Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1162

ระหว่างหอมกุฎและเจดีย์มกุฎคั่นกลางด้วยถนนสายหนึ่ง

บริเวณกึ่งกลางของถนนคือตำหนักโบราณมีความสูงร้อยจั้ง

เมื่อมองจากกลางตำหนัก ฝั่งตะวันออกก็คือหอมกุฎ ฝั่งตะวันตกคือเจดีย์มกุฎ ปรากฏให้เห็นเด่นชัด

เดิมทีที่แห่งนี้เป็นถิ่นที่พักของลัทธิบูชาจันทร์ เพียงแต่บัดนี้หลินสวินได้ทำการยึดครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ยามที่ภายในเมืองยังปั่นป่วนอยู่ หลินสวินและเสี่ยวอิ๋นก็มาเจอกันในตำหนักแห่งนี้

“เสี่ยวอิ๋น เจ้าลองดูว่ามีสมบัติที่เจ้าหมายปองหรือไม่” หลินสวินเอ่ย

เบื้องหน้าของเขาสมบัติกองเป็นภูเขา วัตถุดิบวิญญาณเอย ลูกกลอนโอสถเอย สมบัติธรรม ม้วนหยก… สมบัติละลานตาจนนับไม่ถ้วน

แสงสมบัติไหลเวียนวน ส่องประกายทั่วโถง

นี่คือทรัพย์หลังศึกที่ได้รับหลังจากการนองเลือดของขุมอำนาจใหญ่แต่ละแห่งในครานี้

แค่เพียงโอสถราชันก็มีมากกว่าสามสิบต้น!

นอกจากนี้ยังมีของมีค่าและวัตถุดิบเทพที่หายากจำนวนหนึ่ง ต่างมีความอัศจรรย์พันลึกแตกต่างกันออกไป โลกภายนอกแทบจะไม่เคยปรากฏให้เห็น

สมบัติกองพะเนินละลานตา ความล้ำค่าของมันไม่อาจประเมินออกมาได้

ไม่ต้องพูดถึงผู้ฝึกปราณภายในเมือง แม้แต่อริยะมาพบเห็น ก็เกรงว่าจะเป็นลมล้มพับไปด้วยความอิจฉาตาร้อน!

เห็นได้ว่าในช่วงนี้หลังจากบรรดาขุมอำนาจใหญ่ทั้งหลายครองเมืองโบราณเผาเซียนแล้ว ได้สืบค้นและรีดไถสมบัติไปมากเท่าไร

และไม่แปลกที่ยามแดนมกุฎปรากฏขึ้นมา ขุมอำนาจใหญ่ทั้งหลายในใต้หล้าต่างเคลื่อนกำลังอย่างไม่เสียดายเข้ามาในแดนมกุฎนี้

ศุภโชคและวาสนาในนี้มีมากเกินไปจริงๆ มากเสียจนโลกภายนอกไม่อาจทัดเทียมได้!

ทว่า ยามนี้สมบัติพวกนี้ล้วนตกเป็นของหลินสวิน

หากให้พวกขุมอำนาจใหญ่อย่างเผ่าอีกาทอง เขาวิญญาณหมื่นอสูรล่วงรู้ คงจะโกรธเกรี้ยวเสียจนแทบคลั่ง

ไม่พูดถึงถิ่นที่พักถูกขุดรากถอนโคนออกไป แม้แต่สมบัติที่เก็บรวบรวมมาอย่างยากลำบากก็ถูกชิงไปด้วย การโจมตีครั้งนี้หนักหนาเกินไปแล้ว

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินสวิน เสี่ยวอิ๋นก็ไม่เกรงใจ เก็บรวบรวมสมบัติสิบกว่าอย่างด้วยความรวดเร็ว ทั้งหมดล้วนแต่สามารถช่วยยกระดับเส้นทางการวิวัฒน์ของเขา

“หมดแล้วหรือ”

หลินสวินอึ้งไป สมบัติตั้งมากมายขนาดนี้ เสี่ยวอิ๋นกลับเลือกไปเพียงนิดเดียว สร้างความประหลาดใจให้แก่เขาอยู่บ้าง

“หากมีดอกสยบวิญญาณก็คงจะดี”

เสี่ยวอิ๋นอัดอั้นเล็กๆ เช่นกัน เส้นทางที่เขาเดินอยู่คือมรรคาวิวัฒน์จิตวิญญาณ ทว่าสมบัติในใต้หล้านี้ที่เกี่ยวกับการพัฒนาจิตวิญญาณมีน้อยเกินไปและพบเจอได้ยาก

หลินสวินพยักหน้า “ให้ข้าจัดการเถอะ”

เขาเตรียมนำสมบัติที่ไม่มีประโยชน์ต่อตนเอง ออกไปแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติที่เกี่ยวกับการฝึกจิตวิญญาณกับผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ

“นายท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ การสละชีวิตยอมตายเพื่อท่านเป็นหน้าที่ของข้า ไม่ใช่ทำเพราะคิดให้ท่านมาตอบแทนบุญคุณ!” เสี่ยวอิ๋นเงยหน้า สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง

“ข้ารู้” หลินสวินยิ้ม

แต่ก็เพราะเหตุนี้ถึงได้มุ่งมั่นช่วยเหลือเสี่ยวอิ๋นยิ่งขึ้น!

ต่อมาหลินสวินนำสมบัติภายในตำหนักออกมาเรียงและจัดแจง เก็บเฉพาะสิ่งที่ตนต้องการ ส่วนที่เหลือวางแผนเอาไปแลกเปลี่ยนทั้งหมด

ด้านเสี่ยวอิ๋นก็กลับเข้าไปในห้วงนิมิตของหลินสวินเพื่อเริ่มฝึกฝนแล้ว

การเข้าสู่แดนมกุฎครั้งนี้ เสี่ยวอิ๋นก็วางแผนทะลวงระดับราชันด้วยเช่นกัน!

“พวกเขา… บางทีคงเข้าใจว่าการนองเลือดคงเจ็บสิ้นแล้วกระมัง”

หลินสวินเอ่ยกับตัวเอง ภายในดวงตาประกายแสงเยียบเย็นไหวเคลื่อน หันหลังออกจากตำหนัก

ภายในเรือนพักหลังหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งเผ่าอีกาทองหลายคนรวมตัวกัน

พวกเขาต่างโชคดีหนีรอดจากความวุ่นวายมาได้ จึงมารวมตัวกันในเวลานี้

“ข้าถูกเรียกตัวจากศิษย์พี่อูหยวนเจิ้น เขาสั่งให้พวกเราออกจากแดนเผาเซียน มีเพียงทำเช่นนี้ถึงจะสามารถพลิกสถานการณ์”

ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวด้วยสีหน้าคร่ำเคร่ง เขามีนามว่าอูฮว่าเตี่ยน เป็นบุคคลขอบเขตมกุฎที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง

“จากไปหรือ หรือไม่คิดแก้แค้นแล้ว”

ผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยความโมโห

ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเย็น “เหล่าราชันไม่สามารถเข้าเมืองได้ เจ้าคิดว่าพวกเราคนไหนสามารถเป็นคู่ประมือกับเทพมารหลินนั่นกัน พวกเรามีชีวิดรอดมาได้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว!”

“เช่นนั้นก็ทำตามนั้น ครั้งนี้ในเผ่าของเรานอกจากองค์ชายเจ็ดแล้ว ยังมีองค์ชายเก้า องค์ชายสิบสามที่เข้ามาในแดนมกุฎด้วย”

“แค่ว่าต่างจากพวกเรา องค์ชายเก้าและองค์ชายสิบสามเข้าแดนมกุฎจากสถานที่นำทางอื่น สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือรีบไปรวมตัวกับพวกเขา นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองโบราณเผาเซียนไปบอกแก่พวกเขา”

“หลังจากนั้นจึงจะเป็นเวลาคิดล้างแค้น!”

อีกคนหนึ่งสูดหายใจลึก เอ่ยพูดเสียงกระจ่างชัด

ดังนั้นพวกเขาจึงลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง และจากเรือนพักหลังนี้ไป

ภายในเมืองโบราณเผาเซียนล้วนฮือฮาไปทุกแห่ง กำลังกระจายข่าวการเคลื่อนไหวอันนองเลือดของหลินสวินครั้งนี้ ตามถนนตรอกซอยล้วนแต่เกิดการวิพากษ์วิจารณ์

“หึๆ เผ่าอีกาทองนั่นช่างไม่รู้จักหลาบจำ ช่วงก่อนหน้านี้ถูกเทพมารหลินจัดการไปหยกๆ มาครานี้ยังกล้าเข้าร่วมการเคลื่อนไหวที่หมายหัวหลินสวิน นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายหรอกหรือ”

“ดูสิ พวกอีกาทองเหล่านั้นที่หนีได้ก็หนี ที่ตายก็ตาย ในอดีตพวกเขาโอหังขนาดไหน มาตอนนี้แม้แต่เมืองยังไม่กล้าเข้า”

บนท้องถนนการวิพากษ์วิจารณ์ที่เกี่ยวข้องกับเผ่าอีกาทองก็เกิดขึ้นเป็นระยะ

พวกอูฮว่าเตี่ยนต่างเก็บงำกลิ่นอาย เกรงว่าจะถูกคนอื่นมองฐานะของตนออก เพียงแต่ยามได้ยินคำวิจารณ์เหล่านี้ ก็พาให้พวกเขาโกรธจนกัดฟันกรอด

เมื่อก่อนในเมืองโบราณเผาเซียนมีใครกล้าวิจารณ์พวกเขาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้

ทว่าบัดนี้…

แม้แต่คนทั่วไปไม่สลักสำคัญยังกล้าวิจารณ์พวกเขาตามอำเภอใจ ซ้ำในน้ำเสียงยังแฝงความเย้ยหยัน น่าโมโหเสียจริง

“อดทนไว้ก่อน ต่อไปไม่ช้าก็เร็วพวกเราจะต้องกลับมาทวงคืนอีกครั้ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์