Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 1209

สรุปบท ตอนที่ 1209 ราชันสงครามน้อย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 1209 ราชันสงครามน้อย – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1209 ราชันสงครามน้อย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

นิ้วมือเดียว อู่ซานหลินก็ถูกสังหารแล้ว!

แม้มีคันฉ่องเขาม่วงคุ้มกันก็ไร้ประโยชน์

อีกอย่างทั้งหมดนี้จบลงในชั่วพริบตา ว่องไวอย่างที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นพวกเจิ้นอวิ๋นเฟิงหรือเหล่าชายหญิงบนยานนั่นล้วนหวาดกลัวขึ้นมา สะท้านกันทั่วหน้า

อู่ซานหลินเป็นถึงมกุฎราชันที่แข็งแกร่งยิ่ง แต่กลับถูกสังหารเช่นนี้!

ตูมโครม!

ไม่รอทุกคนตอบสนอง เงาร่างสีทองเงาหนึ่งก็พุ่งสังหารเข้ามาแล้ว

นี่เป็นชายที่หล่อเหลาอย่างมากคนหนึ่ง มีผมสีทอง ลำตัวเต็มไปด้วยแสงสมบัติ มือถือทวนศึกดำที่เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์หมุนเวียน

คนผู้นี้ก็คืออูหลิงเต้า องค์ชายสิบสามแห่งเผ่าอีกาทอง!

เผ่าอีกาทองมีองค์ชายทั้งหมดสิบสามคน อูหลิงเต้าเด็กที่สุด แต่พลังต่อสู้ของเขากลับเหนือกว่าพี่ๆ พรสวรรค์น่าทึ่ง ถูกมองว่าเป็น ‘ราชันสงครามน้อย’ แห่งเผ่าอีกาทอง

ยามนี้ไม่สามารถช่วยอู่ซานหลินกลับมาได้ทันเวลา ทำให้อูหลิงเต้าอึ้งไปก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นสีหน้าก็อึมครึมเดือดดาล

ทวนศึกกวาดขวาง เฉือนห้วงอากาศขาดในทันที ปรากฏรอยแยกที่น่ากลัวราวกับฟ้าดินถูกตัดขาดออกจากกัน

สิ่งที่มาพร้อมกันยังมีเปลวเพลิงเทพไร้ขอบเขต แผ่ขยายเสิบสาน ทุกที่ที่ผ่านห้วงอากาศล้วนถูกเผา ภูเขาถูกหลอมละลาย

เพียงแค่การโจมตีเดียวก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของอูหลิงเต้า ทำให้ทุกคนต่างหัวใจสะท้าน แข็งทื่อไปทั้งตัว รีบถอยหนีอย่างรวดเร็ว

ปัง!

หลินสวินหมุนตัว ไม่หลบไม่หลีก พลังหมัดพุ่งปะทะทวนศึกอย่างจัง

พริบตานั้นฟ้าดินกึกก้อง เพลิงเทพอันน่าสะพรึงแผ่กระจายออกมาราวกับน้ำหลากโดยมีทั้งสองเป็นศูนย์กลาง ลมเมฆเปลี่ยนสี

เพราะเป็นการตอบโต้ในฐานะผู้ถูกกระทำ ทำให้เงาร่างหลินสวินเซอย่างต้านไม่อยู่ไปบ้าง เลือดลมพลิกตลบ อดประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้ พลังต่อสู้ของเจ้าหมอนี่ถือว่าดูถูกไม่ได้

ดวงตาของอูหลิงเต้าเองก็หรี่ลงเช่นกัน จากนั้นพลันแค่นเสียงเย็น ทวศึกสั่นคราหนึ่งแปลงเป็นแสงมรรคพันหมื่นสาย มืดฟ้ามัวดิน ราวกับคลื่นที่โหมกระหน่ำม้วนซัดสาด

เขาดุดันอย่างมาก เป็นสีทองอร่ามทั่วทั้งตัวราวกับเทพสงคราม ตำแหน่งปลายทวนศึกมีพลังไร้เทียมทาน

อีกอย่างกลิ่นอายที่แผ่ออกจากร่างกายของเขาเห็นได้ชัดว่าเหนือกว่าคนในรุ่นเดียวกัน แข็งแกร่งกว่าอู่ซานหลินไม่รู้เท่าไหร่

ปัง!

การต่อสู้อันน่าสะพรึงปะทุขึ้น พลังหมัดของหลินสวินทะลวงฟ้า พุ่งปะทะโดยตรง ทั้งสองหากคนหนึ่งเป็นเทพมาร อีกคนหนึ่งก็เป็นเทพสงคราม เข้าสังหารจนมืดฟ้ามัวดิน สุริยันจันทราไร้แสง

“ฆ่า!”

อูหลิงเต้ากล้าหาญยิ่งยง ยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่ง ทวนศึกในมือทำลายห้วงอากาศจนแหลกละเอียด โจมตีเวิ้งฟ้า อานุภาพไม่อาจต้านทาน

“แข็งแกร่งมาก!”

พวกเจิ้นอวิ๋นเฟิงต่างหวั่นไหว พวกเขาเคยได้ยินชื่อเสียงของอูหลิงเต้ามานานแล้ว แต่หลังจากได้เห็นอานุภาพของเขากับตาก็ยังคงหวาดหวั่น

“องค์ชายสิบสาม ฆ่าเจ้าเดรัจฉานนี่ซะ!”

กลุ่มชายหญิงบนยานรบต่างตื่นเต้นขึ้นมา

ก่อนหน้านี้หลินสวินสังหารชายชุดคลุมขาวและอู่ซานหลินติดต่อกัน ทำให้พวกเขาต่างขวัญหนีดีฝ่อ คล้ายจะเสียศูนย์

แต่ตอนนี้พออูหลิงเต้าปรากฏตัว ทำให้พวกเขามองเห็นความหวังอีกครั้ง!

“ไม่ว่าเจ้าเป็นใคร กล้าฆ่าคนต่อหน้าข้า วันนี้ก็ต้องตาย!”

ผมยาวสีทองของอูหลิงเต้าโบกสะบัด กวัดแกว่งทวนศึกเต็มกำลัง ประกายคมทวนยิ่งแข็งกร้าวและแหลมคม กวาดขวางล้างโลก สะท้านขวัญอย่างที่สุด

ครืนโครม!

ฟ้าดินทั้งผืนล้วนกำลังสั่นไหว ห้วงอากาศทลาย เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์สีทองโลดแล่น ขับให้อูหลิงเต้าราวกับราชันนสงครามที่ไร้เทียมทาน

“เจ้าหมอนี่… แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร”

หลายคนตกใจ ระดับมกุฎราชันไม่เคยมีมาก่อนในอดีต ไม่มีใครรู้ว่าความแข็งแกร่งอ่อนแอของพลังระดับขอบเขตนี้อยู่ตรงไหน

แต่จากตัวหลินสวินและอูหลิงเต้า กลับทำให้พวกเขาเกิดการรับรู้ที่ลึกซึ้งอย่างหนึ่ง

ในระดับขอบเขตนี้ ทั้งสองเรียกได้ว่าอยู่ในปลายยอดแล้ว ไม่มีมกุฎคนอื่นๆ เทียบได้!

ดังเช่นภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่ในโลกล้วนมียอดเขาที่สูงที่สุด แต่ความสูงระหว่างแต่ละเขากลับแตกต่างกันออกไป!

“ช่างสมกับที่เป็นราชันสงครามน้อยแห่งเผ่าอีกาทอง พลังต่อสู้ไร้เทียมทาน การต่อสู้ครั้งนี้องค์ชายสิบสามจะต้องชนะแน่!” บนยานรบหลายคนพูดเสียงเบา

ในระหว่างนี้หลินสวินอยู่ในสถานการณ์ของผู้ถูกกระทำเสมอมา ประกายแหลมคมของเขาถูกกดข่มไปบ้างแล้ว ไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนตอนที่สู้กับอู่ซานหลินก่อนหน้านี้

นี่ทำให้พวกจี้ซิงเหยา เจิ้นอวิ๋นเฟิงต่างอดกังวลไม่ได้

เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่า หลินสวินออมมือมาโดยตลอด!

ปัง!

ปะทะกันอีกครั้ง หลินสวินถูกสะเทือนจนถอยหลังไปสิบกว่าจั้ง

“เจ้าอยากตายอย่างไรว่ามา”

สีหน้าของอูหลิงเต้าเย็นยะเยือก สายตาเฉียบคม พุ่งสังหารเข้ามา ทวนศึกในมือเหมือนแทบจะลุกไหม้ แสงที่แสบตาออกมาพรุ่งพรูออกมา

ดวงตาดำของหลินสวินสาดประกายเยียบเย็น ตระหนักได้ว่าหากยังออมมือเพื่อปกปิดฐานะแท้จริง มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจไม่สามารถต้านทานอีกฝ่ายได้

เขาไม่หนีและไม่ปกปิดอีกต่อไป

ตูม!

ครู่ต่อมาร่างกายเขาสาดแสงไร้จำกัด เสียงมังกรครวญราวกับน้ำหลาก ปรากฏอักษรเคราะห์สีทองอร่ามเก้าตัวหมุนเวียนอยู่รอบกาย แผ่อานุภาพน่าเกรงขาม

ตึง!

อักษรเคราะห์ตัวหนึ่งทะยานออกมา แปลงเป็นสัตว์เทพปี้อั้น ถือประทับยักษ์กระแทกลงอย่างแรง ทวนศึกพลันร้องครวญ บิดเบี้ยวขึ้นมาทันที

ส่วนเงาร่างของอูหลิงเต้าที่พุ่งเข้ามาก็ถูกสะเทือนจนถอยหลังไปเช่นกัน

นี่ทำให้เขานัยน์ตาหดรัดลง สาดประกายน่ากลัวออกมา “ดูไม่ออกว่าเจ้าจะยังออมมือไว้!”

ทุกคนต่างสะท้านไหว ยังออมมืออีกหรือ

ความหมายที่ซ่อนอยู่นี้น่ากลัวอย่างที่สุด!

“เจ้า… เจ้าคือเทพมารหลิน!” แต่ตอนนี้เองเสียงตะโกนหนึ่งดังขึ้น

เจ้าของเสียงคือโม่เทียนเหอ เขาจำตัวตนของหลินสวินได้ในทันที สีหน้าเปี่ยมไปด้วยยากจะเชื่อ

เขาสงสัยเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่กลับไม่สามารถยืนยันได้ ทว่าตอนนี้พอเห็นพลังที่หลินสวินเผยออกมาจึงจำได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว

ตอนนี้แม้แต่อูหลิงเต้าคนนี้ก็ยังพูดว่าจะฆ่าตนไม่ขาดปาก เห็นตนเป็นอะไร

“ตาย!”

อูหลิงเต้าคำราม เขาสะกดกลั้นไอสังหารของตนไม่อยู่แล้ว พุ่งเข้าไปราวกับตะวันดวงโตที่ลุกโหม เงาร่างเจิดจ้าพร่าตา

ตูม!

ในเวลาเดียวกันหลินสวินเองก็ออกโจมตี สำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์และมังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร อานุภาพแข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่นี้ช่วงใหญ่

ปัง!

พริบตานั้นร่างกายของอูหลิงเต้าสั่นสะท้าน พลังที่ส่งผ่านมามาจากทวนศึกราวกับภูเขาถล่มสมุทรทลาย ทำเอาเขาแทบจะสะเทือนถอย

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นร้องคำรามรุกโจมตีต่อ

ก่อนหน้านี้เพราะหลินสวินออมมือจึงถูกเขาข่มประกาย แต่ตอนนี้แตกต่างไปแล้ว

ในการต่อสู้หลังจากนั้น สถานการณ์พลิกผันอย่างเห็นได้ชัด อานุภาพของหลินสวินไม่มีอะไรต้านทานได้ พุ่งไปข้างหน้าอย่างแข็งกร้าวราวกับเทพมารออกรบ

ไม่ว่าพลังทวนศึกของอูหลิงเต้าจะน่ากลัวและแหลมคมเพียงใด ล้วนถูกหลินสวินใช้พลังที่ยอดเยี่ยมบดขยี้และทำลายล้าง!

“นี่…”

ทุกคนบนยานรบอึ้งงัน สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไวเกินไปทำให้พวกเขาตอบสนองไม่ทัน

“มิน่าถึงสามารถกวาดล้างภูเขาแดนมงคลได้มากมาย ภายใต้ชื่อเสียงที่เลื่องลือมาพร้อมความสามารถที่แท้จริงโดยแท้” พวกเจิ้นอวิ๋นเฟิงอดประทับใจไม่ได้

พอนึกได้ว่าจินตู๋อีที่ร่วมทางกันมา กลับเป็นเทพมารหลินที่อานุภาพดุร้ายสะเทือนฟ้า ในใจพวกเขาพลันมีความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนยากอธิบาย

ถึงขั้นที่นึกถึงแล้วยังรู้สึกกลัว โชคดีที่ไม่ได้ล่วงเกินเจ้าหมอนี่ ไม่อย่างนั้นต้องถูกเล่นงานอย่างแน่นอน…

ตึง!

ทันใดนั้นเสียงระเบิดก้องหูดังขึ้น พลันเห็นบนท้องฟ้าหลินสวินถึงกับคว้าทวนศึกด้วยมือเปล่า นิ้วทั้งห้าราวกับเหล็กพืด ยึดทวนเอาไว้แน่น

จากนั้นฝ่ามือออกแรงสะเทือนโดยพลัน

ทวนศึกเล่มนี้บิดเบี้ยวและโหยหวนขึ้นมาทันที!

ทุกคนสูดหายใจด้วยความตกใจ นี่ต้องเป็นพลังที่แข็งแกร่งเพียงใด จึงสามารถปะทะทวนศึกด้วยมือเปล่าได้

อูหลิงเต้าหน้าเปลี่ยนสีไปอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าหลินสวินที่ไม่ออมมือแล้วจะวิปริตถึงเพียงนี้ กล้าคว้าทวนศึกด้วยมือเปล่า!

“ไสหัวไป!”

เขาตะเบ็งเสียง พลังต่อสู้ทั่วตัวพลุ่งพล่าน ส่งพลังไปที่แขนหมายจะสะเทือนซัดนิ้วทั้งห้าของหลินสวินให้แหลก สะบัดร่างของเขาออกไป

แววตาหลินสวินเย็นชา โคจรโทสะหยาจื้อ พลังอันยิ่งใหญ่น่ากลัวสายหนึ่งปะทุออกมา เสียงครึ่กดังขึ้นทีหนึ่ง ก็บิดทวนศึกจนหักงอได้ทั้งอย่างนั้น!

ปัง!

ด้วยไม่ทันตั้งตัวร่างของอูหลิงเต้าสะท้านอย่างรุนแรง เลือดลมทั่วตัวตีกลับ ข้อมือเกือบถูกสะเทือนจนแหลก ทวนศึกที่แตกหักปลิวหลุดมือ

ส่วนร่างกายของเขาเซถอย ได้รับการกระทบกระเทือนน่ากลัว

ทุกคนหนังหัวชาวาบราวกับเห็นผี เทพมารหลินนี่… ป่าเถื่อนเกินไปแล้วกระมัง

………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์