Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1201

กึง!

ชั่วขณะที่หลินสวินโจมตี ทุกคนต่างมีความรู้สึกหนึ่ง นั่นราวกับไม่ใช่คน แต่เป็นเจินหลงที่จำศีลอยู่และออกจากเหวลึกในเวลานี้

และเมื่อพอหลินสวินกดนิ้วออกมา จั่นลู่ซิวที่อยู่ตรงหน้ารับรู้ได้อย่างรุนแรงที่สุด ราวกับเข้าไปอยู่ในกาลเวลาอันเนิ่นนานในชั่วพริบตา

กายใจถูกอานุภาพอันยิ่งใหญ่พุ่งโจมตี!

เขานัยน์ตาหดรัดทันควัน เบื้องหน้าเจ็บแปลบ ราวกับสิ่งที่เผชิญไม่ใช่เพียงแค่นิ้วมือเดียวทั่วๆ ไป แต่เป็นอานุภาพโบราณที่พุ่งเข้ามา

เขาส่งเสียงตะคอกอย่างเดือดดาล พลังต่อสู้รอบตัวพลุ่งพล่าน โคจรจนถึงขีดสุดเพื่อสกัดกั้น

แต่ให้ความรู้สึกเหมือนตั๊กแตนตัวหนึ่ง กำลังต้านทานล้อรถที่บดขยี้มาจากกาลเวลาอันเนิ่นอย่างไม่กลัวตาย

ดูเล็กเป็นพิเศษ!

ปัง!

จั่นลู่ซิวถูกซัดจนปลิวออกไปโดยตรง ร่างกายราวกับว่าวที่สายป่านขาด ไม่สามารถควบคุมได้สักนิด

พูดแล้วเหมือนช้า แต่ความจริงทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา แม้เจิ้นอวิ๋นเฟิงจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ แต่ตอนที่คิดจะห้ามก็สายไปเสียแล้ว

ตูม!

ห่างออกไปนอกพันจั้ง ภูเขาลูกหนึ่งดังกึกก้อง ถูกร่างกายของจั่นลู่ซิวกระแทกจนถล่ม เศษหินบินว่อน ฝุ่นควันคละคลุ้ง

ทุกคนอึ้งตาค้าง บรรยากาศเงียบอย่างน่าประหลาด

จั่นลู่ซิวเป็นถึงปีศาจแห่งยุคของจวนเทพขุมทมิฬ บรรลุระดับมกุฎราชันเมื่อไม่นานมานี้ รัศมีแกล้วกล้า

แต่ตอนนี้ แม้แต่นิ้วเดียวยังไม่สามารถต้านทานได้ ถูกโจมตีจนยับเยินโดยตรง!

หากไม่ใช่เพราะเห็นกับตา ย่อมไม่มีใครกล้าเชื่อ

“แค่กๆ…” ห่างออกไปจั่นลู่ซิวคลานขึ้นจากพื้นอย่างล้มลุกคลุกฝุ่น เผ้าผมยุ่งเหยิง มุมปากกระอักเลือด สะบักสะบอมอย่างมาก

เห็นเช่นนี้พวกเจิ้นอวิ๋นเฟิงรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว ในใจตะลึงยิ่ง จินตู๋อีคนนี้… หรือจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่เก็บซ่อนพลังที่แท้จริงไว้จริงๆ

“มาอีก!”

จั่นลู่ซิวคำราม ไอสังหารทะลักทะลวง ใบหน้าเขียวคล้ำ โกรธจนตาแทบถลนออกมา เขาคิดว่าตนประมาทเกินไป

“แพ้ไม่เป็นหรือ” หลินสวินพูด

ตอนที่พูดเงาร่างของเขาก็พริบไหว พุ่งเข้าไปแล้ว

“หยุดมือ!”

เจิ้นอวิ๋นเฟิงตะโกนห้ามโดยไม่ทันได้คิดอะไรมาก

แต่ก็ช้าไปก้าวหนึ่ง พลันได้ยินเสียงปัง จั่นลู่ซิวถูกโจมตีจนปลิวอีกครั้ง ยังคงถูกสยบด้วยนิ้วมือเดียวของหลินสวิน

ตูมโครม!

บนพื้นจั่นลู่ซิวตัวกระแทกลง พื้นดินยุบเป็นหลุมรูปคน ฝุ่นควันคละคลุ้ง พื้นดินสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว

นี่ทำให้จี้ซิงเหยายังทนดูไม่ได้

ตอนนี้เองหลินสวินก็กลับมายืนอยู่ที่เดิมแล้ว สีหน้าเรียบเฉย ท่าทางสงบนิ่ง ราวกับคนที่ลงมือเมื่อครู่นี้ไม่ใช่เขา

เพียงแต่ตอนที่หันมองเขาอีกครั้ง สายตาของพวกเจิ้นอวิ๋นเฟิงได้เปลี่ยนไปแล้ว แฝงความเดือดดาล ทั้งยังมีความประหลาดใจและหวาดเกรง

ถึงตอนนี้ไม่ว่าใครก็ดูความแข็งแกร่งด้านพลังต่อสู้ของ ‘จินตู๋อี’ ผู้นี้ออก มีความสามารถในการกำราบจั่นลู่ซิวได้!

ส่วนโม่เทียนเหอสีหน้าวูบไหวสับสน

เมื่อครู่นี้เขาจับจ้องอย่างไม่คลาดสายตามาโดยตลอด แต่กลับพบอย่างน่าตกใจ ว่าเจ้าคนที่อยู่ตรงหน้านี่แข็งแกร่งกว่าเทพมารหลินที่เขารู้จัก และยังวิปริตกว่าด้วย!

อีกอย่างกลิ่นอายที่ใช้ยามต่อสู้ก็แตกต่างจากเทพมารหลินอย่างสิ้นเชิง วิชามรรคการต่อสู้ที่ใช้ก็ไม่เหมือนกัน

‘หรือเขาไม่ใช่เทพมารหลินจริงๆ แต่เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่น่าใช่คนที่ไม่มีชื่อเสียงสิ…’ โม่เทียนเหอคิดไม่ตกอยู่บ้าง

“มาอีก!” ห่างออกไปจั่นลู่ซิวเหมือนคนบ้าที่ระเบิดความโกรธ พุ่งเข้ามาอีกครั้ง

“พอแล้ว!”

เจิ้นอวิ๋นเฟิงสีหน้ามืดทะมึน ต่อว่าออกมา ทำให้สีหน้าของจั่นลู่ซิวเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาว สุดท้ายก็หยุดฝีเท้า

จากนั้นสายตาของเจิ้นอวิ๋นเฟิงมองไปทางหลินสวิน น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเกรงใจขึ้นมา “หากข้าดูไม่ผิด พลังมหามรรคที่สหายยุทธ์จินสำแดงออกมาคงจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าเจินหลงสินะ”

หลินสวินชะงักไปก่อนเอ่ยว่า “ไม่ผิด”

ได้ยินเช่นนี้คนอื่นๆ ต่างเผยสีหน้าอึ้งงัน สายตาที่มองหลินสวินยิ่งแตกต่างจากเดิม เกี่ยวข้องกับเผ่าเจินหลงหรือ

นี่ไม่ธรรมดามาก!

“เผ่าเจินหลงหรือ” โม่เทียนเหอรู้สึกหัวสมองสับสนอย่างสิ้นเชิง

มีเพียงจี้ซิงเหยาที่รู้ฐานะที่แท้จริงของหลินสวินที่เกือบกลั้นขำไม่อยู่ หากเทพมารหลินมาจากเผ่าเจินหลง ตอนที่อยู่ในดินแดนรกร้างโบราณ ขุมอำนาจใหญ่ที่ไหนจะยังกล้ารังแกเขา

“ฮ่าๆๆ ภารกิจครั้งนี้มียอดฝีมืออย่างพี่จินท่านนี้เข้าร่วม สำหรับพวกข้าแล้วเป็นเรื่องดีอย่างไม่ต้องสงสัย”

เจิ้นอวิ๋นเฟิงหัวเราะลั่น ดูกระตือรือร้นอย่างมาก เปลี่ยนท่าทีที่มีต่อหลินสวินแล้ว “เมื่อครู่นี้พวกข้ามีตาหามีแววไม่ พี่จินอย่าได้ถือสา”

หลินสวินประสานหมัดกล่าว “สหายยุทธ์เกรงใจเกินไปแล้ว”

ในใจเขากลับระแวงเล็กน้อย สำหรับเขาแล้ว ความคิดความอ่านของเจิ้นอวิ๋นเฟิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย ปล่อยวางไม่ยึดติด หากเป็นศัตรูด้วย จะต้องเป็นคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถดูถูกได้อย่างแน่นอน

“อย่าชักช้าเสียเวลาเลย พวกเราควรออกเดินทางได้แล้ว”

จี้ซิงเหยาพูด

“ไม่ผิด ต้องทำเวลา เท่าที่ข้ารู้ครั้งนี้ยังมีขุมอำนาจอื่นหมายจะมุ่งหน้าไปยังเขตต้องห้ามแม่น้ำนรก”

สีหน้าของเจิ้นอวิ๋นเฟิงเคร่งขรึม “ขุมอำนาจทั่วไปไม่จำเป็นต้องใส่ใจ แต่มีอยู่สองกลุ่มที่สมควรได้รับความสนใจจากพวกเรา”

“ใคร?”

โม่เทียนเหออดถามไม่ได้

“กลุ่มหนึ่งคือลัทธิไร้สวรรค์ อีกกลุ่มคือเผ่าอีกาทอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์