Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1178

สรุปบท ตอนที่ 1178 เหยียบย่างระดับราชัน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 1178 เหยียบย่างระดับราชัน จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 1178 เหยียบย่างระดับราชัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ฉัวะ!

กระถางสมบัติที่วิวัฒน์จากอสนีเคราะห์สายหนึ่งลงมาเยือน แวววาวโปร่งใส แผ่กลิ่นอายทำลายโลก

“ไม่…!”

มู่เหิงคำราม หันตัวหมายจะเผ่นหนี

เพียงแต่ภายใต้เคราะห์สวรรค์ มีแต่ต้องประจันหน้ากับความยากลำบากเท่านั้นจึงจะมีโอกาสข้ามด่านเคราะห์ เตลิดหนีรังแต่จะยิ่งตายอนาถกว่าเดิม

ปึง!

มู่เหิงร่างระเบิดเป็นจุณ ฝุ่นคลุ้งควันโขมง

หากเป็นตอนปกติ อาศัยรากฐานพลังและพรสวรรค์ของพวกเขาสิบแปดศิษย์กษิติครรภ์ มหาเคราะห์มรรคราชันไม่อาจต้านพวกเขาได้สักนิด

ที่น่าเสียดายคือสภาพการณ์ในวันนี้ผิดธรรมดาเกินไปจริงๆ

มหาเคราะห์มรรคราชันสิบแปดด่าน ซ้ำยังมีเคราะห์ระดับมกุฎราชันเพิ่มมาอีกหนึ่ง ทั้งหมดล้วนปิดครอบฟ้าดินทั้งแถบ อย่าว่าแต่พวกเขาเลย เปลี่ยนเป็นผู้กล้าขอบเขตมกุฎคนใดๆ กลัวแต่คงยากจะต้านทานกันทั้งสิ้น!

มู่เจิ้งทุกข์ตรมจนเปลี่ยนเป็นขุ่นเคืองถึงขีดสุด แหงนหน้าขึ้นฟ้าคำรามลั่นไม่สิ้น ชิงชัง เคืองขุ่น ไม่ยินยอม คับแค้น… ความรู้สึกต่างๆ นานากระตุ้นจิตใจ

“หรือจะเป็นกรรมสนองกรรมจริงๆ”

เสียงของมู่เจิ้งเหมือนสัตว์ร้ายที่จนตรอกกำลังคำรามลั่น

ผู้ฝึกปราณในเมืองต่างสังเวชใจ นึกถึงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นอริกับเทพมารหลิน แทบจะไม่มีสักคนที่ได้ตายดี!

เหมือนอย่างเผ่าอีกาทอง สำนักยุทธ์นครนิล เผ่าวิญญาณสมุทร เขาวิญญาณหมื่นอสูร ไม่มีใครไม่เป็นเช่นนี้

และตอนนี้ สิบแปดศิษย์กษิติครรภ์นี่ก็จบเห่อย่างเห็นได้ชัดแล้ว!

ย้อนกลับไปมองหลินสวิน ยังคงต่อสู้ดุเดือด อานุภาพดุจดั่งเทพมาร มีพลานุภาพดุจข้าอยู่เหนือทุกผู้คน พลิกฟ้าตัดวิถี กร้าวแกร่งจนพาให้คนใจสะท้าน

เมื่อเทียบกันสองฝ่ายแล้ว นี่จะไม่ให้ผู้คนปลงตกได้อย่างไร

ไม่นาน สิบแปดศิษย์กษิติครรภ์ก็ถูกฆ่าไปสิบเจ็ดคน เหลือเพียงมู่เจิ้ง!

เขาในยามนี้จนตรอกสิ้นสภาพ

เขาละทิ้งการต่อต้าน ราวกับศพเดินได้ที่มึนชา เงยหน้ามองหลินสวินที่อยู่จุดสูงกว่า ในหัวผุดหนึ่งประโยคขึ้นมา

‘ตราบใดที่ข้าหลินสวินยังมีชีวิตอยู่ สักวันหนึ่ง บนโลกนี้จะไม่มีอารามกษิติครรภ์อีก!’

ตูม!

และพร้อมกันนั้น อสนีสายหนึ่งฟาดเปรี้ยงลงกลางใจ เบื้องหน้ามู่เจิ้งดำมืดทั้งแถบ สูญเสียจิตสำนึกไปแล้ว

ก่อนสิ้นใจ ภายในใจมีแต่ความคิดนั้น หากเจ้าหมอนั่นยังอยู่ อารามกษิติครรภ์ในภายภาคหน้าก็จะไม่สงบสุขอีกต่อไป…

ถึงตอนนี้สิบแปดศิษย์อารามกษิติครรภ์ต่างวิญญาณกระเจิงจิตแตกซ่าน ถูกมหาเคราะห์กวาดสังหาร!

สิ่งนี้พาให้ผู้คนใจสะท้าน โดยเฉพาะผู้สืบทอดขุมอำนาจใหญ่พวกนั้น แต่ละคนทั้งตกใจทั้งกลัว ขวัญเสียอย่างสิ้นเชิง

สถานการณ์สิ้นหวังเช่นนี้ หลินสวินไร้อันตราย ตรงกันข้ามสุดท้ายกลับส่งสิบแปดศิษย์อารามกษิติครรภ์สู่ความตาย นี่จะไม่ให้ผู้คนหวาดผวาได้อย่างไร

หากรู้ถึงหูอารามกษิติครรภ์ว่าสิบแปดศิษย์รุ่นนี้ล้วนตายไปทั้งอย่างนี้ จะคิดอย่างไรกัน

ตูม!

บนเวิ้งฟ้าอสนีเคราะห์ยังคงเดือดปะทุต่อเนื่อง โชติช่วงแพรวพราว พร่าตาไร้ทัดเทียม

เห็นได้รางๆ ว่าเงาร่างหลินสวินบุกทะลวงอยู่ในนั้น ดุจเทพสงครามผู้พลิกฟ้าไร้พ่าย จนบัดนี้ยังไม่เคยถูกซัดปราชัย

หลังการตายของสิบแปดศิษย์กษิติครรภ์ อสนีเคราะห์สิบแปดด่านนั่นกลับไม่ได้สลายไปอย่างน่าแปลก หากแต่ล้วนพุ่งเป้าไปทางหลินสวิน

นี่ก็คือผลที่ตามมาของการก่อกวนด่านเคราะห์

ก่อนหน้านี้ยามที่หลินสวินถูกกักขัง สาเหตุที่ไม่เลือกทลายวงล้อม ถึงขนาดไม่เคยเฉียดใกล้สิบแปดศิษย์กษิติครรภ์ ก็เพราะกลัวว่าจะไปกระทบโดนด่านเคราะห์ที่พวกเขาชักนำมา

แต่ยามนี้ เขาไร้ทางให้ถอยหนีแล้ว

ชนะ บรรลุราชัน!

แพ้ ตาย!

ไม่มีทางที่สองให้เลือก

เปรี้ยง!

หลินสวินถูกผ่ากระเด็นอีกครั้ง ทั่วร่างปรากฏควันเขียว ผิวหนังปริแตกไหม้เกรียม อนาถจนทนมองไม่ได้

ทว่านัยน์ตาของหลินสวินกลับเปลี่ยนเป็นวาววับ เขาสัมผัสได้ว่าท่ามกลางการต่อสู้ระดับนี้ ฐานมรรค สารกาย พลังชีวิต และจิตวิญญาณแห่งตนกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตกใจ

เขากลืนโอสถสมบัติข้ามด่านเคราะห์ไปพลางเงยหน้าขึ้น เมฆาเคราะห์บนเวิ้งฟ้าพลิกตลบ ดำทะมึนหาใดเปรียบ

อันตรายแท้จริงมาถึงแล้ว!

หลินสวินสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง สัมผัสได้อย่างว่องไวว่ากลิ่นอายในเมฆาเคราะห์กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง

ตูม!

ฉับพลันอสนีเคราะห์แพรวพราวนับพันนับหมื่นพุ่งยิง ตอนที่ร่วงจากเวิ้งฟ้าถึงกับวิวัฒน์เป็นสิ่งมีชีวิตนับพันหมื่นตัว

มีนกเซียนอาบไล้แสงอสนีกระพือปีกร่ายระบำ มีสัตว์ปีศาจลำตัวดั่งภูเขาถือกระชับทัณฑ์อสนี คำรามลงมาราวกับทัพใหญ่ เบียดเสียดทั่วเวิ้งฟ้าแถบนั้น

“สวรรค์!”

ทั้งในและนอกเมืองทุกคนล้วนตาเกือบกลิ้งหลุดออกจากเบ้า นี่ยังจะให้ทางรอดแก่ผู้อื่นอีกหรือ

“ฆ่า!”

ไม่อาจคิดมาก หลินสวินส่งเสียงคำรามยาวออกมาแล้วเข้าปะทะรับศึก ต่อต้านสุดความสามารถ ปลดปล่อยพลังแห่งตนออกมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ยั้งมือแม้แต่เสี้ยวเดียว

นี่คือมรรคาของเขา แตกต่างจากโลกหล้า ผิดจากอดีตกาล ทั้งหมดล้วนลิขิตไว้แล้ว มหาเคราะห์ที่เขาเผชิญหน้าก็แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเช่นเดียวกัน

แม้จะงัดทุกสิ่งที่มี แต่ไม่ทันไรหลินสวินเองก็ผมเผ้ายุ่งเหยิง ร่างกายแตกเป็นริ้ว เส้นผมล้วนไหม้เกรียมหลุดขาด

เมื่อถึงตอนสุดท้าย ขนาดแกนกระดูกยังแตกหัก อวัยวะภายในบาดเจ็บสาหัส ประสบอันตรายอย่างใหญ่หลวง

เคราะห์มกุฎราชันระดับนี้ ไม่เคยมีมาก่อนอย่างแน่นอน!

น่าสะพรึงเกินไป!

แต่ขณะเดียวกันหลินสวินเองก็รับรู้ได้ว่า ท่ามกลางอสนีเคราะห์นั่นซุกซ่อนแก่นมหามรรคที่เดือดพล่านไร้ทัดเทียมเอาไว้ ขอเพียงถูกซัดทลายก็จะถูกตนดูดซับไว้ได้

“ฆ่า!”

หลินสวินไร้ทางให้เลือก กำลังสู้สุดชีวิต ต่อสู้ต้านทานไม่หยุด

ฝึกปราณจนบัดนี้ เขาผ่านเคราะห์สังหารเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาไม่รู้เท่าไร ผงาดขึ้นท่ามกลางการเคี่ยวกรำโชกเลือด ความสำเร็จทุกประการล้วนได้มาจากการพึ่งตัวเองทั้งสิ้น

เคราะห์สวรรค์ในยามนี้อาจเรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อนในประวัติการณ์ อดีตปัจจุบันล้วนไม่เคยมี แต่หลินสวินกลับไม่กลัวสักนิด

บาดแผลบนตัวเขายิ่งสาหัสขึ้นเรื่อยๆ แต่สารกาย พลังชีวิต จิตวิญญาณของเขากลับหลอมรวมในระดับสูงขึ้น มรรควิถีภายในกายฟูมฟักสารพลังมหามรรค แผ่พลังชีวิตที่พลุ่งพล่านออกมา

ประหนึ่งเตาเพลิงแกร่งกล้าบดสลายสิ่งแปลกปลอมจนมีเพียงแก่นแท้ สามารถหลอมรังสรรค์กระบี่สมบัติที่คมกริบและแข็งแกร่งที่สุดออกมา

“ฆ่า!”

หลินสวินส่งเสียงคำรามเดือด พยายามประคองสติให้มั่นคง งัดทั้งหมดที่มี เดิมพันมรรควิถีทั่วร่าง

ท่าทางเด็ดเดี่ยวและผงาดกร้าวนั่น พาให้ผู้คนนับไม่ถ้วนล้วนไหวหวั่นสั่นสะท้าน

อะไรที่เรียกว่าผู้กล้าอย่างแท้จริง

ก็นี่อย่างไรเล่า!

มาดสง่ากล้าแกร่ง ฝืนฟ้าตัดวิถี ไม่แพ้พ่ายตลาดกาล!

การต่อสู้ครั้งนี้ หลินสวินประจันหน้ากับสถานการณ์สิ้นหวัง ดิ้นรนเคว้งคว้างระหว่างความเป็นความตาย ฝ่าความยากลำบากและอันตรายที่ไม่เคยมีมาก่อน

ทุกครั้งที่ซัดทำลายอสนีเคราะห์ ก็ทำให้เขาได้รับพลังชีวิต พาให้ความแข็งแกร่งเพิ่มระดับ ทั้งภายในและภายนอกร่างกายบังเกิดการเปลี่ยนสภาพ

ในอันตรายภัยสุ่มเสี่ยงซุกซ่อนพลังชีวิต ในการผลาญทำลายปรากฏชีวิตใหม่!

“ฆ่า!”

แต่ไม่ว่าอย่างไร นัยน์ตาหลินสวินลุกโชนตั้งแต่ต้นจนจบ จิตต่อสู้ไม่ลดทอน ไม่ว่าพบเจอการบาดเจ็บสาหัสปานใดก็ไม่เคยย่อท้อ

ทั้งในและนอกเมืองล้วนเงียบสงัดไร้สุ้มเสียง อาการสะท้านสะเทือนไร้รูปกำลังแผ่ลามในใจทุกผู้คน ทุกสายตาล้วนจับจ้องไปยังเงาร่างที่กรำศึกเพียงลำพังบนเวิ้งฟ้านั่น สีหน้าเลื่อนลอย

ตูม!

ไม่รู้ว่าผ่านการต้านทานมามากเท่าไร อสนีเคราะห์ทั่วฟ้านั่นล้วนแตกสลายกลายเป็นละอองแสง

และยามนี้ พลังชีวิตรอบกายหลินสวินใกล้จะเหี่ยวแห้ง การต่อสู้ครั้งนี้ลำเค็ญเกินไป ทำให้เขาสู้ศึกถึงขีดสุด สู้จนลืมเลือนสรรพสิ่ง!

ร่างกายของเขาแตกทลาย ไหม้เกรียม สภาพเหี่ยวซูบ ไม่เหลือจุดที่สภาพสมบูรณ์อีกต่อไป

ทว่าเงาร่างของเขายังคงยืนหยัด เหยียดตรง ราวกับภูผาที่ไม่เคยถูกกดทับถมจนคดเคี้ยวมาก่อน!

“สำเร็จแล้ว?”

ยามเมื่อเงยหน้าอย่างยากลำบาก ก็เห็นว่าบนเวิ้งฟ้าเมฆาเคราะห์ล้วนมลายไปตั้งแต่เมื่อไรไม่อาจรู้ หลินสวินอึ้งก่อนเป็นอย่างแรก ค่อยๆ ได้สติจากจิตสำนึกอันเลือนรางและมึนชา

หมื่นสำเนียงเงียบงัน ฟ้าดินไร้สุ้มเสียง

มีเพียงเขาตัวคนเดียว ยืนตระหง่านใต้เวิ้งฟ้า

สำเร็จแล้ว!

ในใจหลินสวินผุดอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูกขึ้นมาวูบหนึ่ง หลังจากนั้นจู่ๆ ก็แหงนหน้าขึ้นฟ้าแผดคำรามเสียงยาวคราหนึ่ง

เสียงคำรามนั่น ประหนึ่งราชันคนใหม่กำลังประกาศการมาเยือนของตน พาให้สิบทิศล้วนสั่นสะเทือน ฟ้าดินภูผาธารากู่ร้องประสานเสียง!

ทั้งในและนอกเมือง ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น จิตใจผุดความยำเกรงและสั่นสะเทือนที่ยากจะบรรยายขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่

ฮู้ม!

รอบกายหลินสวินปรากฏหุบเหวลึกขึ้น กลืนกินจักรวาลโดยรอบสี่ทิศแปดทาง ไม่รู้มีละอองแสงอสนีเคราะห์ที่ถูกซัดทลายไหลกรูมาเท่าไหร่ ทั้งหมดล้วนทะลักสู่ร่างกายเหี่ยวแห้งที่แตกระแหง ไหม้เกรียม เปี่ยมด้วยบาดแผลของหลินสวิน

หลังจากนั้นกลิ่นอายของเขาก็บังเกิดการเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าคว่ำพิภพ!

ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย บาดแผลเชื่อมสมานกันอย่างไร้รูป เลือดลมพลุ่งพล่านดั่งของเหลว แกนกระดูกเปล่งปลั่งดุจหยก แสงมรรคแพรวพราวไหลเวียนทั่วอวัยวะภายใน แผ่พลังชีวิตที่โหมทะลักราวกับห้วงสมุทร…

จิตวิญญาณดุจโคมไฟ ส่องสะท้อนเพียงตน ประหนึ่งสว่างนิรันดร์ไม่เสื่อมคลาย

และในร่างกายของเขา บริเวณที่เดิมทีจักระเทพรวมตัวอยู่ ก็ถูกเมล็ดพันธุ์แห่งมรรคที่เจือแสงระเรื่อแพรวพราวมาแทนที่!

…………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์