อ่านสรุป ตอนที่ 1233 ปล้นสักหน่อย จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 1233 ปล้นสักหน่อย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
สังหารอย่างดุเดือดในการโจมตีเดียว!
ภาพคาวเลือดนั่นมีแรงจู่โจมอันรุนแรงอย่างหนึ่ง
ชายหนุ่มชุดทองที่ถูกฆ่านามว่าถังลวี่ เป็นราชันระดับมกุฎเช่นกัน แต่ตอนนี้แม้แต่หมัดเดียวยังต้านไม่อยู่ สิ้นชีพ ร ที่นั้น
ฝนเลือดสาดกระเซ็น หลินสวินยืนอยู่บนเมฆมงคลสีเลือดที่เดิมถังลวี่เคยยืน นัยน์ตาดำเย็นเยียบ ท่าทางนิ่งเฉยไม่แยแส
เพียงแต่สายตาที่ทุกคนมองเขาอีกครั้งได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
นี่เป็นพวกร้ายกาจคนหนึ่ง!
ผู้แข็งแกร่งที่อยู่บริเวณใกล้ๆ หลินสวิน ถึงขั้นระมัดระวังและเตรียมพร้อมขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ราวกับเผชิญศัตรูที่แข็งแกร่ง
“เทพมารหลิน!”
และตอนนี้เองมีคนจำฐานะของหลินสวินได้ พลันทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นในที่นั้น
หลายคนต่างเผยสีหน้าเข้าใจได้ในทันที มิน่าถึงกล้าแข็งกร้าวเช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นคนร้ายกาจที่กำเริบเสิบสานไม่สนฟ้าดินในคำเล่าลือ
ผู้แข็งแกร่งส่วนใหญ่ในที่นั้นล้วนไม่เคยเห็นหลินสวิน แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ขัดขวางความเข้าใจในคำว่า ‘เทพมารหลิน’ สามคำนี้ของพวกเขา
ชั่วขณะเดียวแม้แต่บุคคลชั้นยอดบางส่วนในที่นั้นก็เริ่มให้ความสนใจและความสำคัญ ไม่กล้ามองว่าหลินสวินเป็นคนผ่านทางแล้ว
ส่วนพวกเซวียเป่าจี ทั่วป๋าหุนต่างอึ้งงัน ตาค้างไปแล้ว
แน่นอนว่าพวกเขาเองก็รู้จักเทพมารหลิน แต่คิดไม่ถึงว่าคู่ต่อสู้ที่พวกเขาเคียดแค้นที่สุดคนหนึ่ง กลับเป็น…
ชั่วขณะนี้พวกเขาต่างรู้สึกอยากจะกระอักเลือด หากรู้เรื่องนี้แต่แรก ตอนที่ข้ามแม่น้ำนรกพวกเขาคงไม่กระทำกับหลินสวินเช่นนั้นแน่!
น่าเสียดายที่เสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว
สำหรับพวกหวังจื่ออิง ยามนี้แม้แต่คำพูดก็ไม่กล้าเอ่ยแล้ว
ตอนที่อยู่บริเวณหินไตรภพ แม้พวกเขาจะถูกบังคับให้ยอมแพ้ แต่ในใจได้ล้มเลิกความคิดที่จะต่อสู้กับหลินสวินแล้ว
ช่วยไม่ได้ พวกเขาต่างรู้ดีว่าพลังต่อสู้ของเทพมารหลินแข็งแกร่งเพียงใด ไม่ใช่บุคคลที่คนอย่างพวกเขาสามารถล่วงเกินได้
แน่นอนว่าหากมีคนกระโดดออกมาหมายหัวเล่นงานหลินสวิน พวกเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง
“สหายยุทธ์หลิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าถังลวี่เป็นใคร”
จู่ๆ ก็มีคนพูดขึ้น แฝงแววมีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่น
ทุกคนอึ้งไปก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นราวกับตระหนักได้ถึงบางอย่าง สีหน้าเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดขึ้นมา
หลินสวินพูดเสียงเรียบ “คนตายคนหนึ่งเท่านั้น ข้าจะสนใจไปทำไมว่าเขาเป็นใคร”
คำพูดประโยคนี้เผด็จการอย่างที่สุด
หลายคนแอบชื่นชม ช่างสมกับที่เป็นเทพมารหลินผู้ไม่เกรงกลัวอะไร เพียงแค่ความกล้าก็เพียงพอจะทำให้หลายคนรู้สึกสู้ไม่ได้แล้ว
ทั้งยังมีคนหัวเราะเยาะ “หลินสวิน ขอบอกเจ้าอย่างไม่มีปิดบัง ถังลวี่นี่มาจากลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรอ้าวไหล ปู่ของเขาคือโหรถังมู่แห่งลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกจากปาก สีหน้าของทุกคนในที่นั้นต่างแปรเปลี่ยนขึ้นมา
ไม่ว่าใครที่รู้จักลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ล้วนรู้ดีว่า นี่คือแดนเร้นอริยะที่เล่นงานยากมากแห่งหนึ่ง ลูกศิษย์ในสำนักมากมายนับไม่ถ้วน แต่ละคนล้วนเหี้ยมโหดไม่กลัวตาย
แม้ความสามารถจะสู้เจ้าไม่ได้ แต่ก็กล้าสู้กับเจ้าอย่างสุดชีวิต!
หากเพียงเท่านี้ก็ยังไม่เพียงพอจะทำให้ใครๆ กลัว
สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ คือ ทุกคนที่ถูกลัทธินี้มองว่าเป็นศัตรู ไม่ว่าใครล้วนต้องถูกตามฆ่าจนกว่าจะตาย!
วิธีปฏิบัติเช่นนี้คล้ายเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬอย่างมาก แต่ที่ต่างคือ ลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นแดนเร้นอริยะ ความแข็งแกร่งของอิทธิพล รากฐานที่พวกเขามี เหนือกว่าเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬมาก!
แม้อยู่ในกลุ่มแดนเร้นอริยะด้วยกัน หากพูดถึงอำนาจและอิทธิพล ลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นลัทธิที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
โดยทั่วไปแล้วไม่มีใครอยากล่วงเกินลูกศิษย์ของลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เพราะพวกนี้เหมือนฝูงคนคลั่งที่เลือดเย็นไร้ปรานี
ไม่เพียงแค่เหี้ยมกับศัตรู กับตัวเองยังเหี้ยมยิ่งกว่า!
และตอนนี้หลินสวินสังหารถังลวี่ หากแพร่ออกไปจะต้องถูกลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์หมายหัวอย่างแน่นอน รอกลับจากแดนมกุฎ คงถูกแก้แค้นไม่มีเลิกลาแน่
สำนักอื่นๆ บางทีอาจจะยังหวาดเกรงศักยภาพและพลังอำนาจของหลินสวิน ไม่ลดตัวลงไปถือสาคนรุ่นหลังอย่างหลินสวินมากขนาดนั้น
แต่ลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่!
สำนักนี้ แม้อริยะก็กล้าฆ่า!
เพราะฉะนั้นหลังจากทุกคนตอบสนอง สายตาที่มองไปทางหลินสวินก็แปลกไปไม่มากก็น้อย
เป็นความจริงที่ว่าในแดนมกุฎแห่งนี้ เทพมารหลินอาจจะกำเริบเสิบสานไม่เกรงกลัวใคร ความสามารถเหนือกว่าคนในรุ่นเดียวกันช่วงใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถถูกกำราบได้!
ไม่ว่าอย่างไรต่อให้เจ้าเทพมารหลินสามารถมีชีวิตรอดออกจากแดนมกุฎ แต่มีหรือที่ศัตรูพวกนั้นจะปล่อยเจ้าไป
เพียงแค่ลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็เพียงพอที่เจ้าจะเดือดร้อนครั้งใหญ่แล้ว!
“ลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์……”
ตอนนี้หลินสวินนึกถึงตอนอยู่ในแม่น้ำพรมแดน ประสบการณ์ล้อมโจมตีจากลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ เป้าหมายที่พวกเขาจะเล่นงานคือเยวี่ยไฉ่เวย
ไม่ว่าอย่างไรความแค้นก็ได้ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
เพราะฉะนั้นตอนที่เห็นว่ามีคนกล้าใช้ชื่อของลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์มาขู่ตน หลินสวินก็อดรู้สึกตลกไม่ได้
เขากวาดมองทุกคนพร้อมพูดว่า “ตั้งแต่เข้าสู่ดินแดนรกร้างโบราณ ข้าเคยกลัวใครที่ไหน หากอยากดูเรื่องครื้นเครงของข้าหลินสวิน กลัวว่าคงจะทำให้ผิดหวังแล้ว!”
เสียงทรงพลังมีความเย่อหยิ่ง
ทันใดนั้นสีหน้าของผู้ฝึกปราณหลายคนในที่นั้นพลันไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมา
และมีหลายคนนึกถึงเรื่องฮือฮาต่างๆ ที่หลินสวินเคยทำในดินแดนรกร้างโบราณ ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้
หวนคิดถึงตอนนั้น เทพมารหลินเผยฤทธิ์เดชที่แดนฐิติประจิมเป็นครั้งแรก เคยประกาศกร้าวว่า ‘สักวันจะสังหารสุนัขมายาทมิฬทั่วหล้า’ ชื่อเสียงสะเทือนฝั่งหนึ่ง
กำราบเหล่าผู้กล้าในเทศกาลโคมกถามรรค พิสูจน์มหามรรค ดึงดูดความสนใจจากทั่วทุกสารทิศ!
จวบจนกระทั่งเข้าสู่แดนชัยบูรพา ชิงชัยกับผู้สืบทอดสำนักโบราณอย่างแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ สร้างความวุ่นวายไม่หยุดหย่อน เป็นที่สนใจของคนทั่วหล้า
“เป็นข้าน้อยเอง” หวังเสวียนอวี๋ประสานมืออย่างนอบน้อม ท่าทางเป็นสง่ายิ่ง
ช่างสมกับที่เป็นผู้นำของผู้สืบทอดสำนักเอกอุ แค่เพียงบุคลิกเช่นนี้ก็ทำให้หลายคนตาเป็นประกายแล้ว
“มีเรื่องหนึ่งจะคุยกับเจ้า”
หลินสวินเองก็ยิ้ม เขาดูออกว่าภายใต้รูปลักษณ์ที่อ่อนโยนและสุภาพของหวังเสวียนอวี๋ ซ่อนความเย่อหยิ่งที่เกินกว่าปกติ
“พี่หลินเชิญว่ามาได้เลยมิต้องเกรงใจ”
สีหน้าของหวังเสวียนอวี๋ไม่ได้เผยอารมณ์ ท่าทีเรียบเฉย อ่อนโยนและสุขุม
“ง่ายมาก ไม่ว่าศุภโชค ณ ที่แห่งนี้จะตกเป็นของใคร ฉวยโอกาสนี้ข้าอยากจะขอ…”
ตอนที่หลินสวินพูดถึงตรงนี้ ทุกคนต่างแปลกใจขึ้นมาทันที พลันหูตั้งขึ้นมา
“ปล้นเจ้าสักหน่อย”
ตอนที่ได้ยินคำนี้ สีหน้าของทุกคนล้วนแตกต่างกันไป หลายคนเกือบจะสำลัก ไออย่างรุนแรงไม่หยุด
ปล้นสักหน่อยหรือ
เทพมารหลินนี่ตรงเกินไปหรือเปล่า
แม้แต่หวังเสวียนอวี๋เองยังอึ้งงัน รู้สึกเหนือความคาดหมาย อดยิ้มขื่นไม่ได้ “พี่หลิน คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร”
ไม่ได้โกรธและไม่ได้โมโห เพียงแต่มีท่าทางหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ความสุขุมเช่นนี้ยอดเยี่ยมมาก
หลินสวินยิ้มน้อยๆ พูดว่า “ช่วยไม่ได้ สหายของข้าถูกเจ้าฉวยโอกาสทีเผลอ เสียเพลิงมรรคฟ้าประทานไปดวงหนึ่ง ข้าจะนิ่งดูดายได้อย่างไร”
ที่แท้ก็ออกหน้าเพื่อสหาย!
คนไม่น้อยเข้าใจในทันที
และมีคนลอบตกใจ หวังเสวียนอวี๋ถึงกับชิงเพลิงมรรคฟ้าประทานมาได้ดวงหนึ่ง!
“ที่แท้ก็เพราะเรื่องนี้”
หวังเสวียนอวี๋ก็นึกออกแล้ว อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ “พี่หลิน แย่งชิงวาสนากันก็เท่านั้น เรียกว่าฉวยโอกาสทีเผลอได้อย่างไร อีกทั้งตอนนั้นข้าไม่ได้กระทำรุนแรง เรื่องนี้คิดว่าเจ้าเองก็คงรู้ดี”
หลินสวินพยักหน้า “ไม่ผิด ข้าเห็นด้วยกับเรื่องนี้มาก เพราะฉะนั้นตอนที่ข้าปล้นชิง ก็จะปล้นชิงเท่านั้นไม่ฆ่าคน หากไม่เชื่อเจ้าสามารถถามสหายยุทธ์ถานไถหลิ่วได้”
ถูกหลินสวินเอ่ยชื่อท่ามกลางสายตาของทุกคน ถานไถหลิ่วอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเสียเดี๋ยวนี้ สีหน้าอึมครึม แพ้หลินสวินอย่างราบคาบแล้ว ข้ายังจะเถียงอย่างไรได้อีก
หวังเสวียนอวี๋ยังคงมีท่าทีนิ่งเฉย ถึงขั้นยังยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า “พี่หลิน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นรอตอนที่ศุภโชคครั้งนี้ปรากฏ พวกเราสองคนมาวัดความสามารถกันสักหน่อยเป็นอย่างไร”
หลินสวินพยักหน้า “ได้!”
ทันใดนั้นประกายแสงสายหนึ่งแวบผ่านสายตาของหวังเสวียนอวี๋ ราวกับมีปลาหยินหยางว่ายผ่านแล้วหายไปโดยพลัน
เขามองหลินสวินที่อยู่ห่างออกไปเงียบๆ ยิ้มโดยไม่พูดอะไร
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์