กระปุกกระเบื้องที่เอียงตัวหล่นลงมาถูกจับไว้แน่น
ไฉไฉ่เบิกตาโพลงไม่กล้าเชื่อ
สายตาของนางเคลื่อนออกมาจากมือใหญ่ข้างนั้น พลันเห็นแขนที่เต็มไปด้วยฝุ่น มองขึ้นไปอีกจึงเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าชัด
เผ้าผมยุ่งเหยิง หนวดเครารุงรัง เสื้อผ้ามอมแมม เปรอะเปื้อนไปทั้งตัว มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่เจิดจ้าและใสกระจ่าง
เพียงแต่แววตานั่นเหมือนจะใสและสะอาดเกินไป ราวกับไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก เผยความรู้สึกว่างเปล่าอย่างหนึ่งออกมา
ไฉไฉ่ชะงัก รู้สึกว่าคนมอมแมมตรงหน้าให้ความรู้สึกคุ้นเคยราวกับเคยรู้จักกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเคยเจอที่ไหน
“เจ้าบ้าคนนั้น!”
บนหน้าผาห่างออกไปกลุ่มผู้ฝึกปราณจำเขาได้ มีคนพูดอย่างเย้ยหยัน
ช่วงที่ผ่านมาข่าวเกี่ยวกับ ‘เจ้าบ้า’ คนนี้ก็กลายเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่งในแดนเผาเซียน
เขาเหมือนคนเถื่อนที่เสียสติไปแล้ว เดินอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ในแดนเผาเซียน ดูเลอะเลือนและบ้าคลั่ง
ท่ามกลางภูเขาแม่น้ำอันกว้างใหญ่ไพศาล สามารถมองเห็นร่องรอยของเขา
ในการเข่นฆ่านองเลือดเพื่อช่วงชิงวาสนาและศุภโชค ก็สามารถมองเห็นเงาร่างของเขาเช่นกัน
แต่เขาเป็นเหมือนคนผ่านทาง เดินทางผ่านไปโดยไม่สนใจ ไม่มีใครรู้ว่าเขาทำอะไรอยู่
และไม่รู้ว่าเหตุใดเขาจึงบ้าถึงขนาดนี้
แต่สิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดคือ ไม่ว่าจะเจออันตรายอะไรเขามักสามารถรอดชีวิตอย่างปลอดภัย เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์หนึ่ง
“เจ้าบ้า เจ้ามานี่ ไปช่วยพวกข้าเด็ดดอกนั่นลงมา”
ชายหนุ่มชุดคลุมดำพูดเสียงเย็น
เงาร่างที่ถูกพวกเขามองว่าเป็นเจ้าบ้าหันมา สายตาเต็มไปด้วยความงงงวย
“อย่าไป!”
ไฉไฉ่หัวใจกระตุกวูบ สองมือพลันคว้าแขนของเจ้าบ้า กล่าวว่า “พวกเขาจะให้เจ้าไปตาย เจ้าดูสิ ตรงรากของไม้ดอกต้นนั้นมีงูวิญญาณตัวหนึ่งพันอยู่ จะพรากชีวิตเจ้าได้!”
เจ้าบ้าก้มหน้ามองลงไป
ฟ่อๆ!
ตอนที่ถูกสายตาของเขาสังเกตเห็น งูวิญญาณสีทองอร่ามตัวนั้นเหมือนตึงเครียดไร้ที่เปรียบ ร่างกายพลันรัดเกร็ง ในปากงูแลบลิ้นส่งเสียงฟ่อๆ เหมือนกำลังข่มขู่
“นางเด็กน้อย เจ้าช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
ชายหนุ่มชุดคลุมดำสีหน้าอึมครึม ลงมืออย่างรุนแรง ฟาดประกายอสนีที่สว่างไสวสายหนึ่งออกมา เปล่งประกายเรืองรองฉีกทึ้งห้วงอากาศ
“หนีเร็ว!”
ไฉไฉ่ส่งเสียงกรีดร้อง คว้าแขนของเจ้าบ้าเตรียมจะหนี
เพียงแต่นางกลับพบว่าแขนนั่นหนักอึ้งราวกับภูเขาลูกหนึ่ง ไม่ขยับเลยสักนิด ไม่สามารถถูกนางเคลื่อนย้ายได้แม้แต่น้อย
ตูม!
ประกายอสนีพุ่งเข้ามา กลับเห็นเจ้าบ้ายกมือขึ้นคว้าลวกๆ ประกายอสนีที่รุนแรงราวกับเปราะบางปานเศษกระดาษ แตกกระจายในอากาศประหนึ่งดอกไม้ไฟเบ่งบาน
ไฉไฉ่อึ้งงัน นี่… หรือจะเป็นยอมฝีมือพลิกฟ้าคนหนึ่ง
พวกชายหนุ่มชุดดำที่อยู่ห่างออกไปต่างนัยน์ตาหดรัดลง ในข่าวลือเจ้าบ้าคนนี้แม้จะเซอะซะ แต่กลับสามารถอยู่รอดปลอดภัยมาถึงตอนนี้ ดูเหมือนว่าก็มีความสามารถไม่น้อย
บรรยากาศพลันหนักอึ้งขึ้นมาเล็กน้อย
ชายหนุ่มชุดคลุมดำกลับสีหน้าย่ำแย่อยู่บ้าง การโจมตีของตนกลับถูกเจ้าบ้าคนหนึ่งสลายได้อย่างสบายๆ นี่ทำให้เขาเสียหน้า
แต่ไม่รอเขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง พลันเห็นเงาร่างของเจ้าบ้าพริบไหวทีหนึ่งก็มาอยู่บนหน้าผาแล้ว จากนั้นตรงเข้าไปหน้าไม้ดอกต้นนั้น ยื่นมือไปคว้า
และตอนนี้เอง กลีบดอกกลีบสุดท้ายบนดอกตูมที่ราวกับหล่อขึ้นจากแร่ทองแดงเพลิงได้เบ่งบานแล้ว
ในดอกไม้ รุ้งศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงสว่างไสวสะดุดตาราวกับฝนเพลิงแดงพรั่งพรู กลิ่นหอมบริสุทธิ์คลุมเครือ ลอยอยู่กลางฟ้าดิน
พรึ่บ!
เพียงแต่ในเวลาเดียวกัน งูวิญญาณสีทองที่พันอยู่ตรงรากไม้ดอกก็โจมตีด้วย ราวกับสายฟ้าสีทองสายหนึ่งพุ่งกัดข้อมือของเจ้าบ้าคนนั้นไว้
“แย่แล้ว!”
ไฉไฉ่ตกใจจนหน้าเสีย ทนมองไม่ได้
“ลงมือ!”
และในเวลาเดียวกันพวกชายหนุ่มชุดดำก็โจมตีอย่างเหี้ยมหาญ พวกเขาเตรียมพร้อมมานานก็เพื่อรอตอนนี้
โครม!
แสงสมบัติ วิชามรรคที่ไม่มีที่สิ้นสุดพลุ่งพล่านในอากาศ สว่างไสวสะดุดตา ราวกับกระแสน้ำที่ไหลหลาก ล้วนเล็งไปยังเจ้าบ้าที่หันหลังให้ทุกคน!
แต่ภาพที่ทำให้พวกเขาต่างขนลุกเกิดขึ้นแล้ว การโจมตีใดๆ ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ราวกับตกลงในเหวลึก ถูกกลืนกินจมหายไร้ร่องรอย
สมบัติทุกชิ้นล้วนถูกสยบในชั่วขณะนี้ ร่วงลงพื้นพร้อมเสียงครวญ แสงสมบัติริบหรี่ลง!
ทุกคนต่างตื่นตกใจ ในใจขนลุก ตกใตจนหนังหัวแทบระเบิดออก
นี่เป็นไปได้อย่างไร
ส่วนเจ้าบ้านั่นกลับเหมือนไม่รู้สึกรู้สา
เขาถึงขั้นไม่เคยสนใจงูวิญญาณสีทองที่กัดข้อมืออยู่ ห่วงแต่เด็ดดอกไม้ประหลาดที่ผลิบานและเปล่งประกายราวกับโลหะ จากนั้นเงาร่างพริบไหว เคลื่อนกลับมาอยู่ข้างๆ ไฉไฉ่แล้วยื่นดอกไม้ดอนนั้นให้
“ให้… เจ้า”
เขาอ้าริมฝีปากแล้วเปล่งเสียงอย่างยากลำบาก เหมือนไม่ได้พูดมานานจนลืมไปแล้วว่าควรจะสื่อสารอย่างไร
ไฉไฉ่เองก็ตาค้าง หัวสมองว่างเปล่า
แต่ละภาพที่เห็นก่อนหน้านี้เหลือเชื่อเกินไป ทำให้จิตใจและร่างกายของนางถูกโจมตี ตกอยู่ในความตะลึง
“เจ้ากลัวหรือ”
เจ้าบ้าพูดพร้อมจับงูทองที่กัดข้อมือไม่ปล่อยขึ้นมา เพียงดีดนิ้วเสียงพรึ่บดังขึ้น งูทองตัวนั้นถูกดีดจนปลิว ตกลงในทะเลเมฆที่กว้างใหญ่ไพศาลห่างออกไปไกล
เมื่อมองดูข้อมือเขาอีกครั้ง สภาพสมบูรณ์ไร้บาดแผล แม้แต่รอยฟันยังไม่หลงเหลือ
เฮือก!
ชายหนุ่มชุดคลุมดำและคนอื่นๆ รู้สึกเพียงว่าไอหนาวสะท้านสายหนึ่งแพร่กระจายจากกระดูกสันหลังไปทั่วทั้งร่าง ขนลุกไปทั้งตัว ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง
งูทองตัวนั้นใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ กลิ่นอายน่ากลัวอย่างที่สุด ก่อนหน้านี้หากไม่ใช่เพราะกลัวงูทองตัวนี้ พวกเขาจะรอถึงตอนนี้ได้อย่างไร
แต่ตอนนี้งูทองตัวนี้กลับถูกเจ้าบ้าคนนั้นดีดจนปลิวในทีเดียว…
แม้เรี่ยวแรงจะดิ้นรนยังไม่มี!
ท่าทางผ่อนคลายสบายๆ นั่น ทำให้พวกชายหนุ่มชุดคลุมดำแทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง
“ไม่กลัว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์