไหวเป็นแน่
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่อันตรายหาใดเปรียบ หลินสวินเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นอย่างน่าประหลาด ความเคียดแค้นทั้งมวลล้วนกลายเป็นไอสังหารเยียบเย็น
ชิ้ง!
ดาบหักส่งเสียงครวญกระจ่างกังวานหาใดเปรียบ ก่อนพริบไหวลับหายกลางอากาศ
กระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้!
ไม่เที่ยงแท้ ย่อมไม่อาจระบุจำนวน ไม่อาจคาดเดาราวกับโชคชะตา ลี้ลับสุดหยั่งดั่งผลกรรมก็ไม่ปาน
อริยบุคคลบรรพกาลถึงกับกล่าวว่า ‘เมื่อไม่เที่ยงแท้มาเยือน หมื่นวิชาล้วนดับสิ้นวายวอด’!
กระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้ก็เป็นแบบเดียวกัน ในฐานะกระบวนเฉือนสุดท้ายของหกกระบวนเฉือนวัฏจักรฟ้า ยามเมื่อกระบวนนี้สำแดงเดชออกมา ก็เหมือนตัวแปรมากมายมาเยือน มีอานุภาพที่เทพผีต่างผวา
กระบวนเฉือนนี้ แก่นอัศจรรย์ที่ซ่อนแฝงไว้ทั้งหมดไม่อาจใช้คำว่าน่าสะพรึงและคลุมเครือตามนิยามของโลกปุถุชนมาบรรยายได้ หากแต่เกี่ยวโยงถึงโอกาสแห่งตัวแปรมหามรรค เรียกได้ว่าพลิกฟ้า
และหลินสวิน ยามนี้เพิ่งจะหยั่งถึงแก่นอัศจรรย์เพียงน้อยนิดของมันเท่านั้น
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ กระบวนเฉือนนี้ก็เป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาครอบครองในตอนนี้!
และตอนนี้ กระบวนเฉือนนี้พุ่งปราดไปทางบรรดาผู้แข็งแกร่งที่บุกฆ่าอาหลู่พวกนั้น
ขณะเดียวกันหลินสวินก็ตะโกนลั่น “เจ้าคางคก มานี่!”
เจ้าคางคกไม่ต้องคิดมากความใดๆ ใช้พลังทั้งหมดที่เหลืออยู่โถมไปหาหลินสวินอย่างไม่ลังเลสักนิด
นี่คือความไว้เนื้อเชื่อใจแบบไม่มีเผื่อแต่อย่างใด ต่อให้การโจมตีแสนแข็งแกร่งพวกนั้นจะอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาก็ไม่เคยขมวดคิ้วนิ่วหน้า
ผู้แข็งแกร่งที่ปิดล้อมเจ้าคางคกมีทั้งหมดสี่คน ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะยืนมองเจ้าคางคกไปรวมกลุ่มกับหลินสวินตาปริบๆ
ล้วนบุกฆ่าเต็มกำลังโดยไม่ลังเล!
ทุกอย่างต่างรวดเร็วเกินไป เร็วจนห่างเพียงชั่วแล่น ชั่วระยะเผาขน
พรึ่บ!
ตรงไหล่เจ้าคางคกถูกแทงจ้วงเป็นรูโบ๋ เลือดสดสาดกระเซ็น
นี่เป็นการโจมตีจากเลี่ยอวิ๋นไห่ผู้สืบทอดลัทธิบูชาจันทร์ เดิมทีนึกว่าจะสามารถแทงทะลุหน้าผากเจ้าคางคกได้ กลับเกิดการคลาดเคลื่อนไปเสี้ยวหนึ่ง
ที่ทำให้เขาแปลกใจสุดๆ ก็คือ ภายใต้สถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้ เด็กหนุ่มชุดเขียวที่เห็นได้ชัดว่าเหมือนตะเกียงน้ำมันเหือดแห้งคนนี้ถึงกับระเบิดพลังแฝงที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมา หลังจากได้รับบาดเจ็บไม่เพียงไม่ถอยร่น ตรงข้ามกลับมุ่งฝ่าไปทางฝั่งหลินสวินต่อ
ตูม!
ขวานยักษ์เล่มหนึ่งแทบจะฟันฉับลงมาในเวลาเดียวกัน หมายจะผ่าเจ้าคางคกออกเป็นสองส่วน
การโจมตีนี้หากใช้ได้ผล เจ้าคางคกต้องตายสถานเดียวไร้ทางรอด
“เชี่ย แม่งเอ๊ย ไสหัวไป!”
ดุจดั่งสัตว์ร้ายติดบ่วงที่เจียนจะหมดหวัง เจ้าคางคกแผดเสียงคำราม ตบฝ่ามือหนึ่งออกไป กลืนตะวันคายจันทรา
แต่เขาขาดเจ็บสาหัสเกินไป การโจมตีนี้ถึงแม้จะต้านพลังโจมตีของขวานยักษ์ได้ แต่กลับสะเทือนจนริมฝีปากกระอักเลือดยกใหญ่ สีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเซียวยิ่งขึ้น
แต่ว่าร่างของเขาหยิบยืมพลังสะท้อนกลับนี้ พุ่งไปทางฝั่งหลินสวินด้วยความเร็วที่รวดเร็วกว่าเมื่อครู่เสียอีก
“ตาย!”
เพียงแต่ที่ทำให้เจ้าคางคกหมดหวังคือดาบศึกเล่มหนึ่งที่พุ่งตามหลังแต่มาถึงก่อน สาดประกายทองที่เจิดจ้าบาดตา ฟันฉับลงมา
ทุกอย่างล้วนเร็วเกินไปแล้ว!
จากแทงทะลวงไหล่เจ้าคางคก กระทั่งถูกขวานยักษ์ซัดสะเทือน เรื่อยมาจนถึงถูกดาบศึกโจมตีในตอนนี้ ต่างแทบจะเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงยอมรับชะตาตั้งนานแล้ว
แต่เจ้าคางคกไม่ใช่
หลินสวินก็ไม่ใช่!
ในช่วงสำคัญที่เกือบไปเยือนแดนมรณะนี้ ร่างกายเจ้าคางคกพลันพริบไหว กลายร่างเป็นคางคกทองสามขาขนาดเท่าฝ่ามือโดยพลัน
ส่วนหลินสวินก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะลงมือ ใช้พลังทั้งหมดโคจรก้าวย่างชือน้ำแข็ง ความเร็วพุ่งกระฉูดขึ้นหลายโข
จากนั้นเจ้าคางคกก็พุ่งเข้าสู่อ้อมอกหลินสวิน
หลินสวินกลับถูกดาบศึกสีทองอร่ามนั่นฟันเข้าที่กลางอก ฉีกแหวกเป็นรอยแผลน่าสยดสยองสายหนึ่ง เนื้อปลิ้นหนังปริ เห็นแกนกระดูกรำไร
นี่ยังเป็นเพราะมีพลังป้องกันที่สกัดไว้ได้ หาไม่ เพียงแค่ดาบเล่มนี้ก็เพียงพอจะฟันเขาขาดเป็นสองท่อนแล้ว!
หืม?
คนที่ถือดาบศึกเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาเย็นชาคนหนึ่ง บุกฆ่าเจ้าคางคกไม่ได้ กลับทำร้ายหลินสวินบาดเจ็บแล้ว นี่ทำให้เขาอึ้งงันอยู่บ้าง จากนั้นก็ดีใจยกใหญ่!
ฝ่ามือเขาออกแรงเพิ่ม หมายจะแหวกอกหลินสวินออก
ตูม!
หลินสวินตบฝ่ามือหนึ่งใส่ดาบศึกอย่างแรง ร่างกายเบี่ยงถอยไปด้านข้าง หลบเลี่ยงเคราะห์สังหารครั้งนี้ได้อย่างหวุดหวิด
เขาพาเจ้าคางคกพุ่งตัวไปหาอาหลู่โดยไม่รีรอแต่อย่างใด
ในเวลาเดียวกันนั้น เหตุการณ์ทางด้านอาหลู่แม้จะร้ายแรงแต่ก็ยังนับว่าปลอดภัยเช่นกัน
กระบวนเฉือนไม่เที่ยงแท้ที่หลินสวินโจมตีออกไปก่อนหน้านี้ ชั่วอึดใจเดียวก็พาดขวางตรงหน้าอาหลู่ สลายการโจมตีจากพวกอูหลิงเฟย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์