Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1206

หลินสวินตอบรับอย่างตรงไปตรงมา แต่ก่อนจะลงมือ มือเท้าของเขาได้ทำให้บริเวณรอบๆ กลับคืนสภาพเดิมอย่างคล่องแคล่ว

จากนั้นเขาให้พวกจี้ซิงเหยาเข้าอุโมงค์ก่อน เขาถึงค่อยสะบัดแขนเสื้ออย่างไม่ทิ้งร่องรอย

วู้ม!

ทันใดนั้นสุสานที่เดิมทีแยกออกประสานกันอีกครั้ง อุโมงค์นั่นก็หายไปด้วย

ทางเดินอุโมงค์สว่างไสวทั้งแถบ อีกทั้งกระแสอากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นสดชื่น กำจายกลิ่นอายสงบสุขและเป็นหนึ่งเดียวกัน

ยากจะเชื่อจริงๆ ว่าภายใต้สุสานที่ลึกลับนี้ ไม่เพียงแค่ไม่มีความอึมครึมเลยสักนิด กลับเหมือนแดนพิสุทธ์แห่งหนึ่ง

ทุกคนต่างเก็บความตื่นเต้นมุ่งหน้าไปอย่างระมัดระวัง

ไม่นานพวกเขาต่างพบอย่างแปลกใจว่า ช่องว่างใต้สุสานนี้ราวกับขยายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด กว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ ห่างออกไปเรื่อยๆ

และพวกเขาต่างรู้สึกว่าตัวเองค่อยๆ เล็กลง

นี่ไม่ใช่การคิดไปเอง สามารถบอกได้เพียงว่า ภายใต้สุสานนี้เป็นช่องว่างที่คดเคี้ยว ดูเหมือนธรรมดา ความจริงกว้างขวางอย่างหาที่สุดไม่ได้!

ฮูม

ตรงหน้าจู่ๆ เสียงคลื่นที่ราวกับฟ้าร้องคำรามดังก้องขึ้น เดินหน้าได้ไม่นาน ทะเลสาบน้ำแข็งขนาดใหญ่ก็สะท้อนเข้ามาในสายตา

ปราณกระบี่เป็นสายๆ ที่ขาวราวกับหิมะน้ำแข็งมากมายโฉบออกมา ราวกับแท่งน้ำแข็งพลิกตัว เป็นประกายระยิบระยับ แหลมคมอย่างที่สุด มีกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัว

กระแสอากาศรอบๆ ก็เย็นเยียบปานเสียดกระดูก พื้นดินรอบๆ ทะเลสาบควบรวมเป็นชั้นน้ำแข็งใสหนา

แม้เป็นพวกหลินสวิน ทันทีที่มาถึงต่างขนลุกโดยพร้อมเพรียงกัน กระแสอากาศเย็นเฉียบเกินไป แทรกซึมเข้าในขั้วกระดูกและจิตวิญญาณ!

ในทะเลสาบปราณกระบี่ขาวหิมะอัดแน่น เดือดพล่านราวกับคลื่นน้ำ แฝงกระไอหนาวเย็นและแหลมคม

แต่สายตาของทุกคนถูกบัวน้ำแข็งขาวหิมะดอกหนึ่งกลางทะเลสาบดึงดูดไปแทบจะในทันที

บัวน้ำแข็งสุกใส บริสุทธิ์งดงาม ในเกสรกลับมีเปลวเพลิงขาวหิมะโปร่งใสกำลังลุกโชน

พร้อมกับที่เปลวเพลิงส่ายไหวอยู่ในเกสรดอกไม้ ปราณกระบี่ขาวหิมะในทะเลสาบก็พลิกตลบไปด้วย สะท้อนรับซึ่งกันและกัน งดงามมหัศจรรย์ตามธรรมชาติ

อึก!

ก็ไม่รู้ว่าใครกลืนน้ำลาย ส่งเสียงดังออกมา ในบรรยากาศที่เงียบสงบเช่นนี้ฟังเสียดหูมากเป็นพิเศษ

แต่ไม่มีใครสนใจแล้ว

เพราะทุกคนล้วนดูออก ว่าบนบัวน้ำแข็งที่อยู่กลางทะเลสาบนั่นควบรวมออกมาเป็นเพลิงมรรคต้นกำเนิด! และคุณภาพก็สูงมาก!

“พี่เจิ้นเคยได้ยินเรื่องเพลิงมรรคเช่นนี้หรือไม่”

โม่เทียนเหอสายตาร้อนระอุ จ้องตรงตำแหน่งที่ห่างไกลนั่นอย่างไม่คลาดสายตา

“ดูแล้วคล้าย ‘เพลิงเร้นหิมะสวรรค์’ แต่คุณภาพสู้เพลิงมรรคต้นกำเนิดที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้เลยสักนิด!”

สายตาของเจิ้นอวิ๋นเฟิงเป็นประกายอย่างที่สุด

ก่อนหน้านี้พวกเขาคาดเดาว่าใต้สุสานนี้จะต้องมีเพลิงมรรคต้นกำเนิดซ่อนอยู่ แต่พอเห็นจริงๆ ก็ยังเก็บความดีใจและตื่นเต้นไว้ไม่อยู่

นี่ คือศุภโชคใหญ่ที่แม้พบเจอก็ไม่สามารถร้องขอได้!

“ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ตอนนี้มีเพลิงมรรคต้นกำเนิดเพียงแค่ดวงเดียว แม้พวกเราได้มา แต่จะแบ่งกันอย่างไร”

จี้ซิงเหยาพูดเช่นนี้ ในใจทุกคนต่างกระตุกวูบ ความคลั่งไคล้ในสมองลดน้อยลงไปไม่น้อย ประสานสายตากัน ต่างลังเลอยู่บ้าง

“ที่แห่งนี้สหายยุทธ์จินนำทางพวกเรามา ข้าเสนอว่าสิ่งนี้ควรจะเป็นของสหายยุทธ์จินก่อน”

เหนือความคาดหมายของทุกคน อิ๋นเสวี่ยเอ่ยปาก จะยกเพลิงมรรคต้นกำเนิดดวงนี้ให้กับหลินสวิน

คนอื่นๆ มองหน้ากัน สายตาวูบไหว

แม้แต่หลินสวินยังออกจะประหลาดใจ พลันยิ้มพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าว่าที่แห่งนี้อัศจรรย์ไร้ที่เปรียบ เพลิงมรรคต้นกำเนิดที่ซ่อนอยู่ต้องไม่น้อยแน่ ครั้งนี้ข้าได้ร่วมขบวนกับทุกท่านก็ขอบคุณอย่างยิ่งแล้ว เพลิงมรรคดวงนี้ทุกท่านตัดสินใจกันเองเถอะ”

ทุกคนสีหน้าผ่อนคลายลง สายตาที่มองหลินสวินก็อ่อนโยนลงมาก

เจิ้นอวิ๋นเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดว่า “พี่จิน สหายเช่นเจ้าข้าขอคบด้วย เจ้าวางใจ การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ข้าจะช่วยเจ้าช่วงชิงเพลิงมรรคต้นกำเนิดที่เจ้าพอใจมาให้ได้”

โม่เทียนเหอเองก็เอ่ยขึ้น “ไม่ผิด สหายยุทธ์จินเป็นคนใจกว้างมีคุณธรรม ทั้งเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกับข้า ไม่ใช่คนอื่นคนไกลมาตั้งนานแล้ว อีกเดี๋ยวตอนเคลื่อนไหว หากสหายยุทธ์จินมีความต้องการใดข้ายินยอมช่วยสุดความสามารถ”

คนอื่นๆ ต่างก็พยักหน้า

เดิมทีจี้ซิงเหยายังแอบบ่นอุบ คิดว่าหลินสวินเลอะเลือนไปหน่อย ถึงกับทิ้งวาสนายอดเยี่ยมโดยไม่ไขว่คว้า ยอมให้คนอื่นง่ายๆ

แต่ตอนนี้นางพอจะเข้าใจบ้างแล้ว

หากหลินสวินจะช่วงชิงวาสนาที่อยู่ตรงหน้าโดยไม่เกรงใจ จะต้องนำมาซึ่งการขัดแย้งและต่อต้านกับเจิ้นอวิ๋นเฟิงและโม่เทียนเหอแน่ ต่อให้ไม่เกิดการต่อสู้ แต่ก็เกิดปมในใจขึ้นอย่างแน่นอน

ในการเคลื่อนไหวหลังจากนี้มีแต่จะทำให้สถานการณ์ของหลินสวินแย่ลง

แต่ตอนนี้การที่เขายอมถอยก้าวหนึ่ง กลับทำให้เป็นที่ยอมรับและได้รับความรู้สึกดีๆ จากพวกเจิ้นอวิ๋นเฟิง โม่เทียนเหอ ไม่ทำให้ความสัมพันธ์ตึงเครียด และยังเป็นผลดีต่อการเคลื่อนไหวในภายหน้า

เพียงแต่หากหลินสวินรู้ความคิดของจี้ซิงเหยาเข้า จะต้องหลุดขำอย่างแน่นอน

เขาไม่ได้คิดมากขนาดนั้น จากการสังเกตด้วยจิตรับรู้และนัยน์ตาเฉาเฟิงหลายครั้งก่อนหน้านี้ เขามั่นใจแล้วว่าแม้เพลิงมรรคต้นกำเนิดนี้มีคุณลักษณะหายาก แต่กลับไม่เหมาะกับตน

ดังนั้นเขาจึงยอมถอยให้อย่างใจกว้าง

มิฉะนั้นแม้ต้องแตกหักกับโม่เทียนเหอและเจิ้นอวิ๋นเฟิงอย่างสิ้นเชิง ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา

สุดท้ายหลังจากหารือกัน เพลิงมรรคต้นกำเนิดที่อยู่ตรงหน้าก็ตกเป็นของเจิ้นอวิ๋นเฟิง

ตูม!

เจิ้นอวิ๋นเฟิงที่สกัดกั้นความตื่นเต้นไม่ไหวตั้งนานแล้วลงมือในทันที โคจรพลังปราณ มือขวากลายเป็นสีดำสนิทราวกับหมึกดำขึ้นมาทันที รายล้อมด้วยเพลิงมรรคเจิดจ้า คว้าไปยังกลางทะเลสาบผ่านอากาศ

ฉึก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์