ไม่ว่าคนอื่นๆ จะคิดอย่างไร อย่างน้อยๆ สำหรับหลินสวิน เพลิงมรรคต้นกำเนิดที่อยู่บนยอดภูเขาเงินนี้ยังคงไม่เป็นที่พอใจของหลินสวินนัก
เขาไม่ได้ใช้สัญชาตญาณในการตัดสิน แต่ใช้ดาบหักในห้วงนิมิตหยั่งเชิง
แต่การตอบสนองกลับเป็น…
นิ่งสนิทไม่รู้สึกรู้สา!
คล้ายว่าดาบหักไม่มีความสนใจเลยว่าจะได้รับการหลอมจากเพลิงมรรคดวงนี้หรือไม่ ไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิด
ไม่เพียงแค่หลินสวินที่ตัดสินเช่นนี้ เขาถามจี้ซิงเหยาแล้ว ตอนที่นางเก็บเพลิงมรรคสีเขียวนั่น สมบัติของนางเกิดความตื่นเต้นและความปรารถนาอย่างเห็นได้ชัด
นี่ทำให้หลินสวินอดสงสัยไม่ได้ว่า เพราะ ‘สายตา’ ของดาบหักเลือกมากเกินไป หรือคุณลักษณะของเพลิงมรรคสีเงินนี้ไม่เป็นที่น่าพอใจจริงๆ
แต่จากปฏิกิริยาของพวกเจิ้นอวิ๋นเฟิง โม่เทียนเหอ ต่างปรารถนาในเพลิงมรรคสีเงินนี้อย่างมาก และมั่นใจว่าคุณลักษณะของเพลิงมรรคสีเงินนี้เหนือกว่าเพลิงมรรคที่พวกเขาได้รับไปช่วงหนึ่ง…
ความคิดเหล่านี้แวบขึ้นในหัวหลินสวินครู่หนึ่งก็หายไป ไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้
ฟุ่บ!
เขาทะยานอากาศขึ้นไปกำลังเตรียมจะลงมือ ตอนนี้เองกลิ่นอายน่ากลัวปกคลุมฟ้าดินเข้ามา
หลินสวินพลันเงยหน้า ก็มองเห็นยานสำเภาลำหนึ่งถูกแสงมรรคห่อหุ้ม พุ่งลงมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ
หืม
พวกเจิ้นอวิ๋นเฟิง โม่เทียนเหอต่างพากันเงยหน้าขึ้น ตอนที่เห็นยานลำนั้นสายตาต่างหดรัดลง
ยานรบเพลิงลาม!
นี่คือยานพาหนะของอูหลิงเต้าองค์ชายสิบสามแห่งเผ่าอีกาทอง ความเร็วราวกับไฟลามสุริยัน ว่องไวอย่างที่สุด มีชื่อเสียงอย่างมากในโลกภายนอก
“วาสนาระดับนี้ใช่ว่าใครจะครอบครองได้ง่ายๆ ไสหัวไป!”
เสียงคำรามเย็นเยียบดังมาจากยานสมบัติลำนั้น ในเวลาเดียวกันเงาร่างที่สูงใหญ่กำยำพลันปรากฏตรงหน้ายานรบ
เขาถือธนูกระดูกสัตว์คันใหญ่ขึ้นมา ยิงใส่หลินสวินที่อยู่กลางอากาศ!
ฟิ้ว!
ธนูวิญญาณสว่างไสวพุ่งออกมา ฉีกทึ้งห้วงอากาศแฝงอานุภาพรุนแรงและเผด็จการ
รอบๆ ธนูนั่นยังระเหยเป็นเงามายาของสัตว์ปีศาจพลิกฟ้าตัวหนึ่ง เงยหน้าคำราม อานุภาพดุร้ายมืดฟ้ามัวดิน
แววตาหลินสวินเย็นเยียบขึ้นมาโดยพลัน ผู้มาไม่พูดไม่จาก็ลงมือทันที หมายจะสังหารเขา นี่เผด็จการและโอหังมากอย่างเห็นได้ชัด
เพราะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน หลินสวินเองก็คิดไม่ถึงอยู่บ้าง ทำได้เพียงกระตุ้นพลังปราณรอบตัวเพื่อหลบหนี
ตูม!
ห่างออกไปหลายพันจั้ง ภูเขายักษ์ลูกหนึ่งถูกธนูหนึ่งยิงจนระเบิดถล่มลง กลายเป็นเถ้าถ่านคละคลุ้งเต็มท้องฟ้า
แม้เป็นหลินสวิน แววตาก็ยังหดรัดลง
โลกใต้สุสานแตกต่างจากโลกภายนอก ภูเขา พื้นดินล้วนแข็งแกร่งยากจะทำลาย
แต่คนผู้นี้กลับสามารถทำลายภูเขาได้ในธนูเดียว ต้องมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน!
“หน๊อย หลบได้ซะด้วย ถือว่าดูถูกเจ้าเกินไป”
ยานรบนั่นลอยอยู่กลางอากาศ ถูกแสงมรรคชั้นหนึ่งปกคลุม เงาร่างที่สูงใหญ่กำยำนั่นยืนอยู่ด้านบน มองหลินสวินด้วยสายตาตะลึงแวบหนึ่ง
คนผู้นี้เผ้าผมหนวดเคราราวกับง้าว ร่างกายเป็นสีทองแดง ในมือถือธนูกระดูกสัตว์คันใหญ่ ไอเผด็จการป่าเถื่อนและชวนกดดันแผ่ไปทั่วทั้งตัว
พร้อมกันกับตอนที่เขาส่งเสียง ตรงหัวเรือหนุ่มสาวหลายคนพากันเดินออกมา ล้วนมีอานุภาพยิ่งใหญ่ บุคลิกยอดเยี่ยม แววตาราวกับสายฟ้ากวาดมอง น่ากลัวอย่างที่สุด
มีกลิ่นอายระดับมกุฎราชัน อีกทั้งยังเผยไอดุดันไปทั่วทั้งตัว ดูก็รู้ว่าเป็นบุคคลร้ายกาจที่ผ่านมานับร้อยศึก เคยผ่านการต่อสู้นองเลือดมามาก
พูดแล้วเหมือนช้าแต่ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ไม่ให้โอกาสหลินสวินเปิดปากพูด ชายหนุ่มที่เงาร่างสูงใหญ่กำยำก็ง้างธนูอีกครั้งพร้อมตะโกนว่า “ตาย!”
ร่างกายเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ แผ่แสงมรรคสีทองไปทั่ว ราวกับเทพสงครามที่เจิดจ้า ธนูดอกหนึ่งยิงออกมา ทะลุทองทำลายหิน แหลมคมอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
อะไรที่เรียกว่ากำแหง
เช่นนี้อย่างไรเล่า ไม่แม้แต่จะพูดกันก่อนสักคำก็เข้าสังหารช่วงชิงศุภโชคโดยตรง!
คนที่กล้าทำเช่นนี้ หากไม่ใช่พวกคนอวดดีที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ก็คือพวกคนดุร้ายที่มีความมั่นใจเปี่ยมล้น
ในใจหลินสวินไอสังหารพลุ่งพล่าน ตั้งแต่เขาเหยียบย่างระดับมกุฎราชัน ยังไม่เคยถูกใครกระทำเช่นนี้มาก่อน!
“หยุดมือ!”
เพียงแต่ยังไม่รอให้หลินสวินลงมือ เงาร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาแล้ว ฟันฝ่ามือลงไปทีหนึ่ง ตบใส่ธนูวิญญาณที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงนั่น ทำให้ทิศทางของมันเปลี่ยนไป
ตูม บนพื้นถูกกระแทกเป็นหลุมลึกทั้งอย่างนั้น พื้นดินสั่นสะเทือนขึ้นมาทันที!
เงาร่างนี้ก็คือเจิ้นอวิ๋นเฟิงนั่นเอง เมื่อเห็นว่าเป็นเขาหลินสวินก็ประหลาดใจเล็กน้อย พยายามข่มกลั้นไอสังหารในใจเอาไว้
ในเวลาเดียวกันพวกจี้ซิงเหยา โม่เทียนเหอเองก็ขยับเข้ามาใกล้ ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับหลินสวิน มองไปยังยานสำเภาลำนั้นด้วยสีหน้าทะมึน
“อู่ซานหลิน เจ้าโจมตีสหายของข้าโดยไม่แม้แต่จะคำพูดใด จะเผด็จการเกินไปหรือเปล่า”
เจิ้นอวิ๋นเฟิงสีหน้าเย็นเยียบ สายตาจ้องชายหนุ่มที่รูปร่างกำยำบนยานลำนั้น
‘เจ้าหมอนี่เป็นสัตว์ประหลาดยุคโบราณที่มาจากเผ่าแรดพลิกฟ้าแห่งแดนเร้นอริยะ เป็นบุคคลที่ดุร้ายอย่างที่สุดคนหนึ่ง’
ในเวลาเดียวกันจี้ซิงเหยาสื่อจิตกับหลินสวิน ‘เพียงแต่ เขากลับนั่งยานรบเพลิงลามของอูหลิงเต้าองค์ชายสิบสามเผ่าอีกาทองมา นี่เหนือความคาดหมายไม่น้อย’
เผ่าแรดพลิกฟ้า!
เผ่าที่มีชื่อเสียงอย่างมากในสมัยบรรพกาล รากฐานพลังไม่ด้อยไปกว่าเผ่าอีกาทอง เป็นเผ่าที่เชี่ยวชาญการต่อสู้แต่กำเนิด
เพียงแต่ความสนใจของหลินสวินถูกประโยคที่ว่า ‘อูหลิงเต้าองค์ชายสิบสามเผ่าอีกาทอง’ ดึงดูดไปอย่างสิ้นเชิง
สายตาของเขามองไปยังยานรบนั่น เพิ่งจะตระหนักได้ว่าที่แท้ยานลำนี้ก็เป็นของ ‘ศัตรู’ ของเขา
“ฮ่า ที่แท้ก็เป็นคนของจวนเทพขุมทมิฬ พวกเจ้าก็อยู่นี่ด้วยหรือ ขอโทษที เมื่อครู่นี้ไม่ได้สังเกตเห็นพวกเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์