ยอดเขาฝนดาวตก
ตำหนักเรียงรายเป็นระเบียบล้วนแต่สร้างขึ้นใหม่ ตำหนักแต่ละหลังถูกขุมอำนาจหนึ่งยึดครอง แบ่งแยกกันชัดเจน
ภูเขาฝนดาวตกคือหนึ่งใน ‘แดนมงคลใหญ่’ ที่มีจำนวนนับนิ้วได้ของแดนอัคคีทักษิณ ตั้งแต่แดนเก้าบนเปิดออก ที่นี่ก็ถูกเผ่าอีกาทองยึดครองมาตลอด
จนถึงทุกวันนี้ไม่เพียงแต่ไร้ผู้สั่นคลอน กลับเป็นว่ามีขุมอำนาจมากมายเลือกสวามิภักดิ์ต่อเผ่าอีกาทอง ยอมกลายเป็นบริวาร
ด้วยประการฉะนี้อำนาจโดยรวมของเขาฝนดาวตกจึงได้ก้าวสู่ระดับนายเหนือหัวแห่งแดนอัคคีทักษิณ ขุมอำนาจที่ทัดเทียมกันได้มีจำนวนไม่เกินห้าแห่ง
“น่าเสียดาย องค์ชายเก้าจากไปครานี้ห่วงว่าจะมีขุมอำนาจอื่นฉวยโอกาสจึงให้พวกเราอยู่คุ้มกันภูเขา ไม่อย่างนั้นพวกเราคงได้ไปทวงบัญชีเทพมารหลินนั่นแล้ว”
ชายชุดคลุมเพลิงคนหนึ่งทอดถอนใจ
“ช่วยไม่ได้ ขุมอำนาจในแดนอัคคีทักษิณมีมากมาย หากพวกเราจากเขาฝนดาวตกไปกันหมด ขุมอำนาจอื่นต้องไม่ยอมนั่งนิ่งๆ แน่”
ด้านข้างหญิงผมขาวคนหนึ่งกล่าวเนิบช้า
“ทุกท่าน พวกเราอยู่บนภูเขาตามคำสั่งองค์ชายเก้า ต้องดูแลโอสถเทพบนเขาพวกนั้นให้ดี”
ชายเครางอนคนหนึ่งกล่าวเสียงขรึม
เมื่อพูดถึงโอสถเทพ ทุกคนในที่นั้นก็เหลือบสายตาไปทางเดียวกันโดยไม่ได้นัดหมาย
นั่นคือน้ำตกสายหนึ่งที่ทิ้งตัวลงมาจากผนังหิน สิ่งที่น้ำตกหลั่งรินออกมาคือวารีวิญญาณที่บริสุทธิ์ที่สุด!
ด้านล่างน้ำตกมีสระน้ำแห่งหนึ่ง มีบัวเทพสามต้นเติบโตอยู่ภายใน
บัวเทพแต่ละต้นกิ่งก้านดำสนิทราวหมึกเขียน กลีบดอกกลับเป็นสีขาวหิมะราวหยก
หนึ่งดำหนึ่งขาวเสมือนหยินหยางร่วมเคียง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แบบ ละอองแสงมหามรรคอันศักดิ์สิทธิ์งามตระการไหลวนออกมา
ม่านน้ำตกที่รวมตัวจากวารีวิญญาณโดยสมบูรณ์ทิ้งตัวลงดั่งมังกรขาว ยังไม่ทันตกสู่สระน้ำก็ถูกบัวเทพสามต้นนั้นดูดกลืนอย่างต่อเนื่องไม่ขาด
บัวเทพสองลักษณ์!
โอสถเทพชิ้นเอกอย่างหนึ่งที่สาบสูญไปแล้วในโลกภายนอก!
ถึงขั้นในโอสถเทพมากมายบนโลก บัวเทพสองลักษณ์ยังเรียกได้ว่าเป็นของชั้นสูงที่หาได้ยากยิ่ง
หากได้กินมัน ไม่เพียงมีประโยชน์เกินคาดเดาต่อปราณของผู้แข็งแกร่งระดับราชัน ยังสามารถหยั่งถึงพลังมหามรรคหนึ่งหยินหนึ่งหยางสองอย่างนี้ได้โดยปริยาย!
หยินหยางสองมหามรรค ถูกมองเป็นมรรคแห่งสองลักษณ์ที่แสดงถึงความมืดสว่างแห่งฟ้าดิน แบ่งแยกระเบียบลำดับ มหัศจรรย์และทรงพลังถึงที่สุด
หยินอยู่โดดเดี่ยวไม่ก่อเกิด หยางอยู่เดียวดายไม่เติบโต
หากสามารถครอบครองมหามรรคทั้งสองนี้ได้ ก็จะสามารถหลอมรวมมหามรรคเทียมฟ้าที่แท้จริงอย่างหนึ่งออกมา… ยอดเอกอุ!
และมหามรรคยอดเอกอุก็คือมรรคาที่มุ่งสู่แก่นแท้แห่งฟ้าดินโดยตรง มีนัยเร้นลับที่ถือกำเนิดสืบเนื่องไร้สิ้นสุด ไร้ขีดจำกัดเหลือคณา
เท่านี้ก็รู้แล้วว่า มูลค่าของบัวเทพสองลักษณ์สามต้นในสระน้ำใต้น้ำตกนั่นมากมายเพียงใด!
ก่อนที่อูหลิงเฟิงองค์ชายเก้าเผ่าอีกาทองจะจากไปคราวนี้ ได้ทิ้งกำลังพลชั้นยอดไว้คุ้มกันเขาฝนดาวตกโดยเฉพาะ กล่าวกันถึงที่สุดแล้วก็เพื่อให้มั่นใจว่าบัวเทพสามต้นนี้จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น
พวกชายหนุ่มชุดคลุมเพลิง หญิงผมขาว ชายเครางอนหกเจ็ดคนในที่นั้นต่างเป็นบุคคลที่ก้าวสู่ระดับมกุฎราชัน และมาจากขุมอำนาจต่างกันไป
มีกำลังพลเช่นนี้ควบคุมดูแล ไม่ว่าขุมอำนาจไหนมาโจมตีเขาฝนดาวตกคงได้ล้มหัวกระแทกเลือดอาบ
“องค์ชายเก้าเคยบอกว่าเมื่อเขากลับมาจะเด็ดบัวเทพสามต้นนี้ นำสองต้นมาเป็นรางวัลให้พวกเราได้ช่วงชิง”
ชายชุดคลุมเพลิงแววตาเร่าร้อน สูดหายใจลึกกล่าว “ยังไม่ต้องพูดว่าจะชิงกันอย่างไร พวกเราแค่อย่าทำให้ความเชื่อใจขององค์ชายเก้าสูญเปล่าก็พอ”
หญิงผมขาวยิ้มเยาะ แค่นเสียงหัวเราะกล่าว “มีพวกเรานั่งบัญชาที่นี่ ขุมอำนาจใดจะกล้าบังอาจมารุกราน ที่ต้องหวาดกลัวก็มีเพียงขุมอำนาจบางตาไม่กี่แห่ง อย่างเรือนกระบี่เร้นปุจฉาสำนักอันดับหนึ่งแห่งแดนฐิติประจิม ลัทธิไร้สวรรค์แดนเร้นเทพ และสำนักเอกอุเท่านั้น”
“พวกเรือนกระบี่เร้นปุจฉา ลัทธิไร้สวรรค์ต่างฝ่ายต่างยึดครองแดนมงคลใหญ่แห่งหนึ่ง หากไม่แน่ใจว่าจะชนะคงไม่มีทางเป็นศัตรูกับพวกเราแน่ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องกังวล”
ชายเครางอนกล่าวราบเรียบ
แดนอัคคีทักษิณในปัจจุบัน ขุมอำนาจที่เรียกได้ว่าเป็นนายเหนือหัวมีเพียงขุมอำนาจห้าหกแห่ง อย่างเผ่าอีกาทอง เรือนกระบี่เร้นปุจฉา ลัทธิไร้สวรรค์ สำนักเอกอุเป็นต้น
และเหมือนกับที่ชายเครางอนกล่าว หากไม่แน่ใจว่าจะชนะ ระหว่างขุมอำนาจระดับนายเหนือหัวไม่มีทางก่อเรื่องขัดแย้งกันแน่
นี่ก็เหมือนนกปากซ่อมสู้กับหอยกาบ เป็นไปได้สูงว่าตอนจบจะบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ถูกขุมอำนาจอื่นตีชิงตามไฟตักตวงผลประโยชน์ใส่ตัว
“แย่แล้ว! มีคนบุกโจมตี… !”
เสียงร้องแหลมดังขึ้น ชายชุดดำคนหนึ่งผลุนผลันวิ่งเข้ามา
พวกชายชุดคลุมเพลิงต่างชะงัก มีคนไม่กลัวตายกล้าเลือกมารุกรานเวลานี้จริงรึ
“เป็นขุมอำนาจไหนกัน”
หญิงผมขาวหยัดร่างขึ้น ไอสังหารแผ่ซ่าน เสียงเยียบเย็นดังก้องเหนือเขาฝนดาวตก
“ไม่ใช่พวกขุมอำนาจขอรับ เป็น… เป็นคนผู้หนึ่ง!”
ชายชุดดำกล่าวเสียงสั่น
ทุกคนตกตะลึงอีกครั้งแทบคิดว่าหูฝาด คนคนเดียวกล้าวิ่งมาภูเขาฝนดาวตก เป็นบ้าไปแล้วรึ หรือไม่ก็เบื่อชีวิตจนอยากหาที่ตาย?
“ไป ไปดูกัน”
ชายชุดคลุมเพลิงชิงเคลื่อนไหวก่อน
“น่าสนุก ข้าอยากดูนักว่าเป็นอริยเทพแห่งใดกันแน่ ถึงกล้ามาท้าทายคนเดียว!”
คนอื่นเองก็ทยอยลุกขึ้น สีหน้าเย็นชา เผยไอสังหารในดวงตาอยู่รางๆ
…
ตูม!
หลินสวินขึ้นเขาก้าวเนิบช้า ระหว่างทางถูกผู้แข็งแกร่งมากมายพบเจอและพากันขัดขวาง แต่แน่นอนว่าเปล่าประโยชน์
เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วดุดันไม่เปลืองแรงสักนิด ลงมือราวอสนีบาต เปิดฉากเข่นฆ่าเคลื่อนกวาดมุ่งหน้า ทิ้งซากศพและแอ่งโลหิตนองพื้นตลอดทาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์