Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1203

แหล่งกำเนิดวิญญาณบริสุทธิ์!

หลินสวินมองในพริบตาว่าพลังที่แวววาวกระจ่างใสนั่น คือพลังจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้สายหนึ่ง

เท่าที่หลินสวินรู้ มีเพียงหลังจากอริยะร่วงหล่นลงแล้ว พลังจิตจึงจะเปลี่ยนเป็นพลังที่บริสุทธิ์อย่างที่สุด อยู่ยงคงกระพัน

ก็เหมือนกับพระบรมสารีริกธาตุหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน

พลังระดับนี้ถูกเรียกอีกอย่างว่า ‘แหล่งกำเนิดวิญญาณบริสุทธิ์’ จัดอยู่ในประเภท ‘วัตถุอริยะ’ พบเห็นได้ยากมาก มูลค่าไม่อาจประเมิน

เมื่อหลอมมันแล้ว สามารถทำให้พลังจิตวิญญาณของผู้ฝึกปราณเกิดการยกระดับอย่างน่าตกใจ ทั้งไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดข้อบกพร่องใดๆ!

โดยเฉพาะสำหรับระดับราชัน จิตวิญญาณราวกับโคมไฟ ยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งสว่างไสวและมีส่วนช่วยในการแสวงหามรรคาอมตะเท่านั้น

‘คิดไม่ถึงว่าเทวบุตรโลหิตดวงหนึ่ง กลับถือกำเนิดขึ้นจากแหล่งกำเนิดวิญญาณบริสุทธิ์ของอริยะที่ร่วงหล่น…’

ในใจหลินสวินสั่นไหว

แต่ละฉากก่อนหน้านี้อันตรายเกินไปแล้วจริงๆ

หากไม่ใช่เพราะเขาโคจรคาถาข้ามทุกข์กษิติครรภ์ทันเวลา ถึงขั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะถูกเทวบุตรโลหิตดวงนั้นกัดกร่อนเลือดลมและจิตวิญญาณรอบกาย!

แต่หลังจากผ่านเรื่องนี้ก็ทำให้หลินสวินมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า พลังธรรมที่อารามกษิติครรภ์สืบทอด มีความสามารถยับยั้งพลังประหลาดที่สั่งสมอยู่ในเทวบุตรโลหิตนั่นแต่กำเนิด

ฮูม

พร้อมๆ กับความคิดที่ไหวเคลื่อนของหลินสวิน แหล่งกำเนิดวิญญาณบริสุทธิ์สายนั้นก็ถูกหลอมโดยพลัน แทรกสู่จิตวิญญาณราวกับกระแสน้ำ

ทันใดนั้นหลินสวินเพียงรู้สึกว่าพลังจิตสะเทือน ราวกับอาบฝนยามแล้งชโลมไล้น้ำพุเทพ ระดับจิตวิญญาณพัฒนาขึ้นช่วงใหญ่ภายในไม่กี่อึดใจ!

มีสัญญาณจะบรรลุอยู่รางๆ!

ตอนนี้พลังจิตวิญญาณของเขาอยู่ในขั้น ‘เห็นปัจจุบัน’ ของสามขั้นใหญ่ในระดับดอกเทพรวมยอด

ขั้นต่อไปก็คือ ‘เห็นอนาคต’

หากบรรลุ ก็จะเกิดลางสังหรณ์ในใจ หยั่งรู้ผลกรรมและโอกาสท่ามกลางความมืดมิด ถึงขั้นสามารถมองทะลุถึง ‘ความดีร้าย’ ของมรรคาในอนาคตได้

เดิมทีในการคาดการณ์ของหลินสวิน การที่ระดับจิตวิญญาณของตนจะบรรลุ อย่างน้อยต้องใช้เวลามากกว่าสามปี

เพราะพลังจิตวิญญาณลึกลับอย่างยิ่ง อยากจะยกระดับเดิมก็เป็นเรื่องที่ยากมากอยู่แล้ว

อย่างเช่นหลินสวินซึ่งมีเคล็ดเวทบริกรรม พลังจิตวิญญาณก็แข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกปราณในระดับเดียวกันก้าวใหญ่ตั้งแต่ตอนเริ่มฝึกปราณแล้ว

แต่จนกระทั่งตอนนี้ที่กลายเป็นราชัน พลังจิตวิญญาณยังคงอยู่ในระดับดอกเทพรวมยอด ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังเหนือกว่าคนรุ่นเดียวกันมากแล้ว

จากจุดนี้แค่คิดก็รู้ว่า การฝึกจิตวิญญาณยากเย็นเพียงใด

แต่ตอนนี้ เพียงแค่หลอมแหล่งกำเนิดวิญญาณบริสุทธิ์ที่อริยะทิ้งไว้เม็ดหนึ่ง ก็ทำให้พลังจิตวิญญาณเกิดการพัฒนาอย่างมาก ความก้าวหน้าระดับนี้เรียกได้ว่าตะลึงโลกแล้ว!

……

“เอ๋! เทพธิดาจี้ สหายยุทธิ์จินท่านนี้เหมือนจะครอบครองมรดกของอารามกษิติครรภ์ด้วยหรือ”

ตอนที่หลินสวินนั่งสมาธิหลอมฝึก รอบตัวเขาอบอวลแสงธรรม ท่าทางเคร่งขรึม ทั้งยังมีเสียงสวดท่องธรรมดังก้องอยู่รางๆ ดึงดูดให้พวกเจิ้นอวิ๋นเฟิงต่างหันมอง

จี้ชิงเหยาพูดอย่างอ้ำอึ้งคำหนึ่ง นางเองก็ตะลึงกับเรื่องนี้มาก แน่นอนว่าย่อมไม่สามารถอธิบายได้

‘ในตัวครอบครองพลังที่เกี่ยวข้องกับเผ่าเจินหลง ตอนนี้ก็มาเกี่ยวโยงกับอารามกษิติครรภ์อีก เจ้าหมอนี่… เป็นสัตว์ประหลาดที่โผล่มาจากไหนกันแน่’

โม่เทียนเหอมึนงงขึ้นมาทันที

ก่อนหน้านี้เขาสงสัยมาโดยตลอดว่าจินตู๋อีคนนี้ก็คือหลินสวิน แต่ตอนนี้เขารู้สึกสับสนแล้ว อดแปลกใจไม่ได้

“ข้าได้ยินว่ามีสัตว์ประหลาดยุคโบราณคนหนึ่งที่มาจากอารามกษิติครรภ์ ถูกเรียกว่า ‘กู่ฝอจื่อ’ ที่มาลึกลับ พลังต่อสู้ลึกล้ำไม่อาจคาดเดา จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยมีใครเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขา หากไม่ใช่เพราะเทพธิดาจี้รู้จักสหายจิน ข้าคงสงสัยว่าเขาคือกู่ฝอจื่อในตำนานคนนั้นแล้ว”

เจิ้นอวิ๋นเฟิงตาวาบประกาย

จนตอนนี้เขาเริ่มจะไม่มั่นใจที่มาของหลินสวินแล้ว นี่ทำให้ในใจเขาหวาดหวั่น ยิ่งไม่กล้าดูถูก

“สหายยุทธ์จินมีความกล้าหาญ ไม่ว่าที่มาของเขาจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีทางประสงค์ร้ายต่อพวกเราแน่”

อิ๋นเสวี่ยกัดริมฝีปากเอ่ยพูดเสียงเบา

สีหน้าของทุกคนออกจะแปลกพิกลขึ้นมา ด้วยรู้ว่าก่อนหน้านี้หลินสวินเคยช่วยอิ๋นเสวี่ยเอาไว้ครั้งหนึ่ง ทำให้ในใจอิ๋นเสวี่ยรู้สึกซาบซึ้ง

และตอนนี้เอง หลินสวินพลันลุกขึ้นยืน ท่าทางย่ำแย่ก่อนหน้านี้หายไปอย่างไร้ร่องรอย กระปรี้กระเปร่าเปี่ยมกำลัง

ทุกคนตาเป็นประกาย สัมผัสได้อย่างมีไหวพริบว่า ภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูเหมือนธรรมดาของหลินสวิน กลับมีบุคลิกที่ว่างเปล่าล่องลอยอย่างหนึ่งเพิ่มเข้ามา

อีกอย่างตอนที่มองสบกับดวงตาที่นิ่งสงบและลึกล้ำของเขาคู่นั้น ทุกคนต่างรู้สึกถึงแรงกดดันอันไร้รูปอย่างหนึ่ง

นี่ทำให้พวกเขาต่างตระหนักได้ว่า หลังจากหลินสวินสลายเทวบุตรโลหิตครั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเจอความโชคดีในคราวเคราะห์ ได้รับผลประโยชน์บางอย่าง!

แม้แต่เจิ้นอวิ๋นเฟิงในใจยังอดทอดถอนใจไม่ได้ นี่ก็คือวาสนา ฝืนกันไม่ได้ อยู่เหนือการคาดหมาย

“พื้นที่ที่อยู่ในตอนนี้เต็มไปด้วยพลังที่แปลกประหลาดอย่างที่สุด ไม่สามารถแยกแยะทิศทางได้ เพราะฉะนั้นพวกเราตัดสินใจจะข้ามแม่น้ำนี้ เจ้าคิดว่าจะได้หรือไม่”

จี้ซิงเหยาพูดขึ้น

ดวงตาดำของหลินสวินกวาดมองไปไกลๆ ก็เห็นว่าเต็มไปด้วยหมอกโลหิตหนาแน่น เติมแม่น้ำจนเต็ม ไม่รู้ว่าลึกเท่าไหร่และไม่สามารถมองเห็นอีกฝั่งของแม่น้ำได้

สิ่งที่ไม่รู้คือสิ่งที่อันตรายที่สุด แม่น้ำหมอกโลหิตที่อยู่ตรงหน้านี้ดูเหมือนสงบ แต่ไม่มีใครรู้ว่าภายในมีเคราะห์สังหารซ่อนอยู่เท่าไหร่

แต่พวกเขาหลังหันกลับไม่ได้แล้ว

เพราะด้านหลังเป็นกองทัพโครงกระดูกที่หนาแน่นไม่มีที่สิ้นสุด!

“งั้นก็ไปกันเถอะ”

หลินสวินพยักหน้า

ทันใดนั้นเจิ้นอวิ๋นเฟิงเรียกยานสำเภาลำหนึ่งออกมา บรรทุกทุกคนค่อยๆ ขับเข้าไปในห้วงอากาศเหนือแม่น้ำที่เต็มไปด้วยหมอกโลหิตนั่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์